

| Vol. 1 เล่ม ๑ บางกอก เดือน เจ็ด แรม แปด ค่ำ จุลศักราช ๑๒๒๗ June 16th 1865. คฤศศักราช ๑๘๖๕,ใบ ที่ ๘ No. 8. |
๏ ตำราลมอากาศ ๚ะ
๏ ใน หนังสือ จดหมาย เหตุ เมื่อ ต้น เดือน นี้, ได้ ว่า ด้วย ลม
อากาศ นิ้ว แล นิ้ว ทั่ว แผ่นดิน หนัก สิบ ชั่ง, เท่า กัน กับ น้ำ ใน ท่อ
ภุก ได้ ห้า วา กับ เจ็ด นิ้ว. ถ้า จะ เอา ท่อ สูง หก วา ให้ ตัน ข้าง หนึ่ง,
เต็ม ด้วย น้ำ แล้ว กลับ ปาก ท่อ นั้น ลง ใน ชาม, น้ำ ใน ท่อ นั้น ก็
จะ ทรุด ลง คง อยู่ แต่ ห้า วา กับ เจ็ด นิ้ว เท่า นั้น, ไม่ ได้ ทรุด ลง
อีก เลย. เปน ทั้ง นี้ เพราะ ลม อากาศ ได้ ดัน น้ำ ที่ ปาก ท่อ นั้น ไว้,
นิ้ว แล นิ้ว หนัก สิบ ชั่ง, เหมือน ที่ ว่า มา แล้ว นั้น.
๏ คน ทั้งปวง ได้ รู้ ดัง นั้น แล้ว, จึ่ง ทำ เปน สูบ น้ำ. สูบ
นั้น มี หลาย อย่าง ต่าง ๆ กัน, คือ สูบ น้ำ, แล สูบ ลม, แต่
ทว่า ได้ ทำ ตาม วิชา ลม อากาศ ที่ ว่า มา แล้ว นั้น. แล เครื่อง
สูบ น้ำ อย่าง หนึ่ง ที่ จะ ทำ ได้ ง่าย, ที่ คน ได้ ใช้ มาก นั้น เขา ทำ
อย่าง นี้, ให้ ทำ เปน ท่อ เล็ก ใหญ่ ตาม ใจ มิ ได้ กำหนด, ริม ปาก
ท่อ ข้าง ใน ที่ จะ จุ่ม ลง ใน น้ำ นั้น, ให้ มี ปตู ลม เบิ๊ด ขึ้น แล ปิด
ลง ได้, ที่ ลูก สูบ นั้น ก็ ทำ ให้ มี ปตู ลม เบิ๊ด ขึ้น แล ปิด ลง
ได้ เหมือน กัน, เอา ท่อ สูบ นั้น จุ่ม ลง ใน น้ำ หน่อย หนึ่ง. ถ้า
ชัก ลูก สูบ นั้น สูง ขึ้น เพียง ใด, น้ำ ก็ จะ เข้า ตาม ช่อง ปตู ข้าง
ล่าง เพียง เสมอ ลูก สูบ เท่า นั้น, แล น้ำ เข้า ไป ใน สูบ นั้น เพราะ
ไม่ มี ลม อยู่ ข้าง ใน, ลม อากาศ จึ่ง ดัน น้ำ ข้าง นอก ท่อ, ให้
ดัน ปตู สูบ เข้า ไป ได้. ถ้า กด ลูก สูบ ลง ไป น้ำ ก็ ไม่ ออก ได้,
เพราะ ดัน ปตู ข้าง ล่าง ให้ ปิด ไว้, น้ำ จะ ดัน ขึ้น ให้ ปตู ที่ ลูก สูบ
นั้น เบิ๊ด ออก, แล ชัก ลูก สูบ ขึ้น อีก ที หนึ่ง, น้ำ ก็ จะ ไหล ออก
ตาม ท่อ ข้าง บน, ตั้ง แต่ นั้น น้ำ จะ ไหล ออก ทุก ที่ ชัก ลูก สูบ มิ
ได้ ขาด. เครื่อง สูบ น้ำ อย่าง นี้ เขา ได้ ใช้ มาก, ได้ สูบ น้ำ
ให้ ออก จาก ท้อง กำปั่น บ้าง, ได้ สูบ น้ำ ใน บ่อ, แล ใน แม่ น้ำ ให้
ขึ้น บน เรือ บ้าง. เขา ได้ ใช้ ใน กำปั่น นั้น สอง สูบ ให้ พร้อม กัน
บ้าง, ลาง ลำ ใช้ สูบ สี่ สุบ บ้าง ให้ ไป พร้อม กัน. แล ปตู
ช่อง ลม ใน สูบ ข้าง ล่าง นั้น, ให้สูง กว่า น้ำ ห้า ศอก หก ศอก
ก็ ได้, ถ้า ปตู นั้น สูง กว่า ห้า วา กับ เจ็ด นิ้ว, ถึง จะ ชัก สูบ สัก
เท่า ใด ๆ, น้ำ ก็ มิ ได้ ขึ้น เลย, เพราะ กำลัง ลม ข้าง ใน กับ ข้าง
นอก ดัน ไว้ เท่า กัน. อีก ประการ หนึ่ง ปตู ลูก สูบ นั้น อย่า ให้
มี รู สัก นิด หนึ่ง เลย, ถ้า มี รู ประมาณ เท่า ช่อง เขม, ลม จะ
เข้า ไป ข้าง ใน ได้, จะ ชัก น้ำ ไม่ ขึ้น เลย.
๏ สูบ น้ำ อีก อย่าง หนึ่ง, ก็ ทำ เหมือน กัน กับ สูบ ที่ ว่า มา
แล้ว, ผิด กัน แต่ ไม่ มี ปตู ช่อง ลม ที่ ลูก สูบ, แต่ ปตู ที่ สูบ
ข้าง ล่าง นั้น มี เหมือน กัน. แต่ ทว่า มี ท่อ เล็ก ที่ น้ำ จะ พุ ออก
นั้น, ทำ ให้ ต่ำ ลง มา เหนือ ปตู หน่อย หนึ่ง. เมื่อ ชัก สูบ ขึ้น,
ปตู จะ เบิ้ด, น้ำ จะ เข้า ใน สูบ, เมื่อ กด ลง น้ำ จะ ดัน ปตู ให้ เบิ้ด,
แล้ว น้ำ จะ พุ ออก ตาม ท่อ เล็ก นั้น. ท่อ อย่าง นี้ สำหรับ เขา รด
ต้น ดอก ไม้, ถ้า จะ ให้ น้ำ โปรย ออก ไป ไกล, ก็ ต้อง กด ลูก สูบ
ลง ให้ แรง ตาม ปราถนา จะ ให้ ใกล้ แล ไกล. แล เครื่อง สูบ
นี้ เมื่อ ชัก ลูก สูบ ขึ้น น้ำ ก็ หยุด มิ ได้ พุ ออก, เมื่อ กด ลง น้ำ
จึง พุ ออก ได้ ทุก ที.
๏ จะ ว่า ถึง สูบ น้ำ อีก อย่าง หนึ่ง, กระทำ เหมือน กัน กับ
สูบ ที่ ว่า มา ใน ที่ สอง, ต่าง กัน แต่ อย่าง ใหม่, ที่ ว่า นี้ มี หีบ ลม
ด้วย, จึง ทำ ให้ ท่อ เล็ก ที่ น้ำ จะ พุ ออก นั้น เข้า ไป ใน หีบ ลม,
แล ให้ มี ปตู ปิด เบิ้ด ได้ ที่ ปลาย ท่อ เล็ก ที่ อยู่ ใน หีบ ลม นั้น ด้วย.
แล้ว จึง ให้ มี ท่อ เล็ก ๆ อีก อัน หนึ่ง, ให้ หยั่ง ลง มา กลาง หีบ
ลม นั้น, ให้ สูง พ้น พื้น ก้น หีบ ลม นั้น สอง นิ้ว สาม นิ้ว ก็ ได้, แต่
ปลาย ท่อ นั้น ให้ สูง กว่า หีบ ลม ขึ้น ไป สอง ศอก สาม ศอก ก็ ได้,
ให้ ขึ้น ไป เหมือน กัน กับ ลูก สูบ นั้น. เมื่อ ชัก ลูก สูบ ขึ้น จะ ดูด
น้ำ เข้า ตาม ช่อง ปตู ให้ น้ำ เข้า ไป ใน สูบ, เมื่อ กด ลง ปตู สูบ
น้ำ จะ ปิด, ปตู ที่ อยู่ ปลาย ท่อ เล็ก ที่ อยู่ ใน หีบ ลม จะ เบิ้ด, น้ำ
จะ เข้า ใน หีบ ลม ทั้ง หมด. เมื่อ ชัก ลูก สูบ ขึ้น อีก, น้ำ ใน
หีบ ลม นั้น จะ ดัน ปตู ที่ ปลาย ท่อ เล็ก นั้น ให้ ปิด, น้ำ จะ กลับ
ไหล ไป ใน สูบ นั้น ไม่ ได้, น้ำ ข้าง นอก จะ ไหล เข้า ใน สูบ ได้,
เพราะ ชัก ลูก สูบ ขึ้น ปตู สูบ นั้น เปิด. เมื่อ กด ลูก ซูบ ลง อีก,
น้ำ จะ เข้า ไป ใน หีบ ลม อีก, จะ อัด ลม อยู่ ข้าง ใน, ลม จะ ออก ไม่
ได้, เพราะ น้ำ ท้วม ปลาย ท่อ ข้าง ล่าง ที่ หยั่ง ลง ใน หีบ ลม นั้น.
เมื่อ ชัก ลูก สูบ ขึ้น, แล กด ลง หลาย ที, ก็ ยิ่ง อัด ลม ใน หีบ
นั้น นัก, ลม จะ ดัน น้ำ ให้ ขึ้น ตาม ท่อ ใน หีบ ลม ที่ ออก ข้าง บน
แรง ยิ่ง นัก, น้ำ จะ พุ่ง ออก ทุก ที, ชัก ลูก สูบ แล กด ลง มิ ได้ หยุด
เลย. เครื่อง สูบ น้ำ นี้, ก็ เปน เครื่อง สำหรับ ดับ ไฟ. แล ที่
สุด ปลาย สูบ น้ำ นั้น, เขา ให้ มี ท่อ ทำ ด้วย หนัง สัตว, ต่อ ติด
ไป จะ ให้ ไกล ห้า เส้น หก เส้น ก็ ได้, ให้ ปลาย ท่อ หนัง นั้น ลง
ใน บ่อ ก็ ได้, ใน แม่ น้ำ ก็ ได้, ยัง สูบ น้ำ อีก หลาย อย่าง, ก็ กระ
ทำ ตาม วิชา นี้ ทั้ง หมด.
