BANGKOK RECORDER


BANGKOK RECORDER

Vol. 1 เล่ม ๑ บางกอก เดือน หก แรม หก ค่ำ จุลศักราช ๑๒๒๗ May 15th 1865. คริศศักราช ๑๘๖๕ ใบ ๖ No. 6.

จดหมายเหตุเดิม

เรียกว่า บางกอก รี้คอเดอ, ที่ พวก มิสชัน เนรี่, ได้ จัด แจง
ตีพิมพ์ เมื่อ จุล ศักราช ๑๒๐๖, แล เมื่อ จุล ศักราช ๑๒๐๗
นั้น, แล้ว ก็ หยุด เสีย มิ ได้ ทำ ต่อ มา. แต่ หนังสือ บางกอก รีคอ
เดอ เล่ม เก่า นั้น ได้ ตก อยู่ กับ ข้าพเจ้า เล่ม หนึ่ง. ข้าพเจ้า คิด
เหน ว่า คง จะ ตก ค้าง อยู่ ที่ ท่าน ผู้ อื่น บ้าง. จึ่ง มี คน หลาย คน
มา ขอ ให้ ข้าพเจ้า จัด แจง ตี พิมพ์ หนังสือ บางกอก รี้คอเดอ, เล่ม
เก่า นั้น อีก จบ หนึ่ง, เพราะ ว่า ใน หนังสือ เล่ม นั้น มี วิชา การ ดี
หลาย อย่าง. ข้าพเจ้า จึ่ง ตั้ง ใจ ว่า จะ คัด เอา ข้อ ใจ ความ ที่
จะ สำแดง วิชา การ ต่าง ๆ ใน เล่ม เดิม นั้น, ลง พิมพ์ มา ใน หนัง
สือ จด หมาย เหตุ, ที่ เรียก ว่า บางกอก รี้คอเดอ ใหม่ เล่ม นี้
ต่อ ไป ด้วย.


๏ สำแดง ตำรา ไฟ ฟ้า

๏ อัน ว่า ไฟ ฟ้า นั้น อยู่ ใน ดิน ทุก แห่ง, แต่ ทว่า อยู่ แห่ง
ละน้อย ๆ ทั่ว ทั้ง แผ่นดิน. แล ไฟ ฟ้า นั้น ออก จาก ดิน ที่ ละ
น้อย ๆ ทุก เวลา, ขื้น พร้อม กับ อาย ดิน แล อาย น้ำ, ขื้น ไป
ประชุม พร้อม กัน อยู่ ใน เมฆ. อัน ธรรมดา ไฟ ฟ้า นั้น ถ้า ประชุม
อยู่ ใน เมฆ ก้อน หนึ่ง มาก, ใน เมฆ ก้อน หนึ่ง น้อย, ถ้า แล เมฆ
สอง ก้อน นั้น ลอย มา ใกล้ กัน เข้า แล้ว, ไฟ ฟ้า ที่ มาก นั้น ก็ จะ
แตก แล่น แลบ ไป หา เมฆ ที่ น้อย ให้ อยู่ เท่า กัน. เพราะ เหตุ
ดัง นั้น เรา จึ่ง ได้ เหน, เมื่อ ฟ้า ร้อง แล ฟ้า แลบ แล่น ไป จาก เมฆ
ก้อน หนึ่ง, ไป ถึง เมฆ ก้อน อื่น. อีก ประการ หนึ่ง, เมฆ ซึ่ง
เตม ด้วย ไฟ ฟ้า นั้น, ถ้า ลอย ลง มา ใกล้ แผ่นดิน แล้ว, ไฟ ฟ้า ที่
มี มาก อยู่ ใน เมฆ นั้น, ก็ จะ แตก แลบ แล่น ออก ไป หา ไฟ ฟ้า ที่
น้อย ที่ อยู่ ใน ดิน ให้ เสมอ เท่า กัน. อัน ธรรมดา ไฟ ฟ้า แลบ ลง
มา จาก เมฆ นั้น, ก็ ย่อม ลง มา ตาม ของ อัน ตั้ง อยู่ สูง, คือ เสา
กระโดง, แล ต้นไม้, แล เรือน, เปน ทาง ที่ สายฟ้า จะ ลง มา ถึง
แผ่นดิน.

แต่ ทว่า มี ของ หลายสิ่ง ที่ ไม่ ชอบ กับ ไฟ ฟ้า, คือ แก้ว,
แล ยางไม้, แล กำมะถัน, แล ไหม, แล ขนสัตว์ ทั้งปวง,
แล ไม้ ที่ อย่าง ไฟ ภอ แห้ง, สิ่ง ทั้งปวง เหล่า นี้ ไม่ ชอบ กับ ไฟ
ฟ้า, ไม่ เปน หน ทาง แห่ง ไฟ ฟ้า. แล สิ่ง ของ ที่ ไฟ ฟ้า ชอบ
มัก ตาม ไป นั้น, คือ เงิน เปน ต้น, แล ทอง แดง เปน ที่ สอง,
ทอง คำ เปน ที่ สาม, สังกระสี เปน ที่ สี่, เหลก เปน ที่ ห้า, ตกั่ว
เกรียบ เปน ที่ หก, ตกั่ว ดำ เปน ที่ เจด. เมื่อ ไฟฟ้า มา ใกล้ จะ ถึง
สิ่ง ทั้งปวง นี้, สิ่ง นี้ ก็ ย่อม ดูด ชัก ให้ ไฟ ฟ้า ลง ไป ตาม สิ่ง นี้.

นักปราช ทั้งปวง ได้ เหน ดังนั้น จึง คิด ดู ว่า, เงิน แล เหลก
แล ทอง แดง ชัก ดูด ไฟ ฟ้า มาก เท่า ไร, แล้ว จึง คิด ทำ เปน ตำรา
ห้าม ไฟ ฟ้า, มิ ให้ ตก ต้อง เปน ต้น ว่า เรือน, แล กำปั่น, แล สิ่ง
ของ ทั้งปวง. ถ้า แล มี ที่ เปน ปริมณฑล กลม เล็ก ใหญ่ เท่า ใด
มิ ได้ กำหนด, ถ้า จะ มิ ให้ ไฟ ฟ้า ตก ลง ถูก, จึง เอา เงิน ก็ ได้,
แล เหลก อ่อน ก็ ได้, แล ทอง แดง ก็ ได้, เอา แต่ อย่าง เดียว ทำ
ให้ เปน สี่ เหลี่ยม สาม กระเบียด, ปัก ลง ไว้ ใน ดิน ให้ สูง ส่วน
หนึ่ง, ให้ วัด ดู ที่ วง นั้น โดย ตรง เปน สี่ ส่วน เอา ส่วน หนึ่ง, จึง
เอา แท่ง เงิน ก็ ได้, แล แท่ง เหลก อ่อน ก็ ได้, แล แท่ง ทอง แดง
ก็ ได้, ตาม แต่ จะ เอา อย่าง หนึ่ง, ทำ ให้ เปน สี่ เหลี่ยม สาม กระ
เบียด ปัก ตั้ง แต่ ดิน ขึ้น ไป, ให้ สูง เท่า ส่วน หนึ่ง นั้น. เมื่อ ไฟ
ฟ้า ผ่า ลง มา ก็ จะ ลง มา ตาม แท่ง เงิน, แล แท่ง เหลก อ่อน แล
แท่ง ทอง แดง, ที่ ปัก ไว้ มิ ได้ ถูก ต้อง ของ อื่น ๆ ใน ปริมณฑล
นั้น เลย. ถ้า วง นั้น กว้าง แปด วา, ก็ จะ ต้อง ปัก แท่ง เงิน แล
แท่ง เหลก อ่อน แล แท่ง ทอง แดง ให้ สูง สอง วา. ใน เมือง นอก
นั้น, เขา ได้ ใช้ แต่ เหลก อ่อน อย่าง เดียว, เพราะ ราคา ถูก กว่า
เงิน แล ทอง แดง.

