

| Vol. 1 เล่ม ๑ บางกอก เดือนเก้า ขึ้น สิบห้า ค่ำ จุลศักราช ๑๒๒๗ August 7th 1865 กฤศศักราช ๑๘๖๕, ใบ ที่ ๑๑ No. 11. |
๏ เรื่องราวน้อยเหล็ก ๚ะ
๏ ข้าพเจ้า หลวง พีไชยวารี, ทำ เรื่อง ราว มา กราบ เรียน เจ้า
คุณ จางวาง, แล ยื่น ท่าน ตระลาการ ศาล รับ สั่ง ผู้ ใหญ่ ผู้ น้อย,
ขอ ท่าน ได้ นำ ขื้น กราบ เรียน เจ้า คุณ ผู้ใหญ่ ให้ ทราบ, ด้วย
หลวง ภาษีวิเสศ นำ ความ ไม่ จริง ขื้น กราบ เรียน เจ้า คุณ ผู้ ใหญ่
ผู้ น้อย, ตั้ง แต่ ตัว ได้ เข้า ทำ เถ้าแก่ ตี เหล็ก, รูปพรรณ์ ส่ง หลวง
ได้ ๑๗ เดือน, ได้ เบิก เงิน แต่ สาม เดือน. ความ ข้อ นี้ หา
จริง ไม่. ข้าพเจ้า สืบ ความ ตาม ฎีกา ออก เหล็ก จำนวน ปีกุน เบญ
ศก, กับ ปี จวด ฉ ศก, สอง ปี ต่อ กัน มี ราย เดือน ชัด อยู่ ดัง นี้.
เดือน ยี่ ๓๐๐๐ หาบ, ฎีกา ข้าง ขื้น ๘ แผ่น, ข้าง แรม ๘ แผ่น.
เดือน สาม ๔๘๐๐ หาบ, ฎีกา ข้าง ขื้น ๑๒ แผ่น ข้าง แรม ๑๒ แผ่น
เดือน สี่ ๔๘๐๐ หาบ, ฎีกา ข้าง ขื้น ๑๒ แผ่น ข้าง แรม ๑๒ แผ่น
เดือน ห้า ๔๘๐๐ หาบ, ฎีกา ข้าง ขื้น ๑๒ แผ่น ข้าง แรม ๑๒ แผ่น
เดือน หก ๖๐๐๐ หาบ, ฎีกา ข้าง ขื้น ๑๕ แผ่น ข้าง แรม ๑๕ แผ่น
เดือน เจ็ด ๗๒๐๐ หาบ, ฎีกา ข้าง ขื้น ๑๘ แผ่น ข้าง แรม ๑๘ แผ่น
เดือน แปด ๗๒๐๐ หาบ, ฎีกา ข้าง ขื้น ๑๘ แผ่น ข้าง แรม ๑๘ แผ่น
๏ ใน เจ็ด เดือน ข้าง บน นี้, รวม เหล็ก ๓๗๘๐๐ หาบ. เงิน
ราย นี้ หลวง ภาษี วิเสศ ได้ รับ ไป เสร็จ แล้ว.
เดือน เก้า ๗๖๐๐ หาบ, ฎีกา ข้าง ขื้น ๑๙ แผ่น ข้าง แรม ๑๙ แผ่น
เดือน สิบ ๗๖๐๐ หาบ, ฎีกา ข้าง ขื้น ๑๙ แผ่น ข้าง แรม ๑๙ แผ่น
เดือน สิบเอ็ด ๗๖๐๐ หาบ, ฎีกา ขื้น ๑๙ แผ่น ข้าง แรม ๑๙ แผ่น
เดือน สิบสอง ๗๖๐๐ หาบ, ฎีกา ขื้น ๑๙ แผ่น ข้างแรม ๑๙ แผ่น
เดือน อ้าย ๗๖๐๐ หาบ, ฎีกา ข้าง ขื้น ๑๙ แผ่น ข้าง แรม ๑๙ แผ่น
เดือน ญี่ ๗๖๐๐ หาบ, ฎีกา ข้าง ขื้น ๑๙ แผ่น ข้าง แรม ๑๙ แผ่น
เดือน สาม ๗๖๐๐ หาบ, ฎีกา ข้าง ขื้น ๑๙ แผ่น ข้าง แรม ๑๙ แผ่น
เจ็ด เดือน ที่ สอง นี้, รวม เหล็ก ๕๓๒๐๐ หาบ จีน อู่ พี่ เมีย
ได้ เข้า มา เปน เจ้า ภาษี. เงิน ได้ เบิก ไป แล้ว บ้าง, ยัง ไม่ ได้
เบิก ไป บ้าง.
๏ ฎีกา ออก เหล็ก มี แจ้ง อยู่ ดัง นี้, เดือน สี่, เดือน ห้า, เดือน
หก, ตั้ง แต่ ข้าพเจ้า ทำ เรื่อง ราว ทูล เกล้า ฯ ถวาย ครั้ง ก่อน.