๏ แล ใน เดือน ข้าง น่า, เรา จึ่ง จะ ว่า ถึง เครื่อง สำหรับ กำ
หนด จะ ให้ รู้ ว่า ลม อ่อน แล ลม กล้า, ที่ พ่อ ค้า ได้ ใช้ ใน กำ
ปั่น, อังกฤษ เรียก ชื่อ ว่า, บรัมอิเตอ อย่าง หนึ่ง, สินส้มอิเตอ
อย่าง หนึ่ง.
ว่าด้วย ข่าว มา แต่ ยูรบ แล อเมริกๅ ตาม ทาง ไฟ ฟ้า
๏ เมือง ลอนดอน, เมื่อ ณวัน อังคาร เดือน หก ขึ้น ค่ำ หนึ่ง,
ปี ฉลู สัปตศก, เขา ได้ ข่าว มา แต่ เมือง อเมริกๅ ว่า, เซนนิเร็ล ลี
แม่ ทัพ ใหญ่ ฝ่าย ขบถ, ได้ ยอม แพ้ แก่ เซนนิเร็ล แกรนท์ แล้ว,
กอง ทัพ ที่ ยอม แพ้ ปราไชย ไป นั้น, นับ ได้ ๒๕๐๐๐ คน.
๏ อนึ่ง ข่าว มา แต่ เมือง รูเซีย ว่า, ราช บุตร ใหญ่ เจ้า
เมือง ที่ จะ เปน กระษัตริย์ สืบ วงษ ไป นั้น, อายุ ได้ ๒๒ ปี, ถึง
แก่ กรรม เมื่อ ณวัน จันทร์ เดือน หก แรม สิบ สี่ ค่ำ ปี ฉลู สัปตศก.
๏ อนึ่ง เสมื่ยร ราช ทูต แห่ง เมือง รูเซีย, ที่ ให้ ไป อยู่ ณ
เมือง ปาริศ ฝรั่ง เสศ นั้น, มี อ้าย ผู้ ร้าย มา ฆ่า เสีย ถึง แก่ กรรม
ตาย แล้ว.
๏ เมือง ลอนดอน, เมื่อ ณวัน พุธ เดือน หก ขึ้น สอง ค่ำ ปี
ฉลู สัปตศก, เขา ได้ ข่าว มา แต่ เมือง อเมริกๅ ว่า, เปรศซิเด็นต์
ลิงกัน, มี อ้าย ผู้ ร้าย มา ลอบ ยิง ด้วย ปืน เมื่อ ณวัน ศุกร เดือน
ห้า แรม สี่ ค่ำ ปี ฉลู สัปตศก. ครั้น อยู่ มา ถึง ณวัน เสาร์ เดือน
ห้า แรม ห้า ค่ำ เวลา เช้า ถึง แก่ กรรม ตาย, อ้าย ผู้ ร้าย เหล่า นั้น
หมาย ว่า จะ ฆ่า มิสเทอ ซิวอาถ, ที่ เปน ขุนนาง ใหญ่ ของ เปรศ
ซิเด็นต์ลิงกัน, สำรับ ฝ่าย ต่าง ประเทศ, แต่ มิศเตอ ชิวาด นั้น
ถูก ฟั้น ด้วย ดาบ หลาย แผล, แต่ ยัง หา ตาย ไม่.
๏ เมือง นุยอก, เมื่อ ณวัน ศุกร เดือน หก ขึ้น สี่ค่ำ ปี ฉลู
สัปตศก, มี ข่าว มา ว่า, อ้าย ผู้ ร้าย ที่ ยิง เปรศซิเด็นต์ ลิงกัน นั้น,
มี ผู้ มา ยิง ถูก ปืน ตาย แล้ว. แล มี ข่าว เซ็นนิเร็ล เชอมัน แม่
ทัพ ฝ่าย เมือง อเมริกา นั้น, ได้ ทำ หนังสือ สัญญา ไว้ กับ เซ็นนิเร็ล
ยอนซตอน แม่ ทัพ ฝ่าย พวก ขบถ ว่า, จะ สงบ การ ศึก นั้น งด
ไว้ ก่อน, แต่ เคาเวินเมนต์ เมือง อเมริกา นั้น ไม่ เหน ด้วย, จึง ให้
เซ็นนิเร็ล แกรนต์ ยก กอง ทัพ ไป รบ กว่า จะ ยอม แพ้ ให้ ได้.
๏ เมือง ลอนดอน, ฝ้าย บด กำลัง ขาย ราคา ปอน ละ สลึง
เฟือง เสศ, ฝ่าย พวก ขบถ เมือง อเมริกา ได้ เผา ฝ้าย บด เสีย
๔๐๐๐๐ เบละ, เบละ หนึ่ง หนัก ประมาณ ได้ ๔ หาบ. อนึ่ง คน
ผู้ ร้าย ที่ จะ คอย ลอบ ฆ่า มิศเตอ ชิวาด นั้น, เขา ยิง ตาย เสีย
แล้ว, แล พัก พวก อ้าย ผู้ ร้าย นั้น, เขา จับ ตัว ได้ สิ้น แล้ว.
๏ เมือง อเมริกา, เมื่อ ณวัน พุธ เดือน ห้า แรม เก้า ค่ำ
ปี ฉลู สัปตศก, มิศยอนซตอน ที่ ขึ้น เปน เปรศซิเด็นต์, แทน
มิศลิงกัน ที่ ตาย นั้น ได้ ขึ้น ว่า ราช การ แผ่นดิน อยู่, แต่ หา ได้
บอก ว่า จะ ประพฤทธิ์ อย่าง ไร ไม่, เซ็นนิเร็ล ยอนซตอน แม่ ทัพ
ฝ่าย ขบถ ยัง กำลัง หนี อยู่ ตรง หน้า เซ็นนิเร็ล เชอมัน, พิเคราะห์
ดู เหน ว่า จะ ยอม แพ้ โดย เร็ว. อนึ่ง มิศเตอ ชิวาด ที่ ถูก ฟั้น
ด้วย ดาบ นั้น ค่อย ทุเลา ขึ้น, แล ศพ เปรศซิเด็นต์ ลิงกัน นั้น,
ได้ ฝัง ไว้ ใน วัน นั้น.
๏ เมือง นุยอก, เมื่อ ณวัน เสาร์ เดือน หก ขึ้น ห้า ค่ำ ปี ฉลู
สัปตศก, มี ข่าว มา ว่า, เซ็นนิเร็ล ยอนซตอน, แม่ทัพ ฝ่าย ขบถ
นั้น, ได้ ยอม แพ้ แก่ เซ็นนิเร็ล เชอมัน แม่ ทัพ ฝ่าย เมือง อเมริกา
กอง ทัพ ฝ่าย ขบถ ทั้งปวง หมด ได้ ทำ หนังสือ สัญญา กัน ว่า, จะ
ไม่ ยก เครื่อง สาศราวุธ ขึ้น ต่อ สู้, ทำ สงคราม รบ กับ เมือง อเม
ริกา ต่อ ไป แล้ว, กว่า จะ เปลี่ยน พวก ชเลย ทั้ง สอง ฝ่าย, ให้
สำเร็จ แล้ว แก่ กัน นั้น.
๏ อนึ่ง มิศเดวิศ, ผู้ ได้ เปน เปรศซิเด็นต์ ฝ่าย ขบถ, ได้
หนี ไป จาก เมือง ริศมอนต์, ไป ถึง เมือง เซาซิแกโร ไลนา แล้ว.
๏ เมือง อเมริกา ที่ เมือง นุยอก, เมื่อ ณวัน พุธ เดือน หก ขึ้น
เก้า ค่ำ นั้น มี ข่าว มา ว่า, กอง ทัพ ฝ่าย ขบถ ที่ แตก กระจัด พรัด
พราย ไป นั้น, ก็ ยอม แพ้ สิ้น ทั้ง หมด. แล้ว ได้ ทำ หนังสือ
สัญญาไว้ว่า, จะไม่ ยกเครื่อง สาตราวุธ ขึ้น ต่อสู้ทำ สงคราม
กับ เมือง ยะมริกา ต่อไปแล้ว. แลมีข่าวมาว่า กองทัพ ฝ่าย
เมืองอมริกานั้น, เคาเวินเมนต์เมืองอมริกา, ได้ให้พวกทหาร
กลับไป บ้านเมืองได้ประมาณสี่แสนคนแล้ว, เพราะไม่ต้อง
การ, ฯ ที่ทำศึก สงคราม กัน นั้น, จะสงบ กันแล้ว.
๏ อนึ่งมิศยอนซตอน, ที่เปน เปรสซิเดนต์ใหม่ นั้น, ได้
เปิด ของให้โอกาส ลูกค้า วานิช, ไป ซื้อ ขาย ที่ฝ่ายใต้ เมือง
อเมริกานั้นแล้ว.
๏ แลมีข่าวมาว่าฝ้าย บดแล้ว, ที่เมืองอมริกาฝ่ายใต้
นั้นแพงอยู่.