ถ้า เรือน ยาว แปด วา จะ ไม่ ให้ ไฟ ฟ้า ตก ลง ถูก เรือน นั้น, ก็
ให้ ปัก แท่ง เหลก สี่ เหลี่ยม สาม กระเบียด ตรง น่า จั่ว ข้าง นอก.
ถ้า ปัก ข้าง เดียว, ตั้ง แต่ ดิน ขึ้น มา ให้ สูง พ้น อก ไก่ ขึ้น ไป สี่
วา, ถ้า ปัก ข้าง นอก จั่ว ทั้ง สอง ข้าง, ให้ สูง พ้น อก ไก่ ข้าง ละ
สอง วา, ก็ จะ กัน ไฟ ฟ้า ได้. อีก อย่าง หนึ่ง, ให้ ปัก นอก จั่ว
ข้าง เดียว, ให้ สูง กว่า อก ไก่ น่อย หนึ่ง, แล้ว ให้ ต่อ เหลก ทอด
ไป ตาม อก ไก่ ให้ ถึง ท่า กลาง อก ไก่, แล้ว ให้ ติด กัน เหมือน
ทอ ขึ้น ไป ตรง กลาง อก ไก่ ให้ สูง สอง วา, ก็ จะ กัน ไฟ ฟ้า ได้.
ถ้า เรือน ยาว กว่า ห้า วา, ให้ ปัก แท่ง เหลก ทั้ง สอง ข้าง น่า จั่ว,
ให้ สูง กว่า ส่วน ที่ ว่า มา แล้ว นั้น น่อย หนึ่ง, ก็ จะ ดี กว่า ปัก ข้าง
เดียว. แล ที่ ปลาย แท่ง เหลก ข้าง บน นั้น ให้ แหลม เปน สาม
ง่าม สี่ ง่าม, ยาว ง่าม ละ หก นิ้ว, แล ปลาย ง่าม ข้าง บน, หุ้ม
เงิน ก็ ได้, หุ้ม ทอง แดง ก็ ได้, อย่า ให้ เปน สนิม. แล ข้าง ต้น
เหลก ที่ ปัก ลง ใน ดิน นั้น, ให้ ทำ เปน สาม ง่าม สี่ ง่าม, ให้ ปัก
ไกล ออก จาก เรือน ลง ใน ดิน ประมาณ สอง ศอก สาม ศอก, ภอ
ถึง ดิน เปียก.

ใน เมือง อังกฤษ, แล เมือง อเมริกา, แล เมือง อาละมาน
นั้น, เขา ได้ กระทำ กัน เรือน ห้าม ไฟ ฟ้า อย่าง นี้ เปน อัน นาก.
ไฟ ฟ้า มิ ได้ ผ่า ถูก เรือน, แล มิ ได้ ถูก ต้อง คน ซึ่ง อยู่ ใน เรือน
นั้น เลย. ถ้า กลัว ว่า สนิม จะ กิน ต้น เหลก ที่ อยู่ ใน ดิน นั้น,
ให้ ใส่ ถ่าน ไฟ น่อย หนึ่ง ให้ รอบ เหลก นั้น. ประการ หนึ่ง, เมื่อ
จะ ปัก แท่ง เหลก นั้น, ให้ มี สาย ยู เหลก, แล ห่วง เหลก ติด
ไว้, แล้ว ให้ เอา ผ้า ชุบ ครั้ง, แล ชัน พัน สาย ยู แล ห่วง นั้น
เสีย, เพื่อ จะ มิ ให้ ไฟ ฟ้า ตาม เหลก นั้น เข้า ไป ใน เรือน, เพราะ
ไฟ ฟ้า มิ ได้ ชอบ กัน กับ ครั้ง แล ชัน. จึ่ง เอา แท่ง เหลก สี่
เหลี่ยม สาม กระเบียด ปัก ลง ใน สาย ยู แล ใน ห่วง นั้น เหมือน ที่
ว่า มา แล้ว.

อีก ประการ หนึ่ง, ถ้า จะ มิ ให้ ไฟ ฟ้า ตก ถูก กำปั่น ก็ ดี, สำ
เภา ก็ ดี, ให้ ปัก เหลก สี่ เหลี่ยม สาม กระเบียด บน ปลาย เสา กระ
โดง, ให้ สูง ภอ ประมาณ ก็ จะ กัน ไฟ ฟ้า ได้. ถ้า กำปั่น มี สาม
เสา, จะ ต้อง ปัก เสา หัว, แล เสา ท้าย ทั้ง สอง เสา, แล้ว จึ่ง
เอา โซร่ พัน ให้ ติด กับ เหลก นั้น, ให้ ล่าม โซร่ นั้น ลง มา ให้ ติด
กับ ทอง แดง ที่ ท้อง กำปั่น นั้น, ไฟ ฟ้า ก็ จะ ตาม โซร่ ลง ไป ถึง
ทอง แดง, แล้ว จะ ตาม ทอง แดง ลง ไป ใน น้ำ. ถ้า ไม่ มี ทอง
แดง ก็ ให้ โซร่ นั้น ลง ไป ใน น้ำ ศัก ศอก สอง ศอก ก็ ได้.

อีก ประการ หนึ่ง, ตึก ที่ สำหรับ ไว้ ดิน ปืน จะ มิ ให้ ไฟ ฟ้า ลง
ถูก ไหม้, ให้ ปัก เสา ทั้ง สี่ มุม, ให้ ห่าง ตึก ศอก หนึ่ง, สอง ศอก
ก็ ได้, ให้ ปัก เหลก สี่ เหลี่ยม สาม กระเบียด ลง ใน ดิน ให้ เข้า ใน
สาย ยู ทุก เสา, ให้ สูง กว่า อก ไก่ ตึก นั้น ตาม ตำรา ที่ ว่า มา
แล้ว, ไฟ ฟ้า จะ มิ ได้ ถูก ต้อง ตึก นั้น เลย. มาทว่า ไฟ ฟ้า จะ
ลง มา เหลก นั้น ก็ จะ ชัก ให้ ลง ไป ใน ดิน สิ้น.

อีก ประการ หนึ่ง, ถ้า คน กลัว ไฟ ฟ้า จะ ตก ลง ถูก ตัว, ให้
ทำ เก้าอี้ แล เตียง นอน, ให้ ทำ ตีน เตียง แล ตีน เก้าอี้ นั้น, ด้วย
แก้ว ก็ ได้, ครั่ง ก็ ได้, ชัน ก็ ได้, สูง ศอก หนึ่ง สอง ศอก ก็ ได้,
ถ้า คน นั่ง นอน อยู่ บน เตียง แล เก้าอี้ นั้น, อย่า ได้ ถูก ต้อง ของ
สิ่ง อื่น, อย่า ให้ ท้าว แล มือ ห้อย ลง ไป ใกล้ พื้น เรือน, ให้ อยู่ แต่
บน เตียง แล บน เก้าอี้ นั้น. ถึง ไฟ ฟ้า จะ ตก ลง บน ศีร์ษะ คน
นั้น, ๆ ก็ มิ ได้ เปน อัน ตราย, เพราะ ไฟ ฟ้า มิ ได้ แล่น ออก จาก
ตัว เรว. ถ้า คน จะ เอา ผ้า แพร ทำ ด้วย ไหม, คลุม ศีร์ษะ กับ ทั้ง
ตัว ไว้, ก็ มิ ได้ เปน อัน ตราย, เพราะ ไฟ ฟ้า มิ ได้ ชอบ กับ ไหม
นั้น.

อัน ตำรา ไฟ ฟ้า นี้, นัก ปราช, ผู้ ชื่อ ว่า ฝรั่ง กลิ้น, เปน ชาว
เมือง อะเมริกา, สัก แปด สิบ ปี แล้ว, ได้ คิด ทำ ไว้ เปน ต้น.