แล้ว ฎีกา สาม เดือน นั้น ยัง ไขว่ เขว ยุ่ง ยิ่ง กัน อยู่, จะ กราบ
เรียน ไป ยัง หา ได้ ไม่. แต่ ราย ที่ มี ฎีกา สิบสี่ เดือน รวม เหล็ก
เก้า หมื่น พัน หาบ, เงิน หลวง ได้ ออก ราคา หาบ ละ สี่ บาท, รวม
เงิน สี่พัน ห้าร้อย ห้า สิบ ชั่ง ได้ ส่ง เหล็ก รูปพรรณ์ ยัง พระคลัง ใน
ขวา ๑๕๖๐๐ หาบ เสศ. แต่ เงิน ค่า ถ่าน ๒๗๔๓ ชั่ง ๑๕ ตำลึง
ยัง ไม่ ได้ เบิก. ข้าพเจ้า ยื่น เรื่อง ราว ครั้ง นี้, ตาม จับ ไล่ ทัน
แล้ว เงิน ค่า ถ่าน นี้, เหน จะ ไม่ กล้า เบิก จะ ต้อง ทิ้ง เสีย, เอา
ตัว รอด ไป ครั้ง นี้. ราย เงิน เบิก จาก ท้อง พระคลัง, กับ ส่ง ตัว
เหล็ก หัก ใช้ กัน แล้ว, ยัง เกิน เงิน อยู่ ที่ หลวง ภาษี วิเสศ อีก
มาก. ราย เงิน ค่า ถ่าน ที่ ยัง ไม่ ได้ เบิก นั้น, ด้วย เงิน ค่า ถ่าน
จำนวน ปี เก่า ของ พระยา สมบัติยาธิบาล เบิก ไป ยัง หา เสร็จ ไม่.
ครั้น หลวง ภาษี วิเสศ จะ เบิก ค่า ถ่าน ปี ใหม่ เจ้า พนักงาน พระคลัง
มหา สมบัติ ยัง ไม่ ยอม เบิก ให้, จะ เบิก เงิน ค่า ถ่าน ต้อง ได้ น้ำ
หนัก เหล็ก ก่อน. ครบ ปี แล้ว จึง จะ เบิก เงิน ค่า ถ่าน ปี ใหม่ ได้.
ครั้น หลวง ภาษี วิเสศ เข้า มา รับ เปน เถ้า แก่ ตี เหล็ก ได้ ห้า เดือน
หก เดือน, ชอบ เข้า กับ พระยา สมบัติยาธิบาล, คิด หา กิน ด้วย
กัน ได้ แล้ว. จึง แต่ง จีน อยู่ เข้า มา ประมูล แย่ง ภาษี เหล็ก ก้อน.
จีน เทียน เปน ประกัน, จีน อยู่ จีน เทียน เปน พี่ น้อง เมีย หลวง
ภาษี วิเสศ. ครั้น ผู้ อื่น เปน เจ้า ภาษี เหล็ก ก้อน, จะ ต้อง จ่าย
เหล็ก ให้ แก่ หลวง ภาษี วิเสศ, ๆ กลัว ความ นั้น จะ สว่าง ไป แก่
หู คน อื่น, กลัว ความ จะ ไม่ มิด ด้วย เหล็ก มี อยู่ ตาม เจ้า ภาษี
ร้อย ชัก สาม, เจ้า ภาษี เหล็ก ก้อน ได้ เก็บ บาญชี, ปี หนึ่ง อยู่ ใน
๔๐๐๐๐ หาบ. เบิก เงิน หลวง น้ำ หนัก เหล็ก ปี หนึ่ง ถึง หก
หมื่น เจ็ด หมื่น หาบ. คิด ตก เปน ราย เดือน ๆ หนึ่ง มี เหล็ก อยู่
ใน ท้อง น้ำ แต่ เพียง ๓๐๐๐ หาบ เสศ เท่า นั้น. ราษฎร ใช้ การ
ก็ มาก จะ เหลือ ตัว เหล็ก สัก พัน สาม ร้อย, พัน สี่ ร้อย หาบ, มี
ตัว เหล็ก จำนวน เดือน เสมอ อยู่ เพียง เท่า นี้.
๏ ตั้งแต่ จีน อยู่พี่ เมีย หลวง ภาษีวิเสศ, เข้า มา เปน เจ้า ภาษี,
ก็ ได้ ออก เหล็ก เดือน ละ ๗๖๐๐ หาบ เสมอ ทุก เดือน มา, ใน ท้อง
น้ำ ไม่ มี ตัว เหล็ก จะ ซื้อ จะ ขาย. ถ้า ต้อง จ่าย เหล็ก เดือน หนึ่ง
ถึง ๗๖๐๐ หาบ ดัง นี้ จริง แล้ว. จ่าย สาม เดือน ก็ หมด เหล็ก
ใน จำนวน ปี หนึ่ง, ซึ่ง มี อยู่ ใน กรุงเทพ ฯ ต่อ ไป อีก สัก แปด
เดือน, เก้า เดือน นั้น, ไม่ มี เหล็ก จะ ใช้ จน สัก หาบ หนึ่ง. ของ
ไม่ มี หลวง ภาษี วิเสศ เอา มา พูด เปน มี. หา กิน โกง ๆ ดัง นี้,
ตรวจ ดู ฎีกา ออก เหล็ก สอง ยอด ที่ มี บาญชี เจ็ด เดือน, เหมือน
กัน. ผู้ อื่น เปน เจ้า ภาษี ออก เหล็ก เจ็ด เดือน รวม เหล็ก ๓๗๘๐๐
หาบ. แต่ จีน อยู่พี่ เมีย ให้ เข้า มา เปน เจ้า ภาษี, ออก เหล็ก
เจ็ด เดือน รวม เหล็ก ๕๓๒๐๐ หาบ. หัก ยอด เจ้า ภาษี คน เก่า
เจ็ด เดือน แล้ว. จีน อยู่ ออก เหล็ก เกิน ๑๕๔๐๐ หาบ, คิด
เปน เงิน ๗๗๐ ชั่ง. พลอย ได้ ค่า ถ่าน ๔๘๑ ชั่ง ห้า ตำลึง รวม
เปน เงิน ๑๒๕๑ ชั่ง ห้า ตำลึง. เจ็ด เดือน ได้ เปรียบ กว่า เจ้า ภา
ษี คน อื่น ออก เหล็ก, เงิน หลวง จะ ต้อง เสีย ไป เปล่า ถึง เท่า นี้.