๏ มี หนังสือข่าว เมืองอเมริกาว่า, ณวัน เสาร์เดือนห้าแรม
ห้าค่ำ ปีฉลูสัปตศก มิศตอนตัน, ผู้เปน ขุนนางใหญ่ ฝ่ายฆ่าศึก
เมืองอมริกานั้น, บอกข่าวว่า, เปรศซิเดนต์ลิงกัน, ในเวลา
ค่ำวัน นั้น, เมื่อเวลานาฬิกาได้ยาม หนึ่ง กับครึ่งทุ่ม, ได้นั่ง
อยู่ในที่ประชุม ชนเปนอันมาก, แล ภรรยา ของ เปรสซิเดนต์
ลิงกัน, กับ ภรรยา ของ มิศฮาริด, กับ นาย ทหาร คน หนึ่ง ชื่อ
ว่า รัสเบิน. ขณะ นั้นมีอ้าย ผู้ร้าย อย่อง แอบ เข้า มา ข้าง หลัง
เร็วนัก, มันได้ที่จึง ยิงเอา เปรสซิเดนต์ ลิงกัน, ถูก ศีศะ
ตรง ท้าย ทอย ล้ม ลง สลบ ไปไม่ รู้สึก ตัว. แล้วอ้าย ผู้ร้าย ก็
วิ่งโดด ขึ้น ไป อยู่ บน แท่น, ที่คน ทั้งปวง เคย มา แจ้ง ความ
ต่าง ๆ แก่ เปรสซิเดนต์ ลิงกัน ที่นั่น, แล้ว ชัก กระบี่ ออก
กวัด แกว่ง ทำ สิงหนาท ร้อง ด่า คน สำแดง ไภย ต่าง ๆ, แล้วกระ
โดด วิ่ง กลับ ออก ไป ทาง ปตู หลัง ตึก. ในทันใด นั้น ยังมี
อ้าย ผู้ร้าย อีก คน หนึ่ง, เปน คู่ คิด กัน กับ อ้าย ผู้ร้าย ที่ ยิง เปรสซิ
เดนต์ ลิงกัน นั้น, มัน เข้าไป ที่ มิศเตอชิวอาด อยู่ นั้น แล้ว บอก
ว่า, มี เรื่อง ความ มา ถึง ท่าน เปน การ ร้อน. ฝ่าย มิศเตอ ชิว
อาด นั้น, ป่วย เปนไข้ นอน อยู่ บน ที่ นอน. ฝ่าย คน ที่ รักษา
ปตู นั้น หมาย ว่า จริง, ไม่ ทัน รู้ จึง เปิด รับ ให้ เข้า ไป ใน ห้อง,
ครั้น มัน เข้า ไป ได้, จึง วิ่ง ตรง เข้า ไป ถึง ที่ นอน, ชัก ดาบ ออก
แทง มิศเตอ ชิวอาด ถูก ที่ คอ สอง สาม แห่ง, แล แทง หน้า สอง
แห่ง, แล้ว ก็ วิ่ง กลับ ออก ไป. ใน ทันใด นั้น ผู้ ที่ พยาบาล
มิศเตอ ชิวอาด อยู่, เหน ว่า เกิด ความ จลาจล วุ่น วาย ขึ้น, จึง
ไป ร้อง เรียก ลูก ชาย ชื่อ เฟรศซิก, บุตร ของ มิศเตอ ชิวอาด ให้
ลุก ขึ้น โดย เร็ว, ลูก ชาย นั้น วิ่ง ออก มา ภอ ถึง ปตู, อ้าย ผู้ร้าย ก็
วิ่ง ออก มา ภอ ถึง ปตู พร้อม กัน เข้า, อ้าย ผู้ร้าย ก็ แทง เอา เฟรด
ริก นั้น ถูก เปน บาด แผล โลหิต ไหล, ดู น่า กลัว นัก เหน ชีวิตร
จะ ไม่ รอด, แต่ บาด แผล มิศเตอ ซิวอาด นั้น, พิเคราะห์ ดู เหน
ว่า ภอ จะ เยียว ยา รักษา ได้ อยู่. แต่ เปรสซิเดนต์ ลิงกัน นั้น,
เหน ว่า ชีวิตร จะ ไม่ ตลอด คืน นั้น ไป ได้. ใน เวลา คืน วัน นั้น,
เปรสซิเดนต์ ก็ ได้ เชิญ เชนเนอรัล แครนต์ แม่ ทัพใหญ่, กับ
ภรรยา ท่าน ให้ มา ประชุม พร้อม กัน อยู่ ที่ นั่น ด้วย. แต่ ท่าน
เชนเนอรัล แครนต์, กับ ภรรยา นั้น ไม่ ทัน รับ หนังสือ เชิญ, จึง
ไป เสีย ที่ อื่น เปน ทาง ไกล, หา ได้ มา ใน ที่ ประชุม นั้น ไม่.
ถ้า ได้ มา ใน ที่ ประชุม นั้น ด้วย แล้ว, เหน จะ ถูก ฟัน ถึง แก่ กรรม
ตาย เพราะ อ้าย ผู้ร้าย นั้น ด้วย. ใน วัน นั้น เชนนิรัล แครนต์
กับ มิศเตอ ซิวอาด เปน ขุนนางใหญ่, ฝ่าย ต่างประเทศ, กับ
มิศเตอ ซตอนตัน เปน ขุน นาง ใหญ่ ฝ่าย การ ศึก, แล มิศเตอ
เวลส์ เปน ขุนนาง ใหญ่ ฝ่าย ทัพ เรือ, กับ ขุน นาง ใหญ่ ผู้ อื่น อีก
หลาย คน, เปน ที่ ปฤกษา การ แผ่นดิน, ได้ มา ประชุม ปฤกษา
พร้อม กัน, ด้วย การ แผ่นดิน ใน เวลา วัน นั้น. ฝ่าย เปรสซิเดนต์
ลิงกัน มี ใจ เบิกบาน ยินดี นัก, ด้วย พิเคราะห์ ดู เหน ว่า, จะ กลับ
มี ความศุข แก่ บ้านเมือง เร็ว. แล ท่าน ได้ กล่าว ถึง เชนนิรัล
ลี่ แม่ทัพใหญ่ ฝ่าย ขบถ ว่า, ถึง เปน ขบถ แล้ว, ท่าน ก็ ยัง มี
ความเมตา อยู่. อนึ่ง มิศเตอ ซิวอาด กับ บุตรชาย ท่าน นั้น,
มี อาการ ไม่ รู้สึก สมปฤ่ๅดี, ใน เวลา กลางคืน แรม สี่ ค่ำ นั้น,
เวลา สิบ ทุ่ม.
๏ ครั้น รุ่งขึ้น ห้า ค่ำ เวลา เที่ยง, มิศเตอ ซตอนตัน มี หนังสือ
ต่อ มา ว่า, อ้าย ผู้ร้าย ที่ ฆ่า เปรสเดนต์ ลิงกัน นั้น, ชื่อว่า วิลซิบูศ,
เปน น้อง ชาย ของ เอควิลบูศ เปน คน เล่น ลคอน, เปน พวก ฝ่าย
ขบถ เข้มแขง นัก. มี ข่าว ภอ เชื่อฟัง ได้ ว่า, อ้าย ผู้ร้าย นั้น
เขา จับ ตัว ได้ แล้ว. แล มิศเฟรดดิริกซิวอาด นั้น, ถึง แก่
กรรม ตาย แล้ว. แล ท่าน เปรสซิเดนต์ ลิงกัน นั้น, ถึง แก่ กรรม
ใน เวลา เช้า โมง หนึ่ง กับ สาม สิบสอง นาที. อนึ่ง สืบ ข่าว ได้
ความ เปน แน่ ว่า อ้าย ผู้ ร้าย ตัว การ ผู้ ใหญ่, ที่ ได้ ลง มือ นั้น,
สอง คน แน่, คน หนึ่ง ชื่อ ว่า วิลซิบูศ, คน หนึ่ง ชื่อ มิ ได้ ปรากด,
แต่ คน ทั้งปวง จำ หน้า ได้ ชัด, จะ หนี ไป ให้ พ้น โทษ นั้น มิ ได้.
แล้ว ค้น ได้ หนังสือ ที่ ตก อยู่ ใน หีบ ของ วิลซิบูศ นั้น, ใจ ความ
ว่า, เขา ทั้งสอง คน นั้น พร้อมใจ กัน ว่า, จะ ทำ ร้าย เปรสซิเดนต์
ลิงกัน นั้น, ใน ต้น เดือน สี่, แต่ หา ได้ ทำ ไม่, เพราะ ผู้ รอง วิลซิ
บูศ เปน ที่ สอง นั้น, เหน ควร จะ ให้ งด ไว้ ก่อน, กว่า จะ ได้ รู้ ข่าว
ว่า, เมือง ริศมอนต์ จะ เสีย แก่ ฆ่า ศึก ฤๅ ไม่. ครั้น เมื่อ ณวัน
ศุกร์ เดือน ห้า แรม สี่ ค่ำ ปี ฉลู สัปตศก, เวลา บ่าย หก โมง,
อ้าย ผู้ ร้าย ทั้ง สอง คน นั้น, ได้ ไป เช่า ม้า เขา, คน ลตัว ที่ โรง ม้า
แห่ง หนึ่ง, ใน เวลา ค่ำ ประมาณ สาม ทุ่ม, มัน ได้ เอา ม้า ไป ฝาก
ไว้ กับ ผู้ มี ชื่อ แห่ง หนึ่ง. แล้ว มัน ได้ เข้า ไป ทำ ร้าย คน ลอย่าง
ตาม ความ ที่ ได้ กล่าว มา แล้ว นั้น. ครั้น ทำ สำเร็จ การ แล้ว,
มัน ภา กัน ออก มา ขึ้น หลัง ม้า, แล้ว หนี ไป.
๏ ณวัน อาทิตย์ เดือน ห้า ขึ้น ๗ ค่ำ เซน นี เร็ล ลี่, ยอม แพ้
แก่ เซน นี เร็ล แกรนต์ เปน ความ แพ้ ใหญ่ นัก.
๏ เมื่อ ณวัน อาทิตย์ เดือน ห้า ขึ้น ๗ ค่ำ ปี ฉลู ยัง เปน ฉศก.
เซนนิเร็ลด์ ลี่, ที่ ตั้ง กอง ทับ อยู่ ใน เมือง ริศมอนด์ นั้น, เหน ว่า
เซนนิเรนต์ แกรนต์ นั้น, แทบ จะ ล้อม เมือง ไว้ รอบ แล้ว, จะ หา
มี ทาง ที่ จะ หนี ออก ได้ ไม่, จึ่ง ภา พวก กอก ทับ อพยพ หนี
ออก จาก เมือง ใน เพลา กลาง คืน ประมาณ สอง ยาม, แล เดิน
ทับ หนี ไป ได้ หน่อย หนึ่ง. ฝ่าย เซนนิเร็ล แกรนต์ รู้ เหตุ นั้น, จึ่ง
แบ่ง ทหาร ใน กอง ทับ ให้ ยก ธง เข้า ไป ใน เมือง แล้ว, ให้ ปัก ธง
ลง ไว้ ใน ที่ สูง. ฝ่าย ท่าน เซนนิเร็ล แกรนต์ ยก กอง ทับ ใหญ่
ไป ก้าว สกัด ติด ตาม, เซนนิเร็ล ลี่ เมื่อ ณวัน ศุกร์ เดือน ห้า ขึ้น
๑๑ ค่ำ ปี ฉลู ยัง เปน ฉศก. ตาม ไป ทัน กลาง ทาง, ใน วัน นั้น
ได้ รบ พุ่ง กัน สามาถ ตั้ง แต่ เพลา สอง โมง บ่าย, จน เพลา พลบ
ค่ำ, จับ ได้ นาย ทหาร ใหญ่ ฝ่าย กระบถ นั้น ๖ คน, ได้ ทหาร ชะ
เลย นั้น หลาย พัน คน, ได้ ปืน ใหญ่ ๑๔ บอก, แล เครื่อง
สาตราวุธ ต่าง ๆ เปน อัน มาก. แล ทัพ ที่ แตก นั้น ได้ ทิ้ง เครื่อง
สาตราวุธ แล สะเบียง อาหาร เสีย ตาม ทาง เปน อัน มาก. ถ้า วัน
นั้น ไม่ เปน เวลา พลบ ค่ำ, เวลา ช้า ไป สัก สอง ชั่ว โมง แล้ว,
เซนนิเร็ล ลี่ นั้น, คง จะ ยอม แพ้ ที เดียว.