ตำรา
รักษา คน ถูก สาย ฟ้า

ลำดับ นี้ จะ ว่า, ด้วย คน ที่ ต้อง อัศุนีบาต คือ ถูก สาย ฟ้า ผ่า
นั้น โดย สังเขป. ถ้า คน ถูก ใหม่ ๆ, สลบ ไป เหมือน ตาย แล้ว
ก็ ดี, บาง ที่ ก็ รักษา รอด ได้ บ้าง. เมื่อ แพทย์ จะ รักษา นั้น,
ให้ เอา คน ผู้ ต้อง ถูก สาย ฟ้า นั้น, ให้ นอน อยู่ ที่ กลาง แจ้ง.
เมื่อ นอน นั้น, ยก ศีศะ แล ไหล่ ทั้ง สอง ขึ้น วาง บน หมอน ให้ สูง
หน่อย หนึ่ง. แล้ว จึง ให้ เอา น้ำ ที่ เย็น นัก ประมาณ ศัก ถัง
หนึ่ง, แล้ว รด ให้ สูง ๆ ตั้ง แต่ ศีศะ ลง ไป ให้ ทั่ว ทั้ง กาย แล้ว.
ถ้า คน ไข้ สดุ้ง ขึ้น มา ได้, ก็ พึง เข้า ใจ เถิด ว่า รักษา ได้. แล้ว
ให้ เอา น้ำ เย็น เหมือน น้ำ ห้วย เท รด ซ้ำ ลง เปน คราว ๆ, ให้
หลาย ครั้ง, จน คน ไข้ หาย ใจ เข้า ออก ได้. ถ้า ยัง ไม่ หาย
ใจ, ก็ ให้ เอา มือ บีด จมูก คน ไข้ ไว้, แล้ว ให้ คน หนึ่ง เป่า ลม
เข้า ไป ตาม ช่อง ปาก, ให้ ลม แล่น เข้า ไป ถึง ปอด แล้ว, เอา
มือ ทั้งสอง ประคอง กก เข้า ที่ ชาย โครง ทั้ง สอง ข้าง, แล้ว กด ที่
ท้อง น้อย ดัน ลม ขึ้น ไป ด้วย, แล ลม ซึ่ง เป่า เข้า ไป นั้น ก็ จะ
กลับ ออก มา. แล้ว ให้ เป่า ซ้ำ เข้า ไป ดั่ง กล่าว มา นั้น, ให้
หลาย ครั้ง หลาย หน, คน ไข้ นั้น ก็ จะ กลับ ฟื้น หาย ใจ เข้า ออก
ได้ บ้าง. เมื่อ คน ไข้ ฟื้น แล้ว, จึ่ง เอา ผ้า เชด ตัว เสีย ให้ แห้ง
แล้ว, จึ่ง เอา น้ำ องุ่น สัก สาม ช้อน ใหญ่, เอา น้ำ ท่า สัก สิบ ช้อน,
ตั้ง ไฟ ให้ อุ่น ๆ แล้ว, ให้ กิน ประมาณ สัก ช้อน หนึ่ง, สิบ นา
ที กิน ช้อน หนึ่ง ๆ, ภอ หมด น้ำ องุ่น นั้น, ให้ หยุด เสีย ถ้า ให้
กิน เกิน กำหนด ไป แล้ว, มัก เปน อันตราย ต่าง ๆ. ถ้า หา มี น้ำ
องุ่น ไม่, ก็ ให้ เอา สุรา ที่ ไม่ สู้ เข่ม นัก ก็ ได้, ให้ กิน ภอ สม
ควร แก่ กำลัง หาย แล ๚ะ

๏ กงสุล ฝะรังเสศ ๚

๑ ข้าพเจ้า ได้ ยิน ว่า, กงสุล ฝรังเสศ มี ความ น้อย ใจ นัก
หนา. เพราะ ข้าพเจ้า, ได้ รับ เรื่อง ความ หนังสือ สัญญา กรุง
สยาม กับ กรุง ฝรังเสศ, ที่ ว่า ถึง ความ ฝรังเสศ จะ ช่วย อุป
ถัมภ์ เมือง เขมร นั้น, แล ได้ ตี พิมพ์ ลง ก่อน เพราะ เจ้า เมือง ฝรัง
เสศ ยัง มิ ได้ รับ หนังสือ สัญญา นั้น ว่า ชอบ ถูก ต้อง แล้ว.

๑ แล อีก ข้อ หนึ่ง ได้ ยิน ว่า, ท่าน กงสุล ฝรังเสศ นั้น ไม่
ชอบ ใจ, เพราะ เหตุ ที่ ข้าพเจ้า ได้ หนังสือ เรื่อง ความ กงสุล ฝรัง
เสศ กับ หลวง บริบูรณ สุรา กร สัญญา กัน นั้น, ที่ ใจ ความ ว่า จะ
ให้ กงสุล ฝรังเสศ, เปน เจ้า พนักงาน ใน การ ขาย เล่า ฝรังเสศ
นั้น. แล ข้าพเจ้า ได้ ตี พิมพ์ หนังสือ สัญญา นั้น ลง ก่อน ท่าน เส
นา บดี ยัง มิ ได้ รับ ว่า, ความ ซึ่ง กงสุล ฝรังเสศ กับ หลวง บริ
บูรณ สุรา กร สัญญา กัน นั้น, จะ ชอบ ตก ลง กัน ฤๅ ไม่, ท่าน กง
สุล จึ่ง ได้ ขัด ใจ ไป.

๑ ข้าพเจ้า จะ ขอ ให้ มองซี เออ โอยา เรศ, ผู้ ว่า ที่ กงสุล ฝรัง
เสศ ทราบ ว่า, เมื่อ เวลา ที่ ข้าพเจ้า ได้ ตี พิมพ์ หนังสือ สัญญา
นั้น, จะ เปน เพราะ ท่าน เสนา บดี ฝ่าย ไทย สั่ง, ฤๅ ขอ ให้ ตี พิมพ์
นั้น ก็ หา มิ ได้. แต่ ข้าพเจ้า ได้ ฉบับ หนังสือ สัญญา ทั้ง สอง นั้น,
เหมือน ได้ ข่าว อย่าง อื่น, หา ได้ อาไศรย แก่ ท่าน เสนาบดี ผู้ ใด ไม่.
ข้าพเจ้า พิเคราะห์ ดู เหน เปน แน่ ใจ ว่า เปน ความ สัตย ความ จริง
อย่าง นั้น, แล เหน ว่า เปน ความ ที่ ควร คน ทั้ง ปวง จะ รู้, จึ่ง ได้
ตี พิมพ์ ลง ไว้ ใน หนังสือ จดหมาย เหตุ, ที่ เรียก ว่า บางกอก รี
คอเดอนี้. จะ ควร มิ ควร ประการใด สุท แล้ว แต่ ความ สัตย จะ
ว่า ต่อไป ฯะ


๏ คำสัญญาด้วยสุรากร

๏ หนังสือ สัญญา กง สุล ฝรัง เศศ กับ หลวง บริบูรณ์ สุรา กร,
ที่ ข้าพเจ้า ได้ ตี พิมพ์ ลง ใน จดหมาย ใบ ก่อน นั้น, ก็ เปน เนื้อ
ความ ผิด กัน กับ ใน หนังสือ สัญญ เดิม, ที่ กรุงเทพ ได้ ทำ สัญญ
ไว้ กับ, เมือง อังกฤษ, เมือง อะเมริกา, เมือง เด็นหมาก,
เมือง แฮน ซี่ แอด ติก รี่ ปะ ปลิก, แล เมือง โปตุเก็ต, แล เมือง ปรอย
เชีย ที่ เรียกว่า ดอย ซะ นั้น. คำ สัญญา แก่ เมือง ปรอย เชีย ใน
ข้อ ๒๓ ว่า, ประเทศ ดอยซะ ทั้งหลาย ที่ เข้า ใน สัญญา นี้, แล
คน ชาว ประเทศ นั้น, จะ ได้ เสมอ เท่า กัน ผล ประโยชน์ ทั้ง
สิ้น ทุก อย่าง, ซึ่ง ประเทศ สยาม ให้ แล้ว, ฤา ยัง จะ ยอม ให้
ได้ แก่ ชาว ประเทศ อื่น ๆ นั้น (เหมือนกัน) ๏ ข้อ สัญญ นี้
เหมือน ไม่ ใช่ สำนวน ไทย ความ จึง มัว ไป. แต่ ใจ ความ นั้น ว่า ถ้า
กรุงเทพ ฯ จะ ยอม ให้ เมือง ฝรัง เศศ มี ผล ประโยชน์ มาก กว่า
เมือง อื่น เมื่อ ได, ก็ จะ ต้อง ให้ เมือง ปรอย เชีย, แล เมือง อื่น ๆ
ทั้ง ปวง ที่ เปน ไม ตรี กัน กับ กรุง เทพ, ฯ ให้ มี ผล มี ประโยชน์
เหมือน กัน. ถ้า แม้น สุรา เมือง นอก เปน ของ ต้อง ห้าม แต่ เดิม,
ครั้น มา ภาย หลัง ยอม ให้ ฝรัง เศศ เอา มา ขาย, ก็ จะ ต้อง ยอม
ให้ เมือง อังกฤษ, แล เมือง อื่น ๆ ทั้ง ปวง ที่ เปน ไม ตรี กัน นั้น,
ขาย ได้ ด้วย มี ผล มี ประโยชน์ เสมอ กัน, จะ ไม่ ต้อง ทำ หนังสือ
สัญญา กับ หลวง สม บัติ สุรากร เลย. ข้อ ซึ่ง กง สุล ฝรังเศศ,
เปน คน รู้ ขนบ ธรรมเนียม เมือง พร้อม, แล รู้ ใจ ความ คำ สัญญา ไม
ตรี ที่ กรุงเทพ ฯ ได้ ทำ ไว้ แก่ เมือง ต่าง ๆ นั้น, แล้ว มา ทำ หนังสือ
สัญญา กับ หลวง บรี บุรรณ สุรากร นั้น, ดู ผิด ประลาศ นัก, ดู
เหมือน การ เด็ก ๆ ทำ เล่น