๏ ข้อ หนึ่ง คิด ตาม จำนวน บาญชี ออก เหล็ก ๑๔ เดือน, รวม
เหล็ก ๘๑๐๐๐ หาบ. เงิน ค่า เหล็ก ก้อน ตาม พิกัด หาบ ละ สี่
บาท เงิน ๔๕๕๐ ชั่ง. เงิน ค่า ถ่าน คิด เพียง ราคา กลาง หาบ ละ
สิบ สลึง, เงิน ๒๘๔๓ ชั่ง สิบ ห้า ตำลึง รวม เงิน ๗๓๙๓ ชั่ง สิบ
ห้า ตำลึง. หัก ส่ง เหล็ก เงิน ๓๐๐๐ ชั่ง. เงิน หลวง จะ ต้อง เสีย
ไป เปล่า ๔๓๙๓ ชั่ง สิบ ห้า ตำลึง. เงิน ยอด ราย นี้ หลวง ภาษี
วิเสศ คิด ฉ้อ ไว้ ได้ ตาม พิกัด อย่าง เก่า. เดช พระบารมี พระเจ้า
อยู่ หัว เงิน ราย นี่ ยัง ตก อยู่ ใน พระคลัง มหา สมบัติ, ยัง หา ทัน
เบิก ไป เสร็จ ไม่. หลวง ภาษี วิเสศ พูด อวด อ้าง ตาม ลูก ค้า ไทย
จีน ว่า, ตัว ได้ รอง ทุน ส่ง เหล็ก หลวง. เงิน ค้าง อยู่ ใน ท้อง พระ
คลัง หลาย พัน ชั่ง ยัง เบิก ไม่ ได้. พูด อวด อย่าง นี้ มา นาน แล้ว,
คือ เงิน ที่ คิด ฉ้อ ไว้ ได้ ราย นี้. ตั้ง แต่ เกิด ความ มี ตระลาการ
ชำระ ราย ฉ้อ เหล็ก หลวง นี้ ได้ จริง แล้ว. หลวง ภาษี วิเสศ ก็ สิ้น
พูด ว่า เงิน ค้าง อยู่ ใน ท้อง พระคลัง. ข้าพเจ้า จึง ทำ คำ มา กราบ
เรียน ใต้ เท้า กรุณา เจ้า ว่า, หลวง ภาษี วิเสศ ฉ้อ พระราชทรัพย์
ของ หลวง, เปน ความ สัง สืบ ได้ ชัด ดัง นี้.
๏ ความ ที่ ว่า มา นี้ จะ จริง ฤา ไม่, ข้าพเจ้า ผู้ เปน เจ้า ของ
หนังสือ นี้ หา รู้ ไม่.
๏ ต้น เหตุ ขบถ ใน เมือง อเมริก ๚ะ
๏ การ ที่ใช้ พวก อาฟริกา คน ดำ เปน ทาษ นั้น, เปน ต้น
เปน กลาง เปน ปลายเหตุนั้น ทั้งปวง. ชาว เมือง อเมริกา ฝ่าย ทิศ
ใต้นั้น, เคย ได้ ใช้ พวก ชาต อัฟะริกา เปน ทาษ มา กว่า ๒๐๐ ปี
แล้ว, ทาษ นั้น ก็ เกิด ทวี มาก ขึ้น นัก, นับ ใน คฤช สักราช
๑๘๕๐ ปี นั้น, ได้ คน ๓ ล้าน ๒ แสน ๔ พัน ๓ ร้อย ๑๓ คน.
๏ ธรรมเนียม กฎหมาย ที่ เขา ใช้ ทาษ นั้น, ร้าย กาจ หยาบ
ช้า นัก, ไม่ ยอม ให้ ทาษ นั้น เปน อิสร แก่ ตัว ได้ บ้าง เลย. ทาษ
นั้น เปน ทรัพย์ สิทธิ์ ขาด อยู่ กับ นาย, เหมือน อย่าง สัตว์ เดียร
ฉาน มี ม้า แล โค เปน ต้น. นาย นั้น เคย พราก เอา ลูก แล เมีย
ไป ขาย เสีย ที่ อื่น ๆ เหมือน สัตว์ เดียรฉาน, เพราะ กฎหมาย
แผ่นดิน ของ เขา ยอม ให้ ทำ ธรรมเนียม เช่น นั้น. ที่ จะ ตั้ง ให้
ทาษ นั้น เปน ผัว เมีย กัน แท้ ๆ ก็ ไม่ มี, เพราะ กฎหมาย นั้น ไม่
ให้ ทาษ เปน เจ้า ของ อะไร เลย. จะ เปน เจ้า ของ เมีย ก็ ไม่ ได้,
จะ เปน เจ้า ของ ลูก ก็ ไม่ ได้, จะ เปน เจ้า ของ สิ่ง ของ ใด ๆ ที่
ติด อยู่ กับ ตัว ก็ ไม่ ได้. นาย เขา ไม่ ให้ อยู่ กิน เปน ผัว เมีย กัน
แท้ ๆ, แต่ ให้ ผู้ชาย กับ ผู้หญิง อยู่ ด้วย กัน, เพื่อ จะ ประสม
ให้ เกิด ลูก, ๆ นั้น เปน ทรัพย์ ของ นาย ๆ เอา ไว้ ใช้ เปน กำลัง ของ
นาย. ถ้า นาย เอา ไป ขาย, ก็ ได้ เงิน คนละ หลาย ร้อย เหรียน,
เปน ประโยชน์ แก่ นาย. บาง ที เมื่อ ลูก ทาษ นั้น, มี อายุ ได้ ขวบ
หนึ่ง บ้าง, สอง ขวบ บ้าง, ยัง กำลัง กิน นม อยู่, นาย เหน ว่า ลูก
ทาษ นั้น, จะ ขาย ดี ได้ กำไร งาม, ก็ พราก เอา ไป ขาย ส่ง เสีย.