๏ ครั้น เมื่อ เวลา วัน ศุกร รุ่ง ขึ้น เช้า, เซนนิเร็ล แกรนต์
มี หนังสือ ฝาก ไป ถึง เซนนิเร็ล ลี่ เปน ใจ ความ ว่า, ขอ คำนับ
มา ถึง ท่าน, ดว้ย ข้าพเจ้า เหน เหตุ การ ที่ บังเกิด แก่ ท่าน ใน
เพลา ๗ วัน นี้, คง จะ ให้ ท่าน เข้า ใจ ว่า, ไม่ ควร ที่ ท่าน จะ ต่อ
สู้ ทำ สงคราม ดว้ย ต่อ ไป อีก แล้ว. ข้าพเจ้า ขอ ให้ ท่าน ยอม แพ้
เสียเถิด, อย่าให้มีเหตุที่ ต้องให้โลหิต ทแกล้ว ทหาร เราทัง
สองฝ่ายไหล ออก อีกเลย, ไม่ ตอ้ง การ หา บังควรไม่. ฝ่าย เย็น
นิเร็ลลี, มีหนังสือ ตอบ ไป อีก เปนใจ ความ ว่า, ข้าพเจ้าได้
รับ หนังสือ ท่าน แล้ว. ความ ที่ ท่าน ปราถนา จะ ให้โลหิต ทหาร
อยุด เสีย มิให้ไหล ออก อีก นั้น, ข้าพเจ้า เหน ชอบ ด้วย แล้ว.
แต่ ข้าพเจ้า ยังไม่ เหน ด้วย ท่าน ว่า, กำลัง กอง ทัพ ของ ข้าพเจ้า
อ่อน ลง เพียง ว่า, จะ ไม่ ควร ที่ จะ มีความ หวังใจอีก. แต่ใจ ท่าน
จะ ให้ข้าพเจ้า ยอม แพ้ย่า ทับ เลิก ไป นั้น, ด้วย เหตุ ประการใด.
ฝ่าย เย็นนิเร็ลแกรนต์นั้น, มี หนังสือ ตอบ ไป ว่า, ข้าพเจ้ามี
ความ ปราถนา ความ ศุข, เปน ความ ปราถนาใหญ่ ของ ข้าพเจ้า.
แล ข้าพเจ้า จะ ให้ทแกล้ว ทหาร ของ ท่าน สาบาน ตัว ว่า, จะ ไม่
ยก เครื่อง สาตรา วุธ ขึ้น, ทำ การ ศึก สงคราม กับ เมือง อเมริกา
ต่อ ไป แล้ว, กว่า จะ ได้จัด เปลี่ยน พวก ชะเลย ทั้ง สอง ฝ่าย นั้น,
ให้ เปน อัน สำเร็จ เลิก แล้ว แก่ กัน. ข้าพเจ้า ปราถนา จะ ใคร่ ภบ
กัน กับ ท่าน, ฤๅ ท่านผู้ แทน ตัว ท่าน, ใน ที่ใด ที่ หนึ่ง, ตาม ที่
ท่าน จะ ชอบ ใจ จัด แจง. ฝ่าย เย็นนิเร็ลลีมีหนังสือ ตอบไปว่า,
ข้าพเจ้า ยัง ไม่ หมาย ว่า, จะ ยอม แพ้ท่าน ดอก, เปน แต่ หา ฤๅ
ว่า, ท่าน จะ ให้ ข้าพเจ้า ยอม แพ้อย่างไร. ข้าพเจ้า เหน ว่า ยัง ไม่ถึง
ที่ สม ควร จะ ยอม แพ้ แก่ ท่าน. แต่ทว่า มีความ ปราถนา อยาก
จะ ให้บ้าน เมือง บังเกิด ความ ศุข จึง ได้ ไป ว่า. ข้อ ที่ ท่าน จะ
ให้ ข้าพเจ้า ประพฤทธิ์ ตาม ทาง นั้น, บ้าน เมือง จะ บังเกิด ความ
ศุข ฤๅ ไม่. ที่ ท่าน จะ ให้ ข้าพเจ้า ภบ ปะ ท่าน, เพื่อ จะ ให้ยอม
แพ้ อย่า ทับ ของ ข้าพเจ้า ไป นั้น ยัง มิ ได้. แต่ทว่า ถ้า ท่าน จะ ให้
ข้าพเจ้า ช่วย จัด แจง, เพื่อ จะ ให้เลิก ยอม อย่า ทับ กัน เสีย ทั้ง
สอง ฝ่าย นั้น, ข้าพเจ้า ก็ จะ ยอม กระทำ ตาม.
๏ ฝ่าย เย็นนิเร็ล แกรนต์มี หนังสือ ตอบ ไป อีก ว่า, ข้าพเจ้า
มี ความ ปราถนา จะ ให้ การ ศึก สงคราม นั้น, อยุด เสีย ทั้ง สอง
ฝ่าย. แต่ ข้าพเจ้าไม่ มี อำนาท ที่ จะ ให้ฝ่าย ทัพ ของ ข้าพเจ้า อยุด
ได้. ท่าน เจ้า เมือง ของ ข้าพเจ้า ปราถนา จะ ให้ บังเกิด ความ ศุข,
แต่ ท่าน จะ ไม่ ยอม ให้อยุด, ถ้า เว้น ไว้ แต่ ชาว เมือง ฝ่าย ใต้ จะ
ยอม วาง เครื่อง สาตรา อาวุธ ลง, ไม่ ยก ทัพ ทำ ศึก สงคราม กับ
เมือง ฝ่าย เหนือ ต่อ ไป อีก แล้ว, ถ้า ท่าน ยอม ลง เช่น นั้น, ก็ จะ
ได้ มี ความ ศุข โดย เร็ว, จะ ได้ รอด ชีวิตร หลาย พัน คน, แล
ทรัพย์พัศดุ มี ราคา หลาย ล้าน เหรียน, ก็ ได้ รอด พ้น จาก อัน
ตราย ด้วย. ข้าพเจ้า มี ความ หมาย ใจ ว่า, จะ จัด แจง มิ ให้ เสีย
ชีวิตร อีก เลย สัก คน เดียว. ฝ่าย เซ็นนิเร็ล ลี มี หนังสือ ตอบ ไป
อีก ว่า, ข้าพเจ้า อยาก ขอ ให้ ภบ ปะ ท่าน, ตาม กระแส ความ ที่ มี
มา ใน หนังสือ บอก ของ ท่าน นั้น.
๏ ฝ่าย เซ็นนิเร็ลแกรนต์ นั้น, ครั้น ณวัน อังคาร เดือน ห้า
แรม เก้า ค่ำ ปี ฉลู สัปตศก, จึ่ง ตอบ ว่า ข้าพเจ้า จะ ให้ ท่าน จัด แจง
ทำ บาญชี่ย์ หางว่าว สอง ฉบับ, สำหรับ จด หมาย ราย ชื่อ พวก
ทแกล้ว ทหาร, แล นาย กอง ทหาร ทุก คน ๆ. ฝ่าย ท่าน เซ็นนิ
เร็ล แกรนต์ นั้น จึ่ง ว่า, ข้าพเจ้า จะ จัด เลือก เอา นาย ทหาร คน
หนึ่ง สำหรับ ถือ บาญชี่ย์ หางว่าว ฉบับ หนึ่ง. แล้ว จะ ให้ ท่าน เลือก
เอา นาย ทหาร คน หนึ่ง, สำหรับ ถือ บาญชี่ย์ หางว่าว นั้น หาง หนึ่ง,
แล้ว จะ ให้ แต่ บันดา นาย กอง ทหาร ทุก คน ๆ, ตั้ง คำ สัญญา
สาบาน ตัว ว่า, จะ ไม่ ยก เครื่อง สาตรา อาวุธ ขืน ต่อ สู้ ทำ ศึก
สงคราม กับ เมือง อเมริกา ต่อ ไป อีก แล้ว, กว่า จะ ได้ เปลี่ยน
พวก คน ชะเลย ทั้ง สอง ฝ่าย ให้ เรียบ ร้อย ดี เปน ปรกติ. แล
ข้าพเจ้า จะ ให้ พวก ทหาร ทุก คน ๆ, ตั้ง คำ สัญญา สาบาน ลง ชื่อ
ไว้ ใน บาญชี่ย์ เหมือน กัน. แล เครื่อง อาวุธ ใหญ่ น้อย นั้น ให้ เอา
มา ตั้ง ประชุม กัน, แล ทรัพย์ สิ่ง ของ อื่น ๆ ทั้งปวง นั้น ที่ ตก
เปน ของ กลาง อยู่ ใน กองทัพ ของ ท่าน นั้น, ก็ จะ ให้ ยก เอา มา
ไว้ ให้ แก่ เรา ทั้งสั้น ด้วย. แต่ สิ่ง ของ เครื่อง สำหรับ ตัว พวก นาย
ทหาร เปน ต้น ว่า, กระบี่ แล ม้า, แล หีบ ใส่ ของ สำหรับ ตัว นั้น ก็
ไม่ เอา. แล้ว ข้าพเจ้า จะ ยอม ให้ นาย ทหาร แล ไพร่ พล ทั้งปวง
กลับ ไป บ้าน เมือง ของ ตัว ทุก คน ๆ, ไม่ ให้ มี ไภย อันตราย เลย
เมื้อ ยัง ได้ รักษา คำ สัญญา อยู่ นั้น. ฝ่าย เซ็นนิเร็ล ลี ก็ ยอม ตาม
ถ้อย คำ ที่ เซ็นนิเร็ล แกรนต์, ให้ มี หนังสือ มา นั้น ทุก ประการ.
แล เมื่อ ได้ ทำ บาญชี่ย์ จด หมาย ราย ชื่อ นาย ทแกล้ว ทหาร ทั้ง
สอง ฉบับ สำเร็จ แล้ว, เซ็นนิเร็ล แกรนต์, ก็ ปล่อย คน ทั้งปวง ให้
กลับ ไป บ้าน เรือน ของ ตัว. ถ้า จะ นับ ทแกล้ว ทหาร ทั้ง หมด
ด้วย กัน, รวม เปน ๒๕๐๐๐ คน.