๏ แต่ ใน ใจ ข้าพเจ้า นี้, พิ เคราะห์ ดู เหน ว่า, การ ที่ ขาย
สุรา เพื่อ จะ ให้ คน เสพ นั้น, เปน การ ชั่ว ทั้ง สิ้น, เพราะ สุรา นั้น
ไม่ ใช่ ของ ที่ จะ บำรุง ชีวิตร ได้, เปน ของ มี พิศ มาก, กระทำ
ให้ ใจ กำเริบ ต่าง ๆ นัก, ให้ เสีย เงิน เสีย เวลา เสีย ใจ เสีย ชีวิตร
เปล่า ๆ. ควร ที่ ท่าน เสนา บดี จะ จัด แจง ห้าม ปราม, ไม่ ให้
ขาย สุรา เมือง นอก ฤา สุรา เมือง นี้. ถ้า เว้น ไว้ แต่ ที่ จะ ตอ้ง
ใช้ ใน การ วิชา ต่าง ๆ เท่า นั้น. เพราะ ความ ชั่ว ร้าย ที่ มัน ให้
เกิด ขึ้น ใน บ้าน ใน เมือง, มาก กว่า ความ ดี ที่ มัน ให้ เกิด ขึ้น
นั้น เปน หลาย ร้อย เท่า พัน ทวี. ๚ะ


ความขัดค่องในแม่น้ำ

๏ ด้วย ที่ น่า วัด เสวตรฉัตร บาง ลำพู ล่าง นั้น, มี เรือ ตะ
เภา ลำ หนึ่ง ล่ม จม อยู่ ใน แม่ น้ำ ริม ตลิ่ง, เปน ของ ขัด ค่อง
มา หลาย เดือน แล้ว. ถ้า เปน เวลา ที่ คราว น้ำ ขึ้น ใหญ่ ก็ มิ ได้
เหน สิ่ง ใด ใน ลำ เรือ นั้น เปน ที่ สังเกต ได้. ดู น่า กลัว เรือ แพ
ขึ้น ล่อง ไป มา โดน เข้า, ก็ จะ ลม ลง เปน อันตราย ต่าง ๆ ได้ ยิน
ว่า, คอแวนแมน ฝ่าย ไทย ยัง กำลัง จัด แจง จะ เอา เรือ ที่ จม อยู่
นั้น ขึ้น. เขา ว่า เปน เรือ ของ พระพาศรีสมบัติ บริบูรณ, ข้าพเจ้า
ได้ ยิน ข่าว ดัง นั้น, ก็ มี ความ สบาย ใจ, เปน การ ที่ ท่าน ควร
จะ กระทำ ให้ สำเร็จ โดย เร็ว. ถ้า เปน เรือ ล่ม แล คน ตาย, ฤๅ
ทรัพย์ สิ่ง ของ อื่น ๆ เสีย, เพราะ เรือ ที่ กีด ขวาง ใน แม่ น้ำ นั้น,
ผู้ ที่ เปน เจ้า ของ เรือ นั้น, ต้อง ใช้ ทรัพย์ สิ่ง ของ ที่ เขา, ตาม
กฎหมาย แม่ น้ำ.

๏ อนึ่ง ใน ลำ คลอง บางกอก ใหญ่, ริม ปอ้ม ไชยประสิทธิ
นั้น, มี เรือ ปัก หลัก ลอย ซ้อน อยู่ กลาง คลอง เปน อัน มาก, ใน
เวลา กลาง คืน กลาง วัน, กีด ขวาง ทาง เดิน เรือ ไป มา นัก. บาง
ที เพลา กลาง คืน เดือน มืด, เรือ เล็ก ไป มา ไม่ ทัน เหน โดน
เข้า ล่ม ลง เปน อันตราย ต่าง ๆ ถึง เปน เรือ ใหญ่ สัก หน่อย. เรือ
ที่ ปัก หลัก คัด ซ้อน นั้น, ก็ เปน ที่ กีด ขวาง ไป มา ลำบาก, เพราะ
กลัว ว่า ไม้ หลัก ที่ ปัก นั้น, จะ โดน เก่ง ฤๅ ปะทุน เปน อันตราย
ต่าง ๆ. การ ที่ เขา ทำ เช่น นี้, ก็ เหน ว่า เปน ความ ผิด จาก กฎ
หมาย ท้อง น้ำ อยู่, ควร ที่ จะ จับ ผู้ ทำ ผิด นั้น, ไป ว่า กล่าว ปรับ
ไหม ภอ ให้ เข็ด หลาบ, จึง จะ สม ควร.

๏ อนึ่ง ข้าพเจ้า ได้ เหน ลำ คลอง บางกอก ใหญ่, ที่ น่า บ้าน
พระยา สาศดา นั้น, งอก แหลม ออก มา ใน ลำ คลอง, เพราะ เอา
กิ่ง ไม้ สะ ทิ้ง ถม ลง ไป ริม ลำ คลอง, จน เนื้อ ที่ คลอง นั้น ดอน
งอก ออก มา เปน แผ่นดิน เขตร แดน น่า บ้าน ของ ท่าน. บ้าง ที่
ท่าน จะ หา ได้ สังเกต ดู ไม่. ถ้า ท่าน ได้ สังเกต ดู รู้ แล้ว, ก็ ควร
ที่ ท่าน จะ ห้าม ปราม เสีย, อย่า ให้ เกิด เหตุ ดัง นี้ ต่อ ไป เลย.

๏ อนึ่ง ข้าพเจ้า, พิเคราะห์ ดู ลำคลอง เล็ก ๆ ใน แขวง กรุง
เทพ ฯ นี้, เปน ทาง ที่ คน จะ ต้อง การ เดินเรือ เข้า ออก ไป มา
มาก ๆ. บาง ที เปน คลอง ที่ จะ ไป วัด. บาง ที เปน คลอง ที่
จะ ไป บ้าน ต่าง ๆ, ถึง มิ ได้ มี กฎหมาย ห้าม, ก็ ไม่ ควร ที่ ผู้ ใด
จะ เอา ไม้ ซุง ฤๅ เรือ ใหญ่, ลง ปิด ขวาง คลอง ไว้, ให้ เรือ ไป มา
เข้า ออก ได้ ความ ลำบาก ยาก แค้น นัก. ดุจดัง บุคคล เอา ไม้ ซุง
เปน หลาย ท่อน ไป ทิ้ง ไว้, ที่ กลาง ถนน เมือง ลอนดอน, ที่ เปน
ทาง ที่ คน ต้อง ขี่ รถ แล เดิน เปน อัน มาก, ก็ จะ เปน ความ ผิด
ตาม สมควร นัก ฉันใด, การ ที่ ปิด คลอง ใน แขวง กรุง เทพ, ฯ
ก็ สมควร เหมือน กัน ฉัน นั้น, ควร ที่ ท่าน ผู้ใหญ่ ที่ อยู่ ริม คลอง
ไป มา ลำบาก นั้น, จะ เอาใจใส่ ดู แล สิ่งของ ที่ ขัด ข้อง นั้น, ว่า
กล่าว ห้าม ปราม. ถ้า ขัดขืน ไม่ ทำ ตาม, ก็ ควร จะ กราบ บังคม
ทูล พระ กรุณา ให้ ทรง ทราบ, จึง จะ สมควร, เพราะ สมเด็จ พระ
เจ้า แผ่นดิน, จะ เสด็จ พระ ราช ดำเนิน เที่ยว ประภาษ ไป ทุก แห่ง
ไม่ ได้, จึง ตั้ง ขุน นาง ผู้ใหญ่ ผู้น้อย ไว้, ต่าง พระ เนตร์ พระ
กรรณ์ หา ไม่ ฤๅ.