ถึง พ่อ แม่ มัน จะ ร้องไห้, นาย นั้น ก็ ไม่ ใคร่ เมตา. บาง ที ถ้า
พ่อ แม่ มัน ร้อง ไห้ หนัก, นาย ก็ โกรธ แล้ว ทุบ ตี ให้ นิ่ง เสีย.
๏ อนึ่ง ลูก ทาษ นั้น ที่ เปน หญิง, นาย นั้น อยาก จะ นอน ด้วย,
หญิง นั้น จะ ขัด ขวาง ก็ ไม่ ได้, พ่อ แม่ จะ ขัด ขวาง ก็ ไม่ ได้,
เพราะ กฎหมาย แผ่นดิน ยอม ให้ นาย เปน เจ้า ของ แท้ ๆ. เมือ
หญิง ทาษ นั้น เกิด ลูก กับ นาย, กฎหมาย ว่า ลูก นั้น เปน ทรัพย์
ของ บิดา. ถ้า บิดา นั้น การ ของ ตัว หัก ล้ม, กฎหมาย ก็ ให้
ขาย ลูก นั้น ขาด เปน สิทธิ์ แก่ ผู้ ซื้อ. บาง ที ลูก นั้น เปน คน ขาว
เหมือน พ่อ, ถึง กระนั้น กฎหมาย ก็ นับ เข้า ใน พวก ทาษ.
๏ อนึ่ง กฎหมาย ของ เขา ห้าม มิ ให้ พวก ทาษ เรียน หนังสือ
เพราะ นาย กลัว ว่า, ถ้า ทาษ เรียน หนังสือ อ่าน ได้, จะ มี ความ
รู้ มาก, มัน จะ ถือ ตัว, จะ ว่า กล่าว มัน ก็ ยาก, มัน จะ ปราถนา
เปน อิสร แก่ ตัว, แล กลัว ว่า พวก ทาษ มัน จะ องอาจ ทำ อัน
ตราย แก่ นาย, เพื่อ จะ ให้ พ้น ทาษ.
๏ อนึ่ง คน ที่ เปน นาย นั้น, ก็ มัก ถือ ตัว ว่า, ไม่ ควร ที่
ตัว จะ ลง มือ ทำ การ เอง, เปน ที่ จะ ให้ ยศถาศักดิ์ ของ ตัว
เสื่อม ไป, ถือ ว่า การ ทำ มา หา กิน ทั้งปวง นั้น, เปน การ สำรับ
ทาษ โดย ธรรมดา, คน ที่ เปน เจ้า ของ ทาษ ที่ เมือง อเมริกา ฝ่าย
ใต้ นั้น, เมื่อ ก่อน เกิด การ ขบถ เปน ศึก ขึ้น นั้น, นับ คน ได้
ประมาณ ๓ แสน คน. คน เหล่า นั้น มั่ง มี เงิน ทอง มาก, ถือ
ตัว ว่า เปน เหมือน เจ้า แผ่นดิน ก็ ว่า ได้. ผู้ อื่น ที่ ไม่ มี ทาษ ใช้
สอย นั้น, เขา ถือ ว่า เปน คน ต่ำ ศักดิ์, แล นาย ทาษ นั้น มี อำ
นาถ ที่ จะ บีด ช่อง เสีย, มิ ให้ คน ที่ ไม่ มี ทาษ นั้น เปน ขุนนาง
ได้. คน ที่ ไม่ มี ทาษ นั้น จึ่ง อยู่ ไม่ เปน สุข, ดู คล้าย ๆ กับ พวก
ทาษ, ฝ่าย ผู้ ที่ ใช้ ทาษ นั้น มัก ดู หมิ่น คน ไม่ มี ทาษ ว่า, เปน
คน หินชาต จึ่ง ต้อง จำ เปน หา กิน ด้วย มือ ของ ตัว เอง.
๏ อนึ่ง ชาว อเมริก ฝ่าย เหนือ นั้น, ก็ มิ ได้ ใช้ ทาษ เลย,
เพราะ เหน ว่า เปน ขาด จาก เมตา, เปน การ ร้าย กาจ หยาบ ช้า
นัก, พิเคราะห์ ดู เหน ว่า พวก ชาติ อฟริกา นั้น, ก็ เปน มนุษ ด้วย
กัน, บิดา มารดา ของ เขา ใน เดิม นั้น, ก็ เปน บิดา มารดา ชาว
ชาติ คน ขาว เหมือน กัน. แล เหน ว่า พระ เปน เจ้า เปน พระ บิดา
แก่ มนุษ ทั้งปวง, มี พระ ไทย เมตา บุตร ที่ เปน มนุษ ทั้งปวง, มิ
ได้ ลำเอียง แก่ ผู้ ใด, มิ ได้ เหน แก่ หน้า บุคล ว่า, จะ เปน คน
ขาว ฤา ดำ, ฤา คน เนื้อ สอง ศรี, จึ่ง ได้ ให้ พระเยซู พระบุตร
มา รับ แทน โทษ คน ทุก ชาติ ทุก อย่าง ดัง นี้.