๏ ครั้น เมื่อ การ แผ่นดิน เหล่า นี้ ว่า กล่าว ตก ลง กัน สำเร็จ
แล้ว เซ็นนิเร็ล แกรนต์, จึ่ง ได้ บอก หนังสือ เรื่อง ความ นั้น ตาม
ทาง ไฟ ฟ้า ไป ถึง เมือง วัดชิงตัน, เปน เมือง หลวง ฝ่าย อเมริกา.
ฝ่าย เปรศซิเด็ล ลิงกัน, จึ่ง มี รับ สั่ง ให้ ยิง ปืน สลูด คำนับ ทุก
แห่ง ทุก ตำบล, แต่ บันดา ที่ มี กองทัพ ตั้ง อยู่ ใน แว้น แคว้น ทั่ว
ประเทศ เมื้อง อเมริกา นั้น ทั้ง สิ้น.
โจร ผู้ ร้าย
๏ วัน พฤหัศบดี เดือน เจ็ด ขึ้น แปด ค่ำ, ปี ฉลู สัปตศก เวลา
โมง เช้า ฟอนซิกา พุตเก็ต, ไป ที่ วัง พระ เจ้า น้อง ยา เธอ กรม
หลวง วงษาธิราช สนิท, ๆ ยัง ไม่ ปทม ตื่น. ฟอนซิกา เข้า ไป
ขโมย เอา นาฬิกา ทอง คำ, ครู นำมิเต้อ, มี สาย สร้อย ทอง คำ
ใหญ่ ด้วย, มี ตลับ รูป เจ้า จอม มารดา ตลับ หนึ่ง, ตลับ เข็ม
ตลับ หนึ่ง, มี คน เหน เปน หลาย คน. พระ เจ้า น้อง ยา เธอ
กรมหลวง วงษาธิราช สนิท, ให้ หม่อม ราโชไทย ตระลาการ ศาล
ต่าง ประเทศ, ลง ไป ฟ้อง กับ มิศเตอ โม กงสุล พุตเก็ต, ๆ ให้
เสมียน ขึ้น มา ค้น แพ ฟอนซิกา. ได้ ของ ๆ กรมหลวง วงษา
ธิราช สนิท, ที่ ฟอนซิกา ลัก ไป แต่ ก่อน ๆ เปน หลาย สิ่ง.
๏ ทาษ ฟอนซิกา ยืน ยัน ความ ว่า, ฟอนซิกา ลัก หีบ ใส่ เงิน
ของ กรมหลวง วงษา ธิราช สนิท ไป, เอา ผ้า แดง เช่น เย็บ ธง ห่อ
หีบ ให้ ทาษ ฟอนซิกา แบก ไป แพ, เวลา เช้า กรมหลวง วงษา ธิ
ราช สนิท ยัง ไม่ ปทม ตื่น เหมือน กัน, แต่ การ หลาย เดือน มา
แล้ว. ใน หีบ นั้น มี เงิน ถุง สิบ ชั่ง เต็ม ถุง ๆ หนึ่ง, ถุง ผ้า ขาว
ห้า ชั่ง เศศ ถุง หนึ่ง, ถุง ไหม เขียว ตุ้ม ทอง หู ทอง, เงิน สาม
ชั่ง เสศ ถุง หนึ่ง, ถุง เอี๊ยบ ด้วย ไหม ทอง, ใส่ ทอง ๕๕ บาท
ถุง หนึ่ง. ฟอนซิกา ลัก ของ กรมหลวง วงษาธิราช สนิท ไป, แต่
ก่อน เปน อัน มาก. ฟอนซิกา ไม่ ได้ ทำ มา หา กิน สิ่ง ไร, แทง
หวย ตัวละ ๑๐๐ บาท ๒๐๐ บาท เนอืง, เปน นักเลง เล่น โป,
เล่น ไพ่, แล้ว ช่วย ทาษ ไว้ เปน หลาย ครัว หลาย คน, ซื้อ นา
สวน วัว ควาย เข้า ของ ไว้ เปน อัน มาก. กงสุล พุตเก็ต ดู เหมือน
จะ เข้า แก่ ฟอนซิกา, หา ชำระ เอา ของ เหล่า นี้ ถวาย แก่ กรมหลวง
วงษาธิราช สนิท ให้ ครบ ไม่. ตัด สิน ว่า ฟอนซิกา แพ้ ความ แก่
กรมหลวง วงษา, เพราะ มี ผู้ ยืน ยัน เปน พระยาน ว่า ได้ เหน นา
ฬิกา เปน หลาย คน. ให้ ฟอนซิกา ใช้ นาฬิกา แล้ว, จะ เอา ตัว
ฟอนซิกา ใส่ คุก ไว้ ที่ กรุง เทพ ฯ หก เดือน, แล้ว จะ เอา ตัว ฟอน
ซิกา ส่ง ไป เมือง มะเกา. เข้า ของ ๆ ฟอนซิกา ยัง มี อยู่ เปน อัน
มาก. ภรรยา ฟอนซิกา เที่ยว ยัก ย้าย จำนำ ซื้อ ขาย เปน หลาย
แห่ง. ฟอนซิกา เปน นี่ ผู้ อื่น อยู่ เปน อัน มาก. กงสุล พุตเก็ต
ดู เหมือน หา ชำระ โดย ซื่อ ตรง ไม่, ไม่ เอา ของ ๆ ฟอนซิกา มา
ขาย เลหลัง ให้ สิ้น, ใช้ ให้ กับ กรมหลวง วงษา ให้ ครบ, แล
เจ้า นี้ อื่นๆ ตาม กดหมาย ประเทศ ยูโรป ไม่.
๏ ครั้น ณวัน พุธ เดือน เจ๊ด ขื้นสิบสี่ค่ำ, มี พระยาน ไป ยืน
ยัน, ฟอนซิกา กลับ รับว่าได้ ขโมย นาฬิกา ไป จริง, แต่ เกิด
ความ ขื้น ก็ ทิ้งน้ำ เสีย แต่ ณวัน ขื้น เก้า ค่ำ, แต่ ขื้น สิบ ค่ำ ยัง
มี ผู้ เหน นาฬิกา ที่ ฟอนซิกา. กงสุล ก็ ไม่ ชำระ เอา นาฬิกา ให้ ได้.
๏ ข้าพเจ้า ผู้ เปน เจ้า ของ หนังสือ นี้, ได้ ตี พิมพ์ ข้อ ความ
ที่ ว่า ดว้ย พ่อง สภา พุทธเก็ษ นั้น, เพราะ ท่านผู้มีชื่อ เปน สำคัญ,
ได้ มา ขอ แจ้ง ความ ใน หนังสือ จดหมาย เหตุ. แต่ ข้อ ความ นั้น
จะ ถูก ฤๅ จะ ผิด ประการ ได, ข้าพเจ้า หา รู้ ไม่. อย่า ให้ ผู้ ได มา
ติ โทษ ข้าพเจ้า. ข้าพเจ้า ไม่ ยอม ใช้ ความ ผิด ได ๆ ที่ จะ มี ใน
ข้อ ความ นั้น เลย.
แจ้งความ
๏ ด้วย ข้าพเจ้า ผู้ มี ชื่อ ได้ มา ออก หนังสือ พิมพ์, กับ ท่าน หมอ
ปรัดเล เปน ใจ ความ ว่า, ม้า ของ ข้าพเจ้า หาย. ข้าพเจ้า ได้ ไป
อายัด กับ ท่าน ๆ ก็ หา รับ ไม่. แต่ ม้า ของ ข้าพเจ้า นั้น ตก
อยู่ บ้าน หมื่น ชำนาญ, คือ ท่าน ที่ ข้าพเจ้า ไป อายัด นั้น, ท่าน จะ
ให้ ตัว ข้าพเจ้า กลับ จับ อ้ายขโมย ส่ง. แม้น ข้าพเจ้า รู้ จัก ตัว
อ้ายขโมย แล้ว, ทำ ไม ข้าพเจ้า จะ ให้ จับ เอา ม้า ของ ข้าพเจ้า
ไป ได้ เล่า. แล้ว มี่ ฉนั้น, ท่าน กลับ ใช้ ให้ คน มา เกลี้ย กล่อม
เอา ทาย คือ คน ตี ระนาด ของ ข้าพเจ้า ไป อิก คน หนึ่ง.
การ ที่ ของ หัก ล้ม
๏ ด้วย ตาม กระแส กฎหมาย เมือง อเมริกา ที่ ว่า ด้วย การ หัก
ล้ม นั้น, ข้าพเจ้า ผู้ มี ชื่อ ที่ สุดท้าย หนังสือ นี้, จึ่ง หมาย ประกาศ
มา ให้ คน ทั้งปวง เข้า ใจ ว่า, ตัว ข้าพเจ้า มี ที่ ตั้ง ที่ เขา ตั้ง ไว้
สำหรับ รับ พัศดุ สิ่ง ของ ทั้งปวง, ที่ ยัง เหลือ อยู่ แห่ง ซี่ ยี่ อัลเลน
ผู้ ที่ อยู่ ใน กรุง เทพย์ นี้, การ ของ เขา หัก ล้ม เสีย แล้ว. แต่
บันดา คน ที่ เปน ลูก หนี้ ของ ซี่ ยี่ อัลเลน, ข้าพเจ้า จะ ขอ ให้ เขา
มา ชำระ บาญชี, แล ใช้ เงิน ที่ เปน หนี้ นั้น ใน ที่ บ้าน ของ ข้าพเจ้า
ที่ ตั้ง อยู่ ใน กรุง เทพย์ นี้, ณวัน เสาร์ เดือน แปด ขื้น แปด ค่ำ ปี
ฉลู สัปต์ศก, ฤๅ ก่อน นั้น ก็ จะ ดี. แก่ บันดา เจ้า หนี้ ของ ซี่ ยี่ อัล
เลน นั้น, ข้าพเจ้า จะ ขอ ให้ นำ เอา บาญชี, ทั้ง หนังสือ ประกัน
ที่ เปน สำคัญ พะยาน นั้น, ให้ มา ชำระ เสีย ใน รวาง เดือน เจ็ด,
แรม ห้า ค่ำ, กับ เดือน แปด ขึ้น แปด ค่ำ ให้ แล้ว. อนึ่ง บันดา
คน ที่ มี ทรัพย์ ของ ซี่ยี่ อัลเลน ที่ การ หัก ล้ม เสีย แล้ว นั้น ติก อยู่
กับ ตัว, ขอ ให้ คน นั้น ได้ เอา ทรัพย์ มา คืน ให้ แก่ ข้าพเจ้า โดย
เร็ว.