เหตุ ที่ บาง บอน

๏ ด้วย คลอง บาง บอน นั้น เปน ที่ น้ำ ชน กัน, ตอน ต้น
นัก เปน ที่ คับ แคบ ด้วย, ทาง นั้น เปน ที่ สำคัญ นัก, เพราะ สิน
ค้า เมือง เพชร บุรี, แล เมือง ราช บุรี, แล เมือง นคร ไชยสี่ห์,
แล เมือง อะไร ๆ นั้น, เขา ก็ มา ตาม ทาง นั้น ทั้ง สิ้น. ครั้น ถึง
คราว น้ำ น้อย แล้ว, เรือ แพ น้อย ใหญ่ ก็ ติด คับ คั่ง กัน นัก เหลือ
จะ ประมาณ. บาง ที จน ชั้น แต่ เรือ สำปั้น เล็ก ๆ, จะ ลึก ลัด
ตัด ไป ให้ พ้น ที่ ติด นั้น, ก็ ได้ ความ ลำบาก ยาก แค้น นัก. บาง
ที เปน เรือ ใหญ่ เขื่อง ขึ้น หน่อย หนึ่ง, ก็ ต้อง ติด ค้าง อยู่ สอง คืน
สาม คืน บ้าง ไป ไม่ ได้. บาง ที เรือ บันทุก ผล ไม้ แล ผัก ของ สวน
เปน สิ้นค้า แล้ว, เจ้า ของ นั้น อยาก จะ มา ให้ ถึง ทัน ตลาด ท้อง
น้ำ โดย เร็ว, เพราะ กลัว สิ้นค้า นั้น จะ เน่า ไป, ก็ มา ไม่ ได้. บาง
ที ผล ไม้ เน่า เสีย ทั้ง ลำ ขาด ทุน, เจ้า ของ เสีย ใจ นัก. เหตุ อย่าง
นี้ ย่อม บังเกิด ขึ้น ที่ นั้น เนือง ๆ. ถ้า มี ธรรมเนียม กฎหมาย ว่า เรือ
ออก ไป ฝั่ง สวน, เรือ เข้า มา ฝั่ง ทเล แล้ว, เรือ นั้น ก็ ไม่ ใคร่ จะ
ติด คั่ง มาก. ถึง จะ มี เรือ ใหญ่ ติด อยู่ กลาง คลอง ก็ ภอ จะ
หลีก เลี่ยง กัน ไปได้. แต่ กาล ทุก วัน นี้ ไม่ มี ท่าน ที่ เปน อิศร
บังคับ. เรือ จึ่ง สับ สน แซก แซง กัน นัก, เข้า ออก ไม่ เปน ลำ
ดับ, ควร ที่ คอ.วอแมน จะ มี กฎหมาย, เขียน ที่ ไม้ กะดาน ตรึง
ไว้กับไม้ หลัก อัน สูง, บอก ว่า เรือ มา แอบ ฝั่ง ทเล, เรือ ไป
ออก ไป ฝั่ง สวน เถิด. ถ้า มิ ฟัง ท่าน เจ้า พนักงาน จับ ตัว ได้
พิจาณา เปน สัตย์ แล้ว จะ ให้ ปรับไหม ตาม โทษานุโทษ


การลอบขายฝิ่น

๏ ณวัน พุทธ เดือน หก แรม ค่ำ หนึ่ง ปี ฉลู สัพตศก, ลูกจ้าง
ของ เจ้า ภาษี ฝิ่น, กับ มิศเตอ เอมซ์ เปน นาย กอง เตวน ใหญ่,
กับ ลูก จ้าง กอง ตเวน ห้า คน หก คน, ลง ไป ช่วย ลอบ ดู ที่ ห้าง
มิศเตอ บิก เอน แปก ติศ แอน กำปะนี. หมาย ว่า จะ มี คน ซ่อน เร้น
ลัก ลอบ ขาย ฝิ่น อยู่ ที่ นั่น บ้าง. ได้ เข้า ไป ค้น เบ็ด หีบ ดู แล้ว ก็
ได้ เหน ฝิ่น เปน อัน มาก. ใน หีบ ใส่ ผ้า ของ เขา, ก็ มี ฝิ่น แทบ จะ
ทุกใบ. ลาง ใบ ก็ มี น้อย ราคา ฝิ่น เพียง บาท เดียว. ลาง ใบ ก็
มี มาก ราคา ถึง ๒๐๐ บาท. เหน ที่ พวก ลูก จ้าง เบ็ต ตะเล็ด นั้น
ได้ ทำ ฝิ่น ขาย มาก, หลาย เดือน หลาย วัน มา แล้ว. ข้าพเจ้า พิ
เคราะห์ ดู เหมือน เขา จะ ทำ ฝิ่น ใน ที่ นั้น, เพราะ มี เครื่อง ภาชะ
นะ ต่าง ๆ สำหรับ ทำ ฝิ่น, แล ภาชะนะ นั้น เล่า เรา ก็ ได้ เก็บ มา.
เหน ที่ ลูก จ้าง เบ็ต:ล็ด จะ คิด อ่าน ใน การ นั้น, เพราะ ข้าพเจ้า ได้
เหน ฝิ่น นั้น, เขา แจก จ่าย ขาย กัน ทั่ว ไป ใน ๔๐ คน ๕๐ คน.
แต่ นาย การ ผู้ นั้น มี ฝิ่น อยู่ มาก. ข้.พ.จ้า จับ ตัว สำคัญ ได้ สี่คน.
ควร ที่ จะ จับ เสีย ให้ หมด, แต่ พวก กอง เตวน กับ พวก เจ้า ภา
ษี ฝิ่น เท่านั้น น้อย ตัว นัก จึ่ง จับ มิ ได้ หมด. น แต่ สี่ คน ที่ จับ
ได้ นั้น เรา ภา ไป หมาย ว่า จะ ลง เรือ. เขา ก็ ร้อง ให้ เรียก เพื่อน
กัน มา ช่วย แก้. บันดา พวก เพื่อน เขา ก็ มา ประมาณ ๕๐ คน
๖๐ คน, แต่ ใน ๕๐ คน ๖๐ คน นั้น, มี คน ที่ เขา ว่า เปน คน
เบ็ต ตะเล็ด ลูก จ้าง ใน ยนิโอ กำปะนี บ้าง. ได้ ต่อ สู้ กับ คน กอง ตเวน
หก คน, เขา ได้ ภา คนโทษ สอง คน เก็บ เอา ฝิ่น นั้น "ไป ด้วย ไม่
แพ้ แก่ เขา. แต่ คนโทษ อีก สอง คน นั้น ลูก จ้าง ของ เจ้า ภาษี
ภา ไป, เขา ก็ คิด กลัว จึ่ง ปล่อย คนโทษ ทั้ง สอง นั้น เสีย. แต่
ลูก จ้าง เบ็ต เล็ด ที่ ต่อ สู้ นั้น, ถือ ไม้ ตะบอง ถือ อิด ขว้าง ตี กอง
เตวน กับ พวก เจ้า ภาษี. มิศเตอ ฟินค์ ที่ อยู่ ใน พวก มิศเตอ บิก
เอน แปก แอน กำปะนี่ นั้น, ก็ ออก มา ห้าม ปราม พวก ลูก จ้าง เบ็ต
ตะเล็ดเหน เหลือ กำลัง แล้ว, จึ่ง ให้ พวก พ้อง ของ มิศเตอ ปีก
เอน แปก ไป เอา ปืน มา หลาย บอก, เพื่อ จะ ยิง พวก ที่ ตี กอง
เตวน, ๆ เหน ดั่ง นั้น ก็ กลัว จึ่ง หนี ไป.