๏ เพราะ เหตุ ที่ ว่า มา นี้, ชาว เมือง อเมริกา ที่ ฝ่าย เหนือ
นั้น, จึ่ง ไม่ เหน ด้วย ใน การ ที่ พวก ใต้ ใช้ ทาษ นั้น. แต่ แรก
เมื่อ ตั้ง เปน เมือง ยูไนเตดศเตศ นั้น, ชาว เมือง ฝ่าย เหนือ ก็
เกลียด ชัง การ ที่ ใช้ ทาษ โดย มาก. ถ้า จะ ประมาณ ดู ผู้ ที่
เกลียด ไม่ ใช้ ทาษ นั้น สัก สาม ส่วน, ที่ ชอบ ใจ ใช้ ทาษ นั้น สัก
สอง ส่วน. เหตุ ฉะนี้ หัว เมือง ฝ่าย เหนือ นั้น, จึ่ง ทำ กฎหมาย
บัญญัติ ห้าม ไม่ ให้ ใช้ ทาษ. จึ่ง เรียก ว่า เปน เมือง ฟรี, แปล
ว่า เปน เมือง อิสร แก่ ตัว, คือ ไม่ ได้ ใช้ ทาษ. ถ้า จะ แบ่ง ชาว
เมือง อเมริกา ทั้ง ฝ่าย เหนือ ฝ่าย ใต้ ออก เปน สอง ส่วน, ใน ๓๐
ปี ที่ ล่วง มา แล้ว นั้น, ที่ เขา ชอบ ใจ ใช้ ทาษ นั้น, ก็ มี มาก กว่า
ที่ ไม่ ชอบ ใจ ใช้ ทาษ นั้น หน่อย หนึ่ง. ชน ทั้ง สอง ฝ่าย นั้น จึ่ง พูด จา
คัด ค้าน แก่ง แย่ง กัน มา หลาย บี๊ แล้ว. เมื่อ ถึง การ จะ เลือก
เปรศเด็นต์นั้น, เขา จึ่ง แก่งแย่ง กัน หนัก, พวก ที่ ฝ่าย เหนือ นั้น
อยาก จะ ได้ มี เปรศเด็นต์ ที่ จะ ไม่ ยอม ให้ เกิด หัว เมือง อึ่น ๆ ที่
จะ ให้ มี กฎหมาย ใช้ ทาษ ต่อ ไป. ฝ่าย พวก ฝ่าย ใต้ อยาก จะ ได้
เปรศเด็นต์ ที่ ชะ ชอบ ให้ บังเกิด หัว เมือง ที่ ใช้ ทาษ ต่อ ไป.
๏ ใน คฤศ ศักราช ๑๘๕๕ บี๊ นั้น, เปน บี๊ ที่ ได้ เลือก เปรศ
เด็นต์ ใหม่, ชาว เมือง ทั้งปวง จึ่ง ยก คน สอง คน ตั้ง ขึ้น ไว้, จะ
เลือก เอา เปน เปรศเด็นต์ คน หนึ่ง. ๑ ชื่อ ฟรีมอนต์, คน หนึ่ง
ชื่อ บิวแคนนอนต์. คน ที่ ชอบ ฟรมอนต์ นั้น, ก็ ไม่ ยอม ให้ ตั้ง
เมือง อึ่น ที่ ใช้ ทาษ ต่อ ไป เลย. แต่ เมือง ที่ ได้ มี กฎหมาย ให้
ใช้ ทาษ แล้ว, ก็ ให้ มี คง อยู่ แต่ เท่า นั้น, อย่า ให้ มี ขึ้น ใหม่
อีก เลย. แต่ พวก ที่ ชอบ ด้วย บิวแคนนอนต์ นั้น เปน สอง พวก,
เนป คน ตั้ง อยู่ กลาง ๆ บ้าง, เปน คน ที่ ชอบ ใช้ ทาษ บ้าง.
๏ พวก ฝ่าย ใต้ ที่ ชอบ ใช้ ทาษ นั้น เหน ว่า, ถ้า ได้ ฟรีมอนต์
เปน เปรศเด็นต์ แล้ว,การ ที่ จะ ใช้ ทาษ ก็ จะ เสีย ไป หนัก,แล้ว จะ
ไม่ มี เมือง ใหม่ ที่ ได้ ใช้ ทาษ ต่อ ไป อีก. ถ้า ได้ บิวแคนนอนต์ เปน
เปรศ เด็นต์ แล้ว, ความ ปราฐนา อัน ใหญ่ ของ เรา นั้น, ก็ จะ ไม่
สู้ เปน ไร นัก. ครั้น เมื่อ เลือก เปรศเด็นต์ คราว นั้น, จึ่ง เกิด ความ
แก่ง แย่ง กัน นัก, แต่ มิศเตอ บิวแคนนอนต์ นั้น, ได้ ฉลาก ชื่อ มาก
กว่า มิศเตอ ฟรีมอนต์ หน่อย หนึ่ง, จึ่ง ได้ เปน ที่ เปรศเด็นต์ อยู่ ๔
ปี. คราว นั้น พวก ฝ่าย ใต้ เหน ว่า, พวก ที่ ไม่ ชอบ ใช้ ทาษ นั้น,
บังเกิด ทวี มาก ขึ้น นัก, ครั้น เมื่อ จะ เลือก เปรศเด็นต์ คราว น่า
นั้น, เหน จะ ต้อง ยอม แพ้ พวก ฝ่าย เหนือ เปน แท้. จึ่ง คิด แต่
ใน ใจ ว่า, ควร เรา จะ ตั้ง แขง เมือง ขึ้น, เพราะ เรา จะ อยู่ ด้วย
กัน กับ พวก คน ที่ ไม่ ชอบ ใช้ ทาษ นั้น ไม่ ได้. แล ใน รหว่าง ๔ บี๊
ที่ มิศเตอ บิวแคนนอนต์ เปน เปรศเด็นต์ นั้น, เขา ทำ อุบาย ต่าง ๆ
เพื่อ จะ ได้ เรือ รบ แล เครื่อง สรรพ ยุทธ์ ทั้ง ปวง ไว้ ใน เมือง ฝ่าย
ใต้, จึ่ง ได้ สำเร็จ สม ดัง ความ ปราฐนา โดย มาก.