๏ หนังสือ นี้ ได้ เขียน ที่ กรุงเทพ, เมื่อ ณวัน อังคาร เดือน
เจ็ด แรม ห้า ค่ำ ปี ฉลู สัปตศก.
เอฟ เบลก เปน ผู้ สำรับ, รับ ทรัพย์ ที่ ยัง เหลือ อยู่, ของ
ซี่ยี่ อัลเลน ที่ การ เขา หัก ล้ม นั้น
๏ แต่ บันดา กาน ที่ เขา จะ สั่ง ให้ โยง เรือ, แล ลำเลียง บัน
ทุก ของ ที่ คน ทั้ง หลาย ตอง ข่าว, เรือ ไฟ กล ชื่อ แยกรอเตอ
ลำ หนึ่ง, เรือ ไฟ กล เฟรี ลำ หนึ่ง ทั้ง เรือ ลำเลียง สำรับ เรือ ไฟ
กล หลาย ลำ, ถ้า ผู้ ใด จะ ตอ้ง ประสงษ จง สั่ง มา ให้ ที่ อยู่ ของ
ข้าพเจ้า, ที่ มี ชื่อ เขียน มา สุด ท้าย หนังสือ ใบ นี้, ข้าพเจ้า จึ่ง จะ
รับ คำ สั่ง นั้น โดย ดี, กว่า จะ มี หมาย ประกาศ อย่าง ใหม่ ต่อ นี้
ไป ได้ เขี่ยน ใน กรุงเทพ เมื่อ ณวัน อังคาร เดือน เจ็ด, แรม ห้า ค่ำ,
๏ ชื่อ เอฟ เบลก สำรับ รับ ทรัพย์ ของ ซี่ยี่ อัลเลน ที่ การ หัก ล้ม นั้น
เรือ รบ อังกฤษ
๏ เรือ ไฟ กล เปน เรือ รบ แห่ง เมือง อังกฤษ. มา แต่
เมือง สิงฆโปร, ชื่อ ปรินเซศ โรยัลส์, มา ถึง ที่ สัน ดอน เมื่อ ณ
วัน สุกร์ เดือน เจ๊ด แรม ค่ำ หนึ่ง. กบิตัน เรือ รบ นั้น ชื่อ ดับลยู
ซี่ โซนศ์. เรือ รบ นั้น ส่ง ธง ไวซิ แอดมิเรล เซนต์ วิน เซนต์ กิง. ซี. บี่.
นาย รอง แอกนิเรล นั้น เปน, ๓๔ คน ด้วย กัน, หมอ ยา ๔ คน,
เอนทเนีย ใหญ่ คน หนึ่ง, เอนทเนีย รอง ๕ คน, ใน นาย ๓๔ คน
นั้น, แต่ คน หนึ่ง เปน กบิตัน ใหญ่ อยู่ คน หนึ่ง, กบิตัน รอง คน
หนึ่ง, ลูเตนัด ใหญ่ มี ๖ คน, ลูเตนัด รอง ๖ คน, ลูเตนัด สำ
รับ ธง คน หนึ่ง, เสมียน ใหญ่ คน หนึ่ง, เสมียน รอง ๔ คน,
นาย เลก ๆ เปน คน หนุ่ม ๑๐ คน, ผู้ ที่ เปน ปทาน สำรับ เทษนา
แล นำ คำ สวด คน หนึ่ง, คน เปน เจ้า กระทรวง สำรับ จ่าย เงิน
ใหญ่ คน หนึ่ง, รอง ๔ คน. นอก นั้น มี นาย ๗ คน, แต่ คน หนึ่ง
เปนนาย สำรับ ปืน คน หนึ่ง, เปน เจ้า นัก พนัก งาน ดู เครื่อง สำ
รับ เรือ คน หนึ่ง, เปน นาย ช่างไม้ คน หนึ่ง, เปน นาย ทหาญ
สำหรับ เรือ รบ คน หนึ่ง, เปน นาย รอง ทหาญ สำหรับ เรือ คน
หนึ่ง, เปน ครู สำหรับ สั่ง สอน ใน การ แล่นเรือ, สริ เข้า ด้วย
กัน เปน ๕๑ คน. นอก นั้น มี ทหาญ สำรับ เรือ รบ ๑๐๐ คน, แล
ทหาญ ปก ประมาณ ๗๘๙ คน, สริ เข้า กัน เปน ๘๓๐ คน.
๏ แล มี ปืนใหญ่ ๗๓ บอก. ใน ๗๓ นั้น มี บอก หนึ่ง เรียก
ชื่อ ว่า อามศตรอง จุ ลูก ปืน หนัก ๑๑๐ ปอน. ปืนใหญ่ เรียก ว่า
อามศตรอง อีก ๑๐ บอก, จุ ลูก ปืน หนัก ๔๐ ปอน. ปืน ๑๑
บอก เหล่า นี้ อยู่ ดาด ฟ้า ข้าง บน ที่ สุด, ยิง ออก ถูก ๕ ไมล์ ๆ คือ
๒๐๐ เส้น, ที่ ดาดฟ้า ชั้น กลาง มี ปืน ใหญ่ ๓๐ บอก, จุ ลูก ปืน
บอก ละ ๗๒ ปอน. ปืน เหล่า นั้น มี น้ำ หนัก บอก หนึ่ง, ถ้า จะ ประ
มาณ บอก ละ ๕๐ หาบ สริ ด้วย กัน ๑๕๐๐ หาบ. ที่ ดาดฟ้า ชั้น
ล่าง, มี ปืนใหญ่ ๓๒ บอก, ถ้า จะ วัด ปาก กว้าง ได้ ๘ นิ้ว. มี น้ำ
หนัก บอก ละ ๖๕ หาบ, สริ เข้า กัน เปน ๒๓๐๘ หาบ.
๏ มี เรือ บด ใหญ่ ๓ ลำ, บัน ทุก ปืน ที่ ชื่อ ว่า อามศตรอง,
จุ ลูก ปืน น้ำ หนัก ๒๕ ปอน. มี เรือ บด เล๊ก ลง มา กว่า นั้น ๒
ลำ, มี ปืน จุ ลูก น้ำ หนัก ๑๒ ปอน บ้าง, ๒๔ ปอน บ้าง.
๏ อนึ่ง เมื่อ กลาง คืน วัน ใด ๆ, ถ้า บัน ดา ลูกเรือ กำลัง
นอน อยู่ ใน เรือ, จะ ปลุก ขึ้น ให้ พร้อม กัน ทำ ศึก สงคราม ใน
๑๐ นาที ก็ ได้. อนึ่ง มี ทหาญ ถือ ปืน ที่ เรียก ว่า ไรเฟล ๕๐๐ คน,
เอา ขึ้น จาก ไป บน บก, แล ปืน ใหญ่ สอง บอก, จุ ลูก น้ำ หนัก
๒๐ ปอน. เอา ขึ้น บก โดย เรว ได้.
๏ มี เรือ กล ไฟ ลำ หนึ่ง, เปน เรือ อุปถัมภ์ เรือ ลำ ใหญ่,
แรง ๔๐๐ ม้า เครื่อง จักร นั้น มิศ มอติเล เปน ผู้ ทำ. เรือนั้น แล่น
ได้ โมง ละ ๙ นอต ๆ หนึ่ง นั้น คือ ไมล์ หนึ่ง. บันทุก ถ่าน หิน หนัก
๓๐๐ ตอน, ๆ หนึ่ง ถ้า จะ ประมาณ น้ำ หนัก ๑๖ หาบ, บันทุก
สเบียง อาหาร, ภอ ลูก เรือ ใหญ่ น้อย จะ ใช้ ได้ หก เดือน, มี
เครื่อง กลั่น น้ำ เค็ม ให้ จืด ได้ ใน ๒๔ ชั่วโมง ได้ น้ำ จืด หนัก ๓๕
ตอน. ตอน หนึ่ง เปน ๑๖ หาบ เศศ.
๏ เรือ ใหญ่ ลำ นี้ ได้ ต่อ เมื่อ กฤษ ศักราช ๑๘๕๓ ปี, แรก
ได้ ใช้ ใน การ ศึก ที่ เมือง รูเซีย นั้น. เรือ นั้น ยาว ๒๔๐ ฟุต ปาก
กว้าง ๖๓ ฟุต, กิน น้ำ ภุก ๒๗ ฟุต. เรือ นั้น แล่น ใน ๒๔ ชั่ว
โมง ได้ ๓๑๘ นอต.
๏ อนึ่ง แอดด์ มิเรล กิง, มีที่ ตั้ง เปน แม่ ทัพ สำรับ เมือง
จีน, แล เมือง ยี่ปุ่น ด้วย. แล เรือ รบ กล ไฟ ที่ อยู่ ใต้ ธง ของ
ท่าน นับ ได้ ๓๖ ลำ, เปน เรือ จักร ท้าย ทั้ง สิ้น, บันทุก ได้ ๖๐๐๐...
คน ทั้ง ปืน ใหญ่ ๓๒๖ บอก.
กองเตวน
๏ บาญชี จับ คน ทำ ผิด ที่ กัปปิตัน เอมส์, นาย กอง เตวน
ได้ บอก มา. ตั้ง แต่ ณวัน อาทิตย์ เดือน เจด ขึ้น สี่ ค่ำ, ปี ฉลู
สัปตศก. มา จน ถึง ณวัน อาทิตย์ เดือน เจ็ด แรม สาม ค่ำ, รวม
เปน สิบ สี่ วัน ด้วย กัน.
จับ ผู้ ร้าย ขโมย ผ้า สร่ง ได้ คน ๑.
จับ คน เปน ลูก หนี้ ได้ คน ๑.
จับ คน ลัก ขาย ฝิ่น ต้อง ห้าม ได้ ๖ คน
จับ คน ถือ เครื่อง สาตราวุธ ได้ ๒ คน
จับ ทาษ หนี นาย เงิน ได้ คน ๑
จับ คน ร้าย แทง ฟัน ผู้ หญิง ได้ คน ๑
จับ ผู้ ร้าย วิ่ง ราว ของ แต่ง ตัว ได้ คน ๑
จับ คน หัว ไม้ ที่ หมาย ใจ จะ ฆ่า คน นั้น ได้ คน ๑
กองสุล อเมริกา ที่ จะ มา ใหม่
๏ มี หนังสือ ฝาก ของ ผู้ มี ชื่อ มา แต่ เมือง นุ ยอก เมื่อ ณวัน
อังคาร เดือน ห้า ขึ้น เก้า ค่ำ ว่า, มิศเตอ เซ แอล ฮึด์ เปน กอง
สุน อเมริกา สำ หรับ กรุง เทพย์, ทั้ง ภรรยา แล ผู้ ช่วย ใน การ
กอง สุน คน หนึ่ง จะ ลง เรือ ที่ เมือง นุยอก, แต่ ณเดือน ห้า
ขึ้น แปด ค่ำ, ได้ โดย สาร นาย กำปั่น ชื่อ แอม เมรันธ์ มา ถึง
ฮอง กง, แล้ว จะ โดย สาร เข้า มา ใน กรุง เทพ.