๏ ข้าพเจ้า ผู้ เขียน หนังสือ นี้, พิเคราะห์ ดู เหน ว่า การ ที่
พวก จีน ตี กอง เตวน, แล เอา คน โทษ ออก เสีย เปล่า ๆ นั้น
เคย มี อยู่ เนือง ๆ. แล เมื่อ ขณะ ยัง มิ ได้ จับ คน ผู้ ร้าย เช่น นั้น,
ไป ลง โทษ ถึง สาหัด, ก็ การ ร้าย อย่าง นี้ จะ ไม่ รู้ สิ้น. กอง
เตวน ได้ ทำ การ ครั้ง นั้น การ ที่ ควร จะ ทำ. ถ้า ลูก กอง เตวน
จะ ไม่ ลง มือ ด้วย ก็ จะ เก็บ เอา ฝิ่น นั้น มิ ได้. เหตุ ดั่ง นี้ เมื่อ
คอแวนแมน ยัง กำลัง รับ เก็บ ภาษรี เพราะ ขาย ฝิ่น. คอแวนแมน
ยัง ต้อง การ พวก กอง เตวน ไป ช่วย จับ คน ร้าย ลอบ ขาย ฝิ่น,
นั้น. ข้าพเจ้า มี ความ ไว ใจ ว่า คอแวนแมน จะ ช่วย อุปถำ ใน การ
นี้, แล ให้ จับ ทำ โทษ ทุก คน, ที่ ได้ มา ตี พวก กอง เตวน ขัด
ขวาง ไม่ ให้ กอง ตเวน ทำ การ ของ ตัว ให้ สำเร็จ ได้.

๏ ข้าพเจ้า หา ความ สะบาย มิ ได้, เพราะ นาย ห้าง มิศเตอ
บิ๊ก เอน แปก แอน กำเปนี นี้, เปน นาย ห้าง ชาติ ยุรบ ที่ ๒, อัน
ลูก จ้าง เบ็ตเล็ด ของ เขา ลัก ลอบ ขาย ฝิ่น มาก ๆ, ที่ จับ มา ใน
๓ ขวบ อาทิตย์ ๔ ขวบ อาทิตย์ นี้.

ยัง มี นาย ห้าง ยุรบ, ที่ ข้าพเจ้ สงไสย กลัว ว่า ลูก จ้าง ของ
เขา, จะ เปน คน ลัก ลอบ ขาย ฝิ่น ด้วย, เหน ว่า ลูก จ้าง ของ
เขา เปน ชาติ จีน. เขา ก็ คิด ว่า เรา เปน ลูก จ้าง นาย ห้าง ชาติ ยุ
รบ, แล นาย กอง ตเวน จะ ไม่ อาจ มา ค้น ดู ห้อง เรา ได้. แต่
ข้าพเจ้า ขอบ ใจ นัก, เพราะ นาย ห้าง ชาติ ยุรบ ทั้ง สอง ห้าง, ได้
ช่วย ให้ กอง เตวน ไป ค้น หา บันดา ใน พวก ลูก จ้าง ของ ท่าน. แล
ข้าพเจ้า หวัง ใจ ว่า นาย ห้าง อื่น ๆ, จะ ช่วย พวก กอง เตวน เช่น
นี้, ไม่ ช้า นาน ที่ เขา มา จัก ลอบ ขาย ฝิ่น ยัง นี้, จะ เลิก เสีย
มด, แล นาย ห้าง ชาติ ยุรบ, ที่ ยัง สงไส บ้าง เล็ก น้อย, ว่า
เขา ยอม ให้ ลูก จ้าง ที่ ลัก ลอบ ขาย ฝิ่น นั้น, ก็ จะ พ้น เขา สงไสย
ตัว แล.


๏ ข่าว มา แต่ ต่าง ประเทศ ๚ะ

๏ เรือ กำปั่น เจ้า พระยา มา ถึง ณวัน อาทิตย เดือน หก แรม
ห้า ค่ำ ปี ฉลู สัปตศก. มี ข่าว มา แต่ เมือง ลอนดอน, ลง มา
ถึง ณวัน จันทร เดือน ห้า ขึ้น สิบห้า คำ ปี ฉลู ยัง เปน ฉศก, มา
โดย ทาง ไฟฟ้า อินโดย โรเบียน โดย เมือง กะระจี แล เมือง บำบาย,
ใจ ความ ว่า, เซอ โรเบิด ซอม เบิกค์, แต่ ก่อน ได้ เปน ที่ กงสุล
อังกฤษ กรุง เทพ ฯ บัด นี้ ถึง แก่ กรรม ตาย เสีย แล้ว, แต่
ณวัน เสาร์ เดือน สี่ ขึ้น สิบ ห้า ค่ำ ปี ชวด ฉศก. ได้ ตาย ที่ เมือง
เบอลิน เมือง หลวง มี ประเทศ ปรอยเซีย เปน แว่น แคว้น.

๏ อนึ่ง เคาวะแมน แห่ง สันตะปา ปา, คือ เมือง โรม, ได้ บอก
ราชทูต ทั้งหลาย ว่า, มี กำลัง น้อย จะ เกน ทะแกล้ว ทหาร ให้
มาก ภอ จะ ปราบ ปราม การ กระบถ ที่ บังเกิด ขึ้น ใน เมือง นั้น ก็
ไม่ ได้. มี กอง พวก กระบถ ยก เข้า มา ใน แว่น แคว้น เมือง
โรม เปน หลาย กอง ใหญ่. ฝ่าย ทหาร ฝรั่งเสศ ได้ ยก กอง
ทับ ไป เพื่อ จะ ช่วย เมือง โรม ขับ ไล่ พวก กระบถ เสีย.

๏ อนึ่ง เจ้า เมือง ซเปน ได้ ปาว ประกาศ เปน ใจ ความ ว่า,
ถ้า แม้น สันตะปา ปา บาท หลวง ต้อง หนี จาก เมือง โรม แล้ว, จะ
ยก หมู่ เกาะ, ชื่อ ว่า เบลิแฮริก นั้น, ให้ แก่ ท่าน เปน อัน ขาด ที
เดียว. เกาะ นั้น อยู่ ทะเล เม็ด อิติเรเนียน ริม ฝั่ง เมือง ซเปน.

๏ อนึ่ง เอมปิรอ แห่ง เจ้า เมือง ฝรั่งเสศ เกือบ จะ เสดจ
ประพาส ที่ เมือง แอลซีเรีย, เปน เมือง ขึ้น แก่ ฝรั่ง เสศ, ที่
ทวีป อัฟริกา ข้าง ทิศ ฝ่าย เหนือ นั้น.

๏ อนึ่ง ที่ เมือง เซนต์ ปีเตอซ์ เบิค เปน เมือง หลวง แห่ง ประ
เทศ รัศเซีย, เกิด โรคย์ เปลค คือ โรค ห่า คน ตาย เปน อัน มาก.

๏ อนึ่ง มี ข่าว มา แต่ เมือง ลอนดอน, ลง มา ถึง ณวัน เดือน
แรม สอง ค่ำ ปี ฉลู สัปต ศก ว่า, นาย ห้าง ใหญ่ ที่ เมือง ลิวอปูละ
นั้น, ขัด สน ลง ด้วย เงิน, เจ้า หนี้ มา ทวง เงิน, นาย ห้าง หา
มี เงิน จะ ให้ เขา ไม่, ต้อง ยอม รับ ว่า, การ เรา หัก ทำลาย เสีย
ขาด แล้ว. แล ห้าง หนึ่ง นั้น, เปน หนี้ เขา ถึง ล้าน เจ็ด แสน
เหรียน.

๏ อนึ่ง ที่ เมือง สิงกะโปร นั้น, ห้าง หนึ่ง ชื่อ แฮมมิลตอน
เคร แอน กำเปนี, หัก ขาด แล้ว, เปน หนี้ เขา ได้ ประมาณ ล้าน
เหรียน.

๏ อนึ่ง มี ข่าว มา แต่ เมือง อเมริกา, ลง มา ถึง ณวัน เดือน
ห้า ขึ้น แปด ค่ำ ปี ฉลู ยัง เปน ฉศกว่า, มี การ รบ กัน, ที่ ปีเตอ
ซ์เบิค, แม่ ทัพ ฝ่าย เจ้า เมือง เรียก ว่า, เซ็นนิรัลแครนต์ กับ
แม่ ทัพ ฝ่าย กระบถ, เรียก ว่า เซ็นนิรัลลี, ได้ ทำ สงคราม รบ
กัน อยู่ สาม วัน แล้ว, เซ็น นิ รัล ลี่ นั้น ก็ แพ้, เสีย พวก ทหาร ที่
ตาย, แล ลำบาก ด้วย ต้อง อาวุธ นั้น, แล ตก เปน ชเลย ด้วย
๑๕๐๐๐ คน. เยนินรล แกรนต์ เสีย แต่ ๗๐๐๐ คน เท่านั้น.