๏ ครั้น ลุ ถึง คฤศ ศักราช ๑๘๕๙ เปน บี๊ ที่ จะ เลือก เปรศ
เด็นต์ ใหม่ อีก ครั้ง หนึ่ง. พวก ฝ่าย เหนือ นั้น ก็ ยก ตั้ง คน หนึ่ง
ขึ้น, ชื่อ ว่า เอประฮัม ลิน กัน. พวก ฝ่าย ใต้ นั้น ได้ ยก. เซน นิรัล
แมก แคล ลัน ขึ้น. ชน ทั้ง สอง ฝ่าย นั้น รู้ ว่า, มิศเตอ ลินกัน
นั้น, เปน คน ไม่ ชอบ ใจ ให้ บัง เกิด หัว เมือง ที่ จะ มี กฎหมาย ให้
ใช้ ทาษ ต่อ ไป อีก เลย. แล คน ทั้ง ปวง นั้น รู้ ว่า, มิศเตอ แมก
แคลลัน นั้น, เปน คนใจ กลาง กลาง, พวก ฝ่าย ใต้ จึ่ง ชอบใจ
มิศเตอ แมก แคลลัน นั้น มาก. แต่ พวก ฝ่าย เหนือ นั้น ก็ แคลง
ใจ อยู่ ไม่ สู้ ชอบ. ครั้น เมื่อ ถึง เดือน โนเวมเ๊อ, คฤษ ศักราช
๑๘๖๙ ปี, เปน เวลา ที่ จะเลือก แปรศซิเต็นต์, ชน ทั้งสอง ฝ่าย นั้น
ก็ แก่ง แย้ง กัน หนัก. แต่ พวก ฝ่าย เหนือ นั้น ได้ ไชย ชำนะ.
๏ จึ่ง ได้ มิศเตอ ลินกัน เลือก ไว้ จะ เปน แปรศซิเต็นต์. พวก
ฝ่าย ทิศ ใต้ นั้น, จึ่ง เสีย ใจ นัก. ฅรั้น อยู่ ได้ สัก เดือน หนึ่ง
ขุน นาง ทั้งปวง ที่ เมือง เซาศ กา โร ลาย นา ก็ เข้า ประชุม กัน, ตั้ง
ปฏิญาณ กัน ว่า, เรา จะยก เมือง เรา ออก จาก เมือง ยูไนติศเตศ
แล้ว, ไม่ เข้า ด้วย กัน ต่อ ไป อีก เลย. ครั้น อยู่ มา ได้ ๑๙ วัน
หัว เมือง ที่ เรียก ว่า, มิศ ซิซิบปี ก็ แตก ออก ด้วย. ถัด มา อีก
สอง วัน หัว เมือง ชื่อโฟลร์ดา, แล เมือง อาลบามา ทั้ง สอง หัว
เมือง นี้ ก็ ออก ด้วย. ครั้น มา อีก ๘ วัน เมือง ซอเชีย ก็ ออก ด้วย.
ถัด มา ได้ ๖ วัน เมือง ลุอี ซิอานา ก็ ออก ตาม. ถัด มา อีก ได้ ๕๓
วัน เมือง อา กัน ซัด นั้น ก็ ออก ด้วย. ครั้น อยู่ มา อีก สอง เดือน,
เมือง เวอ ยิ่น เนีย ก็ ออก แล เมือง นอด แก โร ลาย นา ก็ ออก. อยู่ มา
ประมาณ ได้ ๑๕ วัน เมือง เติ้น นิ ซี้ ก็ ออก. แล เมือง เต๊ก ซัศ, อีก
เมือง หนึ่ง ก็ ออก, รวม เปน ๑๑ หัว เมือง ด้วย กัน เปน ขบถ.
๏ การ ที่ เปน ขบถ เช่น นั้น, ก็ ผิด ด้วย กฎหมาย ที่ เรียก
ว่า กอน ซติ ติว ชัน นัก. ชาว เมือง อเมริกาทั้ง ปวง เขา ได้ เลือก
เอา มิศเตอ ลินกัน, ให้ เปน แปรศซิเต็นต์ ต่อ ไป ๔ ปี, ตาม
อย่าง กฎหมาย กอนซติติวชัน ที่ กล่าว ไว้ ว่า, ถ้า ผู้ ใด ได้ ชื่อ ที่
ฉลาก นั้น มาก, ก็ ให้ หัว เมือง ทั้งปวง ยอม ตั้ง ท่าน ผู้ นั้น ไว้ เปน
ที่ แปรศซิเต็นต์. ก็ ควร ที่ หัว เมือง ฝ่าย ใต้ นั้น จะ ยอม ฅาม
เหมือน อย่าง ที่ หัว เมือง ฝ่าย เหนือ ได้ ยอม ตาม ฝ่าย ใต้ หลาย
ครั้ง หลาย หน แล้ว, จึ่ง จะ ถูก ต้อง กับ คอนซติติวชัน, ซึ่ง หัว
เมือง ทุก เมือง ได้ ยอม ให้ เปน ใหญ่ ยิ่ง นั้น.