๏ ราคาสินค้า ที่ กรุง เทพ ฯ
น้ำ ตาล ทราย ขาว ดี ที่ สุด, หาบ ละ ๑๓ บาท สลึง เฟือง.
น้ำ ตาล ทราย ที่ จัด ว่า ที่ ๑ นั้น หาบ ละ ๑๒ บาท ๓ สลึง.
น้ำ ตาล ทราย ที่ จัด ว่า ที่ ๒ นั้น หาบ ละ ๑๑ บาท ๓ สลึง เฟือง.
น้ำ ตาล ทราย ที่ ๓ หาบ ละ ๑๑ บาท ๒ สลึง.
น้ำตาล ทราย แดง ที่ ๑ หาบ ละ ๘ บาท ๓ สลึง.
น้ำ ตาล ทราย แดง ที่ ๒ หาบ ละ ๘ บาท สลึง.
น้ำ ตาล ทราย แดง เหล่า นี้ มี น้อย นัก.
พริก ไทย ดำ หาบ ละ ๙ บาท ๓ สลึง.
ฝาง อย่าง ที่ ๓, ๔, ดุ้น หนัก ได้ หาบ ๑ เปน หาบ ละ ๓ บาท ๒ สลึง.
ฝาง อย่าง ๔, ๕, ดุ้น หนัก หาบ ๑ เปน หาบ ละ ๓ บาท สลึง.
ฝาง อย่าง ๕, ๖, ดุ้น เปน หาบ ๑ ราคา หาบ ละ ๓ บาท เฟื้อง.
ฝาง อย่าง ๖, ๗, ดุ้น เปน หาบ ๑ ราคา หาบ ละ สอง บาท ๓ สลึง.
ฝาง อย่าง ๗, ๘, ดุ้น เปน หาบ ๑ ราคา หาบ ละ สอง บาท ๒ สลึง.
สิน ค้า เหล่า นี้ กำลัง เข้า มา มาก.
ไม้ สัก เปน กะดาน หนา ๓ กะเบียด ราคา ยก ละ ๑๐ บาท ๒ สลึง.
ไม้ ชิงชัน หนัก ๑๐๐ หาบ, ราคา ใน รว่าง ๑๕๒ กับ ๒๓๕ บาท.
หนัง ควาย หาบ ละ ๙ บาท.
เขา ควาย หาบ ละ ๑๐ บาท.
| หนัง วัว | หาบ ละ ๑๑ บาท สลึง | |
| กำยาน ที่ ๑ | หาบ ละ ๑๖๐ บาท แล ๒๑๐ บาท. | |
| กำยาน ที่ ๒ | หาบ ละ ๑๓๕ บาท แล ๑๔๕ บาท. | |
| รง | หาบ ละ ๔๗ บาท. | |
| งา เม็ด | เกวียน ละ ๑๒๓ บาท. | |
| ครั่ง ที่ ๑ | หาบ ละ ๑๓ บาท ๒ สลึง. | |
| ครั่ง ที่ ๒ | หาบ ละ ๑๑ บาท ๒ สลึง. | |
| งา ช้าง | หาบ ละ ๒๗๐ บาท แล ๓๔๐ บาท. | |
| ตาม ใหญ่ ตาม เล็ก. | ||
| กระวาน | หาบ ละ ๒๐๐ บาท. | |
| เร่ว | หาบ ละ ๒๒ บาท สลึง. | |
| กะสอบ | พัน ละ ๗๕ บาท. | |
| ไหม ลาว | หาบ ละ ๒๕๕ บาท. | |
| ไหม เมือง ญวน | หาบ ละ ๓๑๐ บาท. |
ทองใบอันเส็ง ที่ ๑ ราคา หนัก บาท ๑ เปน เงิน ๑๖ บาท เฟื้อง.
การ ที่ ฝาก ตัว ไป แลก เงิน ที่ เมือง สิงคโปร์, ถ้า แลก ได้ ร้อย
เหรียน ได้ กำไร สาม เหรียน, แล การ แลก เงิน เหรียน เม็กซิโก
ฝาก ไป เมือง สิงคโปร์, เงิน ๑๐๐ เหรียน ได้ กำไร เหรียน หนึ่ง
กับ ๒๕ เซ็นต์.
๏ ราคา สินค้า เมือง บีแนง ณวันเดือนห้า แรม ๑๒ ค่ำ ปีฉลู | ||||
สินค้า อย่างไร | เหรียน | เซนต์ | เหรียน | เซนต์ |
ขี้ผึ้ง หาบละ | ๔๐ | - | - | - |
การะบูน หีบละ | ๒๒ | - | ๒๕ | - |
น้ำมัน พร้าว หาบใหญ่ | ๑๐ | ๗๕ | - | - |
กาแฟ่ หาบละ | ๑๔ | - | - | - |
งาช้าง หาบละ | ๒๐๐ | - | ๑๔๕ | - |
กะเกาะ ปลา หาบละ | ๖๐ | - | ๖๒ | - |
กำยาน ที่ หนึ่ง หาบละ | ๕๑ | - | ๒๕ | - |
กำยาน ที่ สอง หาบละ | ๒๕ | - | ๒๐ | - |
กำยาน ที่ สาม หาบละ | ๑๓ | - | ๑๔ | - |
หนัง ควาย หาบละ | ๗ | 50 | ๗ | - |
หนังวัว หาบละ | ๑๐ | 50 | - | - |
เขา ควาย หาบละ | ๗ | 50 | - | - |
เข้า เปลือก เกวียน ละ | ๕๓ | - | - | - |
เข้า สาร ขาว ที่ ๑ เกวียน ละ | ๑๓๐ | - | - | - |
เข้า สาร ที่ ๒ เกวียน ละ | ๑๒๒ | - | - | - |
เข้า สาร ที่ ๓ เกวียน ละ | ๑๑๘ | - | - | - |
เข้า กล้อง เกวียน ละ | ๑๐๙ | - | ๑๑๐ | - |
พริกไทย ดำ หาบละ | ๕ | ๔๐ | - | - |
เกลือ บำใบ เกวียน ละ | ๑๕ | - | ๑๖ | - |
เกลือ ขาว เกวียน ละ | ๒๒ | - | ๑๖ | - |
ครั่ง ไทย บะซา ละ | ๔๐ | - | - | - |
กรั่ง มอญ บะซา ละ | ๓๘ | - | - | - |
น้ำ ตาล ทราย ที่ ๑ หาบ ละ | ๖ | ๕๐ | - | - |
น้ำ ตาล ทราย ที่ ๒ หาบละ | ๕ | ๕๐ | ๕ | ๗๕ |
น้ำ ตาล ทราย ที่ ๓ หาบละ | ๕ | - | - | - |
น้ำ ตาล ทราย แดง หาบละ | ๓ | - | ๓ | ๕๐ |
ต กั้ว หาบละ | ๒๑ | ๒๕ | ๒๑ | ๕๐ |
ฝิ่น บังกลา หีบ ละ | ๔๐๕ | - | ๔๒๐ | - |
ฝิ่น เตอกี่ หาบละ | ๔๓๕ | - | - | - |
ราคาสินค้า ที่ เมือง จีน
๏ ณวัน แรม สี่ค่ำ เดือน หก ปีฉลู สัปตศก ผิ่น ที่ เมือง ฮอง
กง หีบละ ๔๓๕ หฤา ๔๓๕ แล ๔๕๒ เหรียน.
๏ ผิ่น เต๋อ กี่, หาบละ ๔๐๐ เหรียน. ผิ่น เมือง เปอ
เซีย หีบละ ๕๐๐ เหรียน.
๏ เข้า สาน บังกะล่า ที่ ฮอง กง หาบละ ๓ เหรียน กับ เซ็น
ฤา ๓ เหรียน ๓๕ เซ็น
ซ เข้า กลอง กรุงเทพ ฯ หาบละ ๒ เหรียน กับ ๙๕ เซ็น
ฤา ๓ เหรียน
๏ เข้า อย่า กลาง หาบละ ๓ เหรียน ๑๐ เซ็น ฤา ๓ เหรียน ๓๐ เซ็น
๏ เข้า สาน ขาว หาบละ ๓ เหรียน ๓๕ เซ็น ฤา ๓ เหรียน
กับ ๕๐ เซ็น
๏ เข้า สาน ย่าง กุ้ง หาบละ ๓ เหรียน กับ ๒๕ เซ็น
๏ น้ำ ตาน ทราย ที่ ๑ หาบละ ๘ เหรียน ๓๐ เซ็น แล ๘
เหรียน ๕๐ เซ็น. ที่ ๒ หาบละ ๗ เหรียน ๙๐ เซ็น แล ๘ เหรียน
๑๐ เซ็น. ที่ ๓ หาบละ ๗ เหรียน ๕๕ เซ็น ฤา ๗ เหรียน ๑๕ เซ็น.
น้ำ ตาน ทราย แดง หาบละ ๕ เหรียน ๑๐ เซ็น แล ๕ เหรียน ๓๐ เซ็น
๏ พริก ไทย ขาว หาบละ ๑๑ เหรียน, พริก ไทย ดำ หาบละ
๖ เหรียน ๓๐ เซ็น แล ๖ เหรียน ๕๐ เซ็น
๏ หมาก แห้ง หาบละ ๒ เหรียน ๗๕ เซ็น แล ๓ เหรียน
๕๐ เซ็น
๏ ฝาง กรุงเทพ ฯ หาบละ ๒ เหรียน ๒๐ เซ็น แล ๒
เหรียน ๕๐ เซ็น
๏ ณวัน สุกร เดือน หก ขึ้น สี่ ค่ำ เรือ ชื่อ ฮัม ตอน ควต
ออก จาก กรุง เทพ ฯ ไป เมือง ได้ บัน ทุก ฝาง หนัก ๗๐๒ หาบ
น้ำ ตาน ทราย ๑๖๑ หาบ หนัง งัว หนัง ควาย ๔๖๕ หาบ เขา
ควาย ๒๖ หาบ, ตกั่ว เกรียบ หนัก ๘๒ หาบ กับ ไม้ สัก ด้วย.