๏ ทัพ ฝ่าย พวก กระบถ หนี จาก เมือง ปิเตอชเบิก, แล เมือง
ริคเชอมัน เปน เมือง หลวง ฝ่าย กระบถ นั้น, จะ ยก ไป ตั้ง ที่ ไหน
ก็ หา รู้ ไม่, ดู เหมือน แทบ จะ สิ้น กำลัง แล้ว.


เรือกลไฟแตก

๏ ว่า ที่ เมือง สิงฆ์ โปร์, เมื่อ ณวัน เสา เดือน ห้า แรม ห้า ค่ำ,
กำ ปั่น ไฟ ลำ หนึ่ง เปน ของ จ้าว มลายู องค์ หนึ่ง ชื่อ ทุมะคง, ได้
ซื้อ มา จาก ประ เทศ ยุรุบ เปน เรือ ใหม่, จัด แจง ติด ไฟ พร้อม
หมาย จะ แล่น ออก จาก เมือง ไป ถึง โยโฮรี่. บัง เกิด เหตุ ม่อ น้ำ
นั้น แตก ออก กระจาย ไป เสียง ดัง ปืน ใหญ่ หลาย บอก. แล เสา
กะโดง ก็ ถอน ออก กระเดน ไป ไกล, และ เรือ ทั้ง สอง ฟาก ก็ พัง
ออก จาก กัน. คน ชาติ มลายู ทุก น้ำ ร้อน แล ไม้ ที่ กระเดน ไป
นั้น ตาย ๑๘ คน, ชาติ ยุรุบ สี่ คน. ข้าพเจ้า เหน ว่า น่า กลัว ที่
จะ เกิด เหตุ ใน เมือง ไทย เหมือน เช่น ว่า มา นี้, เพราะ มี กำปั่น
กล ไฟ หลาย ลำ นัก, แล อิน เยน เนีย ใน เมือง ไทย, เปน คน รู้
น้อย มัก เลิน เล่อ, เพราะ ยัง มิ ได้ เกิด เหตุ อันตราย ต่างๆ,
จึ่ง มี ใจ กำเริบ กล้า หาร. อนึ่ง ม่อง น้ำ ใน กำ ปั่น กล ไฟ ก็ เก่า อยู่
หลาย ลำ นัก, ควร จะ ชำระ ดู แล ให้ ละเอี่ยด, อย่า ให้ เกิด
เหตุ ร้าย สิ่ง หนึ่ง สิ่ง ใด ได้.


หนังสือฝาก

๏ ใน เมือง นุยอก มี ที่ รับ แล แจก หนังสือ ฝาก เปน การ
ใหญ่ นัก. หนังสือ ฝาก ที่ เจ้า พนักงาน รับ แล แจก ใน ที่ นั้น
ทุก ๆ วัน, ใน วัน เดียว มี น้ำ นัก ถึง ๕๔ ตอล์, คิด เปน ๙๗๐ หาบ.


กองเตวน

๏ บาญชี จับ คน ทำ ผิด, ที่ กัปปิตัน เอม นาย กอง ตเวน บอกมา

๏ ตั้ง แต่ ณวัน อังคาร เดือน หก ขึ้น ค่ำ หนึ่ง, มา จบ ถึง
ณวัน พุทธ เดือน หก แรม สอง ค่ำ, รวม เปน ๑๗ วัน ด้วย กัน

จับ ขะโมย เสื้อ ผ้า ต่าง ๆ ได้ สอง คน.

จับ คน แบก ของ ผิด เวลา กลาง คืน ได้ สอง คน.

จับ คน ตี ฝิ่น พวก โปลิศ ได้ คน หนึ่ง.

จับ คน เปน ลูก หนี้ เขา ได้ สอง คน ๆ หนึ่ง เปน หนี้ ๗๖ บาท,
คน หนึ่ง ๓๕ บาท.

จับ คน วิวาท ฟัน แทง กัน ได้ คน หนึ่ง.

จับ คน ลอบ ลัก ขาย ฝิ่น ได้ สาม คน.

จับ คน ถือ เครื่อง สาตรา วุธ ได้ สอง คน.

จับ คน เกะกะ ทำ รังแก ที่ โรง พวก หญิง คน ชั่ว ได้ คน หนึ่ง.

จับ คน ฟัน เมีย ของ ตัว มี บาด แผล น่า กลัว ได้ คน หนึ่ง.

จับ คน ฉะเลาะ วิวาท ชก ตี กัน ได้ สอง คน.

จับ คน วิ่ง ราว ตาม ถนน หลวง ได้ คน หนึ่ง.

จับ คน ที่ ไม่ ทำ ตาม สัญญา ว่า จะ ให้ ๒๐๐ บาท นั้น ได้ คน หนึ่ง.

จับ ทาษ หนี นาย เงิน ได้ คน หนึ่ง.

ความ ปล้น

๏ เมื่อ สาม ขวบ สี่ ขวบ อาทิตย์ พ้น มา แล้ว, มี ข่าว ภา
กัน ว่า ผู้ ร้าย ประมาณ ๒๐ คน, ปล้น แหก เรือน เข้า ไป ขโมย
เอา เงิน, ภา เอา ของ ไป ใน ท้อง สำเพง, หา มี ผู้ ใด ที่ ใน
ท้อง สำเพง จะ ขัด ขวาง ไม่. ข่าว ที่ เลื่อง ภา เชน นี้ ไม่ ถูก.
แล คน ที่ ไม่ กลัว ความ มุษา, ภา ความ ต่าง ๆ เพื่อ จะ คิด
พาฬ พาโล ใส่ โทษ เขา ที่ มิ ได้ ทำ ผิด, แล คน เช่น นั้น ก็ มี ถม
ไป ทุก วัน. ถ้า คน ผู้ ร้าย นั้น หนี ไป ตาม ท้อง สำเพง จริง ไซ้,
พวก กอง ตเวน ที่ ตั้ง อยู่ ท้อง สำเพง คง จะ ได้ เหน. ครั้น ไถ่
ถาม ไล่ เลียง เขา ถึง ความ นั้น, เขา ก็ วา, มิ ได้ รู้ เหตุ นั้น เลย.

๏ แต่ เปน ความ จริง ด้วย การ ปล้น นั้น เปน ดัง นี้, มี เรือ
ใน แม่ น้ำ เจ้า พระยา ลำ หนึ่ง, มี ลูก เรือ ๒๐ คน, เขา ภาย
เรือ มา แอบ เข้า, ที่ เรือ ลำ หนึ่ง อัน หลอง มา แต่ ฝ่าย เหนือ นั้น จอด
น่า วัด สำปลื้ม. เจ้า ของ เรือ นั้น ชาย คน หนึ่ง หญิง คน หนึ่ง เขา
มี เงิน อยู่ ใน ท้อง เรือ ๒๐ ชั่ง กับ ทอง คำ น้ำ หนัก สิบ สอง บาท,
แล คน ร้าย ๒๐ คน ก็ ตรง เข้า ไป จับ คน ทั้ง สอง นั้น, มัด มือ
ไพล่ หลัง ไว้. แล้ว บอก ว่า ถ้า แม้น ร้อง ขึ้น แล้ว สัก นิด เรา จะ
ฆ่า เสีย ที เดียว, แล้ว เขา ก็ เกบ เอา เงิน ทอง หมด, ภา กัน หนี
ไป พ้น. ทุก วัน นี้ ก็ สงบ เงียบ อยู่ หา รู้ ว่า จะ ไป แห่ง ใด ไม่.
หา มี ผู้ ได้ ผู้ หนึ่ง ได้ เหน ว่า พวก เหล่า ร้าย ขึ้น ไป ใน ท้อง,
สำเพง ไม่, คง จะ หนี ไป ตาม ใน ลำ แม่ น้ำ เปน แน่. ฯ

๏ ข้าพเจ้า เหน ว่า, ความ ปล้น เกิด ทวี ชุก ชุม ขึ้น, จริง
ทรัพย์ สม บัติ ของ เรา ท่าน ทั้ง หลาย จะ ไว้ ใจ ว่า, จะ ปราศ
จาก อัน ตราย แต่ เวลา คืน เดียว ก็ ไม่ ได้.

ราคาสินค้าที่เมืองจีน

๏ เมือง จีน ณวัน เสาร์ เดือน หก ขึ้น ห้า ค่ำ ปี ฉลู สัปตศก,

๏ ที่ ฮองกอง พริก ไทย ดำ หาบ ละ ๘ เหรียน, ขาว
หาบ ละ ๑๓ เหรียน.

๏ นิงโป พริก ไทย ดำ หาบ ละ ๖ เหรียน ๕๐ เซ็นต์, ขาว
หาบ ๑๑ เหรียน ๕๐ เซ็นต์.

๏ เซี่ยงไฮ้ พริก ไทย ดำ หาบ ละ ๘ เหรียน ๕ เซ็นต์, ขาว
หาบ ละ ๑๐ เหรียน.

๏ ฮองกอง น้ำ ตาล ทราย ขาว ที่ หนึ่ง หาบ ละ ๗ เหรียน
๘๐ เซ็นต์ แล ๘ เหรียน ทวน.

๏ ที่ สอง หาบ ละ ๗ เหรียน ๔๐ เซ็น แล ๗ เหรียน
๕๐ เซ็น. ที่ สาม หาบ ละ ๖ เหรียน ๘๐ เซ็น แล ๗ เหรียน
แดง หาบ ละ ๕ เหรียน กับ ๕ เหรียน ๒๐ เซ็น.

๏ ฝาง หาบ ละ ๒ เหรียน กับ ๑๕ เซ็น แล ๒ เหรียน
กับ ๓๐ เซ็น.

๏ เซี่ยงไฮ้, หาบ ละ ๒ เหรียน ๘๐ เซ็น แล ๓ เหรียน.

๏ นิงโป, หาบ ละ ๒ เหรียน ๘๐ เซ็น แล ๒ เหรียน
๙๓ เซ็น.

๏ เซี่ยงไฮ้, หาบ ละ ๒ เหรียน แล ๒ เหรียน ๗๕ เซ็น.

โรง พิมพ์

๏ โรง พิมพ์ ที่ ได้ ตี หนังสือ จด หมาย เหตุ นี้, ตั้ง อยู่ ที่ ริม
ปอ้ม ปาก คลอง บาง กอก ใหญ่, หลัง วัง กรมหลวง วงษา ธิ ราช
สนิท. ถ้า ผู้ ใด ๆ ปราถนา จะ ให้ ตี พิมพ์ หนังสือ ไทย, ฤา หนังสือ
อังกฤษ, จะ เปน เนื้อ ความ มาก น้อย ประการ ใด, ขอ เชิญ ท่าน
มา พูด กับ ข้าพเจ้า ๆ ปราถนา จะ รับ จ้าง ตี พิมพ์ หนังสือ ต่าง ๆ
ราคา ค่า จ้าง นั้น, จะ รับ ให้ ถูก กว่า แต่ ก่อน มาก. ถ้า ฎีกา ต่าง ๆ
กว้าง ยาว เท่า แผ่น กระดาด น้ำ ซึม, ถ้า ตี เต็ม น่า ข้าง หนึ่ง, ก้
ตั้อง การ แต่ พัน หนึ่ง, จะ คิด เอา ราคา พัน แผ่น ๒๐ บาท. ถ้า ตั้อง
การ หลาย พัน, จะ เอา ราคา แต่ พัน ละ ๑๕ บาท เท่า นั้น. อนึ่ง
หนังสือ อังกฤษ ที่ เรียกว่า, โบดโนฏ นั้น, เปน หนังสือ จด หมาย
สำรับ ที่ นายห้าง ฝากสินค้า บันทุก ไป ลง กำปั่น นั้น, ๑๐๐ แผ่น
เป็น ราคา ๕ บาท. อนึ่ง หนังสือ ที่ เรียก ว่า, เอ็นเต็ร แล ชิบบิ้ง
บิล, ถ้า จะ เอา แต่ ๓๐๐ ก็ เป็น ๑๐๐ ละ ๔ บาท, ถ้า เอา ถึง
๑๐๐๐ เป็น ๑๐๐ ละ กึ่ง ตำลึง. อนึ่ง หนังสือ บิลเลดิง, ถ้า
เอาแต่ ๓๐๐ เป็น ๑๐๐ ละ ๕ บาท. ถ้า ต้อง การ ถึง ๑๐๐๐
จะเอา ๑๐๐ ละ ๑๐ สลึง. อนึ่ง ถ้า เป็น หนังสือ กาด เป็น ๑๐๐
ละ ๕ บาท.

๏ การ แปล หนังสือ. ๚

๏ คำ ไทย ฤา คำ อังกฤษ แปล, ถ้า ร้อย คำ เป็น ราคา ๕๐
เซ็น. ถ้า มาก กว่า ๑๐๐๐ คำ จะ คิด เอา ๑๐ คำ เป็น ๔ เซ็น จน
ถึง ๒๐๐๐ คำ. ถ้า มาก กว่า ๒๐๐๐ คำ, ก็ จะ เอา แต่ สม ควร
กะ ตก ลง กัน ได้.

หนังสือ ขาย

๏ อนึ่ง ที่ โรง พิมพ์ นั้น มี หนังสือ ขาย ต่าง ๆ, คือ หนังสือ
หัด พูด คำ อังกฤษ จบ ละ ๖ สลึง. แล หนังสือ จินดามะณี นั้น
เล่ม ละ บาท. หนังสือ กฎหมาย ไทย ๕๕ เล่ม สมุท ไทย ผูก เปน
หนังสือ อังกฤษ สอง เล่ม, ขาย เปน ราคา จบ ละ ๑๓ บาท สลึง,
แล หนังสือ พระ ราช พงษาวดาร ไทย ๔๒ เล่ม สมุด ไทย, ทำ เปน
สอง เล่ม อังกฤษ, ขาย จบ ละ ๑๐ บาท สอง สลึง. แล พงษาวดาร
ฝรั่งเศศ ย่อ, ขาย เล่ม ละ สอง สลึง. แล มี กระดาษ สมุด เปล่า
ต่าง ๆ ขาย เล่ม ละ บาท บ้าง, เล่ม ละ สอง สลึง บ้าง, เฟื้อง หนึ่ง
บ้าง, หลาย อย่าง ต่าง ๆ. เชิญ ท่าน ทั้งหลาย มา หา ข้าพเจ้า ที่ โรง

๏ พิมพ์ ข้าพเจ้า ผู้ ชื่อ ว่า, ดี.บี.ปรัดเล นั้น เทอญ.


กำปั่นเข้ากรุงเทพ ฯ

เข้ามาเมิ่อกำปั่น ชึ่อ ไรกับปิตัน ชึ่อ ไรกี่ตอนเปน เรือ อะไรมา แต่ ไหน
ณวัน เดือน หก ขึน สิบสามค่ำแฟนิเคอเซิ่นรอซินี๗๖๐โอนเลมเบิกบากกะลาป๋า
๑๔ ค่ำริชาดคอบเดนบิคอพ๔๕๐ปริเมนบากกะลาป๋า
๑๕ ค่ำไดมันซิติลูเบ็ก๒๘๒สยามบากจันทบุรี
แรม ๕ ค่ำเจ้าพระยาเรือไฟออร์ตอน๓๕๓สยาม ซะติเมอสิงกะโปร

กำปั่นออกจากกรุงเทพ ฯ

เมื่อ ไรชึ่อ ไรกับปิตัน ชึ่อ ไร.กี่ ตอนเมือง ไรจะ ไป ไหน.
ณวัน เดือน หก ขึ้น สาม ค่ำนะฟอลยัง๒๓๒สยาม บาก.สิงกะโปร.
๓ ค่ำไคลโอคาคิล๑๓๐อังกฤษ ซะกูเนอ.ชาย ทะเล.
๔ ค่ำแฮมตอนโคตครอโฟต์๒๗๖อังกฤษ บาก.ฮองกง.
๔ ค่ำซะตาออป์อีค้ดิก๔๔๕สยาม บากฮองกง.
๔ ค่ำเดนมากพรอดซิ๓๒๘สยาม บาก.ฮองกง.
๕ ค่ำเจ้า พระยาออร์ตอน๓๕๓สยาม เรือ กล ไฟ.สิงกะโปร.
๙ ค่ำไมเตรสโอลิ๓๖๐ฝรั่งเศศ เรือ กล ไฟ.แซงยน.
๑๑ ค่ำคอศตาริกาเมาเลอ๒๙๔อังกฤษ บาก.ซูระบายะ
๑๔ ค่ำเองบีแฮนเซิ่น๗๓๐สยาม ชิบ.ฮองกง.
๑๕ ค่ำเซงไหเดมซะกิ๔๘๓สยาม บาก.เซี่ยงไฮ้