๏ แล เวลา ที่ ชาว เมือง เขา เลือก แปรศซิเต็นต์ ลินกัน
ครั้ง ก่อน นั้น, เปน ฟี วอก เดือน ๑๒ จุล ศักราช ๑๒๒๒ ปี. ตั้ง
มา แต่ นั้น สัก ๔ เดือน จึ่ง จะ ถึง ที่ เวลา แปรศซิเต็นต์ ใหม่ ขึ้น ว่า
การ แผ่น ดิน. แปรศซิเต็นต์ คน เก่า ที่ ชื่อ ว่า บิว แกน นอน นั้น ก็
ยัง ว่า การ แผ่น ดิน อยู่, เมื่อ เห็น เกิด จลาจล ขึ้น เช่น นั้น, ก็
ไม่ ใคร่ จะ ห้าม ปราม, ดู เหมือน จะ บังเกิด เปน สอง ใจ ไป. พวก
ฝ่าย ขบถ จึ่ง เกิด กำลัง ขึ้น เพราะ เจ้า เมือง ฝ่าย เก่า นั้น นิ่ง เฉย ๆ
อยู่, เมื่อ ถึง วัน เดือน สี่ แรม แปด ค่ำ ปี วอก จล ศักราช ๑๒๒๒ ปี
นั้น, มิศเทอ ลินกัน ขึน ว่า การ แผ่น ดิน, แล สาบาล สัญญา
ว่า จะ รักษา กฎหมาย กอนชติติวชัน ไว้ ตาม ยุตติธรรม. ครั้น ถึง
เดือน หก ขึน สาม ค่ำ ปี ระกา, ก็ พวก ทหาร ฝ่าย ขบถ ยิง เอา ป้อม
ที่ เรียก ว่า ซัมปะเตอ ที่ ปาก น้ำ ชาลิชตอน, แขวง เมือง เซาะซะ
แก โรลายนา. นี่ แล เปน ต้น เดิม แห่ง พวก ขบถ ที่ เปน ฆ่า ศึก.
๏ การ ที่ จะ ขุด คลอง ใหม่ ๚ะ
๏ ข้าพเจ้า ผู้ เจ้า ของ หนังสือ นี้ มี ความ ยินดี, เพราะ พระ
บาท สมเด็จ พระจอมเกล้า เจ้าอยู่หัว, ได้ โปรด ให้ พระภาษี สมบัติ
บริบูรณ์. ขุด คลอง ตั้ง แต่ บ้าน ดอนกะดี แขวง เมือง ท่าจีน, มา
ออก คลอง บาง กอก ใหญ่, ริม วัด ปากน้ำ แขวง กรุงเทพ ฯ นั้น.
เพราะ ข้าพเจ้า พิเคราะห์ ดู เหน ว่า, จะ เปน ประโยชน์ แก่ กรุง
เทพ ฯ แล บ้าน เมือง สยาม มาก. ข้อ ที่ เคาวเมนต์ กรุง สยาม
โปรด ให้ ไพร่ พล เมือง ทำ การ ใหญ่ ด้วย เงิน ของ เขา เอง, ไม่ ใช่
เงิน ใน หลวง เช่น นั้น, ก็ เปน อย่าง ธรรมเนียม ใน ประเทศ ยูรป
แล ประเทศ อเมริกํา โดย มาก. นั่น และ เปน สำคัญ เปน พยาน
ว่า ใน สยาม ประเทศ จะ มี ธรรมเนียม ดี ขึน ต่าง ๆ.
๏ แต่ ข้าพเจ้า มี ความ เศร้า หมอง ใจ อยู่ อย่าง หนึ่ง, เพราะ
กลัว ว่า จะ ตั้ง โรง หวย ที่ แขวง เมือง นครไชยสิศ์, แล เมือง ท่า
จีน นั้น, เพื่อ ประสงค์ จะ ได้ เก็บ เงิน ใช้ ใน การ ขุด คลอง. ความ
ที่ ข้าพเจ้า องอาจ มา ท้วง ติง ดัง นี้ นั้น, ขอ ประทาน โทษ โปรด อไภย
เสีย เถิด. ด้วย ข้าพเจ้า ถึง มิ ได้ เปน คน ชาว เมือง ไทย แท้,
ก็ แทบ จะ เปน ไทย อยู่ แล้ว, เพราะ ได้ เข้า มา พึ่ง พระ บรมโพท
ธิ สมภาร อยู่ ได้ ประมาณ ๓๐ ปี เศษ มา แล้ว. มี ใจ รัก ใคร่ ใน
สยาม ประเทศ นี้ มาก อยู่, ปราฐนา จะ ให้ บังเกิด ความ ดี ใน เมือง
ไทย ทุก อย่าง. ข้าพเจ้า พิเคราะห์ ดู เหน ว่า, การ เล่น หวย นั้น
เปน การ ชั่ว ร้าย กาจ นัก, ดุจ ปล่อย พวก ผี ปีสาจ ทั้งหลาย ให้
มา พ่อ ลวง ฝูง ราษฎร ทั้ง หลาย, ให้ คิด จลาจล วุ่น วาย ไป ต่าง ๆ
ให้ ใจ หลง เชือ หมอ เชือ เถน, ให้ คิด แต่ จะ เล่น แก้ ตัว ให้
รอด ขึ้น, เพราะ เงิน ที่ เสีย ไป แล้ว นั้น, กว่า ทรัพย์ สิน เงิน ทอง
ของ เขา จะ ตก เข้า ไป เปน ทรัพย์ ของ เจ้า ภาษี หมด. แล้ว จะ ต้อง
ขาย บุตร ภรรยา, แล เรือก สวน ไร่นา, จน กระทั่ง ถึง ตัว ก็ จะ
ต้อง เปน ข้า เขา ด้วย. บาง ที คิด แก้ ตัว ไม่ ได้ แล้ว, สิ้น ความ
คิด ก็ ผูก คอ ตาย เสีย บ้าง, กิน ยา ตาย เสีย บ้าง, เปน ไป ทั้ง
นี้ ก็ เพราะ ราษฎร นั้น, เปน คน โง่ หลง โดย มาก, คน ที่ มี ปัญญา
นั้น น้อย นัก. เพราะ เหตุ เช่น นี้ ควร จะ มี ใจ กรุณา สงเคราะห์
แก่ ราษฎร ที่ เปน คน โง่ ปัญา อ่อน นั้น. บาง ที เล่น เสีย ไป หมด
แล้ว ก็ รำคาน ใจ, จึ่ง ไป เสพ สุรา บ้าง, สูบ ฝิ่น บ้าง, ครั้น เมา
เซอะ เข้า แล้ว ก็ ค่อย หาย รำคาน ใจ ได้ บ้าง, แล การ ที่ เขา ควร
จะ ทำ ไร่ ไถ นา ค้า ขาย ประกอบ การ เลี้ยง ชีวิตร์ โดย ชอบ นั้น,
ก็ ทิ้ง เสีย หมด. กำลัง สำหรับ เมือง จึ่ง อ่อน ไป, เพราะ คน ที่ เสีย
ไป นั้น, เปน แขน แล ขา ของ เมือง. แต่ ก่อน ข้าพเจ้า จึ่ง ได้
เปรียบ ความ ว่า, เหมือน ตัด แขน ข้าง ซ้าย, เพื่อ จะ บำรุง ให้
โลหิต ไหล ไป ข้าง ขวา โดย มาก เช่น นั้น. ส่วน เจ้า ภาษี จะ ได้
เก็บ เงิน ภอ ใช้ ใน การ ขุด คลอง นั้น เร็ว ก็ จริง อยู่, แต่ ที่ เคา
เมนต์ จะ ยอม ให้ ทำ นั้น, ข้าพเจ้า เห็น ว่า จะ เปน เหมือน มี ปัญญา
สัก เฟื้อง หนึ่ง, แล ไม่ มี ปัญา นั้น สัก ชั่ง หนึ่ง.
๏ ฝ่าย เมือง ทั้งหลาย ใน ประเทศ ยุรบ, แล ประเทศ อเม
ริกา, ก็ ได้ ลอง ดู การ ตั้ง หวย แล้ว, เพื่อ จะ ได้ เงิน เข้า ใน หลวง,
ครั้น ลอง ดู หน่อย หนึ่ง, ก็ เห็น ว่า บังเกิด ความ ชั่ว มาก มาย
ต่าง ๆ, ไม่ เปน ประโยชน์ แก่ เมือง เลย เปน อันตราย ต่าง ๆ
นา ๆ. จึ่ง กลับ มี กฎหมาย ห้าม แขง แรง ไม่ ให้ ตั้ง หวย เลย.
๏ บ้าง คน จะ แก้ ตัว ว่า, ถ้า แม้น เรา ไม่ ได้ ตั้ง ออก หวย
ที่ เมือง นคร ไชย สีห์, แล เมือง ถ้า จีน, เพื่อ จะ ได้ เงิน ขุด คลอง
นั้น, คน ทั้งปวง ก็ คง จะ เล่น กัน เอง ตาม ธรรมดา. เงิน ที่ ควร
จะ ตก เข้า เปน หลวง นั้น, เรา จะ เก็บ ไว้ ใช้ ใน การ บ้าน เมือง.
ความ ที่ แก้ ตัว เช่น นั้น, ก็ เหมือน อย่าง คน ที่ จะ แก้ ตัว ว่า, ถ้า
เรา ไม่ ได้ ทำ ความ ชั่ว, คน อื่น ๆ ก็ จะ กระทำ ความ ชั่ว เอง ตาม
ธรรมดา, ถึง เรา จะ ทำ บ้าง ก็ จะ เปน ไร มี. อนึ่ง เหมือน อย่าง
คน จะ ปล่อย หมา บ้า หลาย ตัว ไว้ ใน เมือง, ถึง เรา ไม่ ปล่อย,
คน อื่น ๆ ก็ คง จะ ปล่อย, ถึง เรา จะ ปล่อย บ้าง ก็ จะ เปน ไร มี.
อนึ่ง เหมือน อย่าง เมือง อเมริกา ฝ่าย เหนือ, เมื่อ กำลัง ปราบ ฆ่า
ศึก ขบถ ใหญ่ ฝ่าย ใต้ นั้น, บาง คน ก็ มี ใจ โลภ ไม่ สู้ รักษ เมือง,
ก็ เอา สะเบียง อาหาร แล เครื่อง อาวุธ, ไป ขาย แก่ ขบถ ฝ่าย
ใต้. เขา หมาย ว่า จะ แก้ ตัว ว่า, ถึง เรา ไม่ เอา ไป ขาย, คน อื่น
ก็ คง จะ เอา ไป ขาย, ถึง เรา จะ ขาย บ้าง ก็ จะ เปน ไร ไป. จะ
แก้ อย่าง นั้น ได้ ฤา.
๏ ข้าพเจ้า พิเคราะห์ ดู เหน ว่า, การ ที่ เก็บ เอา เงิน ตาม
พิกัด, ตั้ง แต่ เรือ เดิน ตาม ลำ คลอง ได้ ๑๐ ปี, กับ ที่ ไร่ นา
ที่ สวน ยื่น ขวาง ลำ คลอง, ขึ้น ไป ข้าง ละ ๑๕ เส้น นั้น, ก็ เหน
ภอ ควร ดี อยู่ เปน ตาม อย่าง ตาม ธรรมเนียม, ใน ประเทศ ยูรบ,
แล ประเทศ เมื้อง อเมริกา โดย มาก นัก. ขอ ให้ เก็บ เงิน สำรับ
ทำ คลอง นั้น ตาม อย่าง ดี นั้น เทอญ
๏ ข่าว น้ำ ฝน ที่ เมื้อง เพชร์ บุรี ๚ะ
๏ ใน ปี ฉลู สัปตศก นี้, เมื้อง เพชร์ บุรี นั้น, ฝน บริบูรณ์ ดี
น้ำ มาก ภอ สมควร, ราษฎร ได้ ทำ นา มาก ขึน กว่า ปี ที่ ล่วง ไป
แล้ว. อนึ่ง คน ที่ รับ ราชการ ใน