๏ ณวัน ทิตย์ ขึ้น สิบ สาม ค่ำ เดือน หก, เรือ ไฟ กล ชื่อ ไว
เคา แกน นิง, ออก จาก กรุง เทพ ฯ จะ ไป เมือง ฮอง กง
ได้ บัน ทุก ฟาง ๙๐๐ หาบ น้ำ ตาน ทราย ๓๑๑๗ หาบ, พริก
ไทย ดำ ๑๔๔๘ หาบ, หนัง สัตว์ ๓ หาบ เขา ควาย ๒๐ หาบ
กระ วาน ๕๓ หาบ ตกั่ว เกรียบ ๓๖๐ หาบ, ไม้ สัก ด้วย.
๏ ณวัน สุกร ขื้น เก้า ค่ำ เดือน เจ๊ด เรือ ชื่อ วอด ตาลีส
ออก จาก กรุงเทพ ฯ จะไป เมือง ฮองกง ได้ บัน ทุก ไม้สัก ทั้ง นั้น.
๏ ตั้ง แต่ ณวัน แรม แปด ค่ำ เดือน ห้า มา จน ถึง ณวัน
สิบ สี่ ค่ำ เดือน เจ็ด ใน รว่ง นั้น มี เรือ กรุง สยาม ๑๗ ลำ ออก จาก
กรุงเทพ ฯ ไป เมือง, ฮองกง ได้ บัน ทุก ของ คิด รวม กัน ฝาง
๒๕๗๖๗ หาบ, น้ำ ตาน ทราย ๒๐๘๓๒ หาบ, พริก ไทย
๘๐๑๑ หาบ, หนัง งัว หนัง ควาย ๓๖๖ หาบ, เขา ควาย ๖๖
หาบ, กระวาน ๔๒๐ หาบ, งา เม็ด ๑๔๖๔ หาบ, ตกั่ว เกรียบ
๑๖ หาบ, ครั้ง ๑๔๐ หาบ, ทั้ง ฝ้าย แล ไม้ ชิง ชัน แล ไม้ สัก.
๏ ณวัน เสา แรม สิบ สอง ค่ำ เดือน ห้า, เรือ กล ไฟ เจ้า
พระยา ออก จาก กรุงเทพ ฯ ไป เมือง สิงค โปร, ได้ บัน ทุก น้ำ
ตาน ทราย ๑๖๕๐ หาบ, เขา ควาย ๕๔ หาบ, ครั้ง ๒๐ หาบ
ไหม ดิบ ๑๙๗ หาบ,
๏ ณวัน สุกร ขื้น สิบ เบด ค่ำ เดือน หก เรือ ชื่อ คอศซะตา
ริกา, ออก จาก กรุง เทพ ฯ ไป เมือง สุราบายา, ได้ บัน ทุก เกลือ
กับ ปลา เค็ม ทั้ง นั้น.
๏ ณวัน อาทิตย แรม สิบ สอง ค่ำ เดือน หก เรือ กล ไฟ เจ้า
พระยา, ออก จาก กรุงเทพ ฯ ไป เมือง สิงค โปร, ได้ บัน ทุก
น้ำ ตาน ทราย ๑๔๑๑ หาบ, ไหม ดิบ ๑๒ หาบ, แต่ ปลา เค็ม
นั้น มิ ได้ นับ,
๏ ณวัน อังคาร ขื้น หก ค่ำ เดือน เจ๊ด เรือ ใบ ชื่อ แฟน นี่ เกิก
เนอ ออก จาก กรุง เทพ ฯ ไป สุ ระบายา, ได้ บัน ทุก ปลา เค็ม
กับ เกลือ ทั้ง ลำ.
๏ ณวัน เสา ขื้น เก้า ค่ำ เดือน เจ๊ด เรือ ใบ ชื่อ วิด ซาก
คอบ เดิน ออก จาก กรุง เทพ ฯ ไป เมือง สุระบายา, ได้ บัน ทุก
เกลือ แล ปลา เค็ม ทั้ง ลำ,
๏ ตั้ง แต่ ณวัน จันทร ขื้น สิบ สี่ ค่ำ เดือน หก มา จน ถึง
ณวัน จันทร แรม หก ค่ำ เดือน หก ใน รว่าง นั้น มี เรือ ใบ ออก จาก
กรุง เทพ ฯ สอง ลำ ไป เมือง สิงคโปร, ได้ บัน ทุก น้ำ หนัก คิด
รวม กัน, ฝาง ๓๘๑๙ หาบ น้ำ ตาน ทราย ๕๓๘ หาบ หนัง สัตว์
๓๗ หาบ,
๏ ณวัน เสา แรม สาม ค่ำ เดือน หก เรือ เมือง อะเม ริกา ชื่อ
อิก ลิบ ออก จาก กรุง เทพ ฯ ไป เมือง ซัน ฟะรัน ศิศ โก, บัน
ทุก ไม้ สัก, กับ หนัง สัตว์ ๓๓๑ หาบ
เปรศซิเดนลึงกันเปนคริศเตี่ยร
๏ กาล ที่ ล่วง มา ประ มาณ ได้ สัก ปี มี คน ผู่ หนึ่ง ไป เฝ้า
เปรศเด็นต์ลึงกัน นั่ง สั้น ทนา กัน อยู่, จึ่ง ถาม เปรศุเดนต์ลึงกัน
ว่า, ท่าน ได้ รักษ พระ เยซู ฤา ไม่. ครั้น ท่าน ได้ ยิน ดั่ง นั้น, แล้ว
ท่าน ก็ เอา ผ้า ป้อง หน้า เข้า แล้ว, ก็ ซบ หน้า ลง มี น้ำ ตา ไหล.
จึ่ง ตอบ ว่า, เมื่อ เรา จาก บ้าน เรา, มา นั่ง อยู่ ใน ที่ นั่ง นี้ อัน
เปน ที่ ว่า ราช การ สำหรับ เมือง, เมื่อ ขณะ นั้น ข้าพเจ้า ว่า แก่
ชาวเมือง นั้น ว่า, ขอ ให้ ช่วย อ้อน วอน เพื่อ ข้าพเจ้า ด้วย. แต่
ใน เวลา นั้น ข้าพเจ้า ยัง มิได้ เปน คฤศเตียร แท้. แล เมื่อ ลูก
ชาย ของ ข้าพเจ้า ถึง แก่ กรรม นั้น, ข้าพเจ้า มี ความ ทุกท์ อัน
ยิ่ง. ใน ขณะนั้น ข้าพเจ้า ยัง มิได้ เปน คฤศเตียร แท้. แต่ เมื่อ ข้าพ
เจ้า ไป ดู ที่ ๆ ฝังศภ ใน เมือง เคดติศเบิค, ก็ พิจรณา ดู ที่ ฝัง ศภ
ทหาร ฝ่าย เมือง เรา ที่ ถูก อา วุธ ตาย ใน ที่ นั้น, เพราะ รักษ เมือง
ใน ขณะ นั้น ข้าพเจ้า ได้ ถวาย กาย แล จิตร ข้าพเจ้า, แก่ พระ เยซู
เปน แท้, แล ข้าพเจ้า ได้ รักษ ใคร่ ใน พระ เยซู จริง.
กำปั่นเข้ากรุงเทพ ฯ | |||||
เข้ามา เมื่อไร | กำปั่น ชื่อ ไร | กัปปิตัน ชื่อ ไร | กี่ตอน | เปน เรือ อะไร | มา แต่ ไหน |
ณวัน เดือน เจ็ด ขึ้น สอง ค่ำ | บันเนก | จิ่น | ๙๓ | ลักเคอ สยาม | ชิงโคอะ |
๓ ค่ำ | ตีซิง | จิ่น | ๑๖๒ | สกุนเอ สยาม | สำปหลัง |
๘ ค่ำ | เอ็นวอย | โครวิส | ๑๓๐ | บาก สยาม | สิงคโปร์ |
๑๐ ค่ำ | ไอออลดิวค์ | เครดิช์ | ๑๓๑ | บาก สยาม | สิงคโปร์ |
๑๒ ค่ำ | เจ้า พระยา | อตอน | ๓๕๓ | เรือ ไฟ สยาม | สิงคโปร์ |
๑๕ ค่ำ | เวอคัน | กับเปอมัน | ๓๓๘ | บาก แซน โนเวอ | บัตเตเวีย |
๑๕ ค่ำ | เซ็นต์ ปอล | ธมซอน | ๓๐๐ | บาก สยาม | สิงคโปร์ |
ณวัน เดือน เจ็ด แรม ค่ำ ๑ | ปรินเซส รอยัน | ซอนซ์ | ๓๑๒๖ | เรือ รบ อังกฤษ | สิงคโปร์ |
ค่ำ ๑ | คิมอิง ไต | ยอเซ็น | ๓๐๐ | บาก สยาม | สิงคโปร์ |
ค่ำ ๑ | เด็ส บโร | ซแปน ดิวมาน | ๓๑๖ | บาก ฮอลัน | บัตเตเวีย |
๓ ค่ำ | ปลักส์ | บลก | ๔๑๗ | บาก ฮอลัน | บัตเตเวีย |
๓ ค่ำ | ยังอิง | จิ่น | ๑๘๐ | บริก สยาม | สิงโครา |
กำปั่นออกจากกรุงเทพ ฯ | จะ ไป ไหน | ||||
ณวัน เดือน เจ็ด ขึ้น ห้า ค่ำ | แรบิก | คาลด | ๔๒๐ | บาก สยาม | ฮองกง |
๖ ค่ำ | ฟันนิเคิก เนอ | รดซินี่ | ๖๐๐ | บาก โอเด็นเบอก | สุรบายา |
๙ ค่ำ | วอเตอ ลิลี่ | ปอนเบรี่ | ๑๔๐ | สกุนเอ อังกฤษ | ฮองกง |
๙ ค่ำ | วิชา คอบ เด็น | บิคคอฟ | ๔๔๘ | บาก บริเมน | สุรบายา |
๙ ค่ำ | นอ ซี่มาน | ยัง | ๗๑๑ | ชิบ สยาม | ฮองกง |
๑๑ ค่ำ | ไตวัด | เครตอน | ๖๕๔ | บาก สยาม | ฮองกง |
๑๑ ค่ำ | เอมี่ ดอกลัศ | ออฟดินเชอ | ๓๓๓ | บาก สยาม | ฮองกง |
๑๑ ค่ำ | เจ้า พระยา | ออตอน | ๓๕๓ | เรือ ไฟ สยาม | สิงคโปร์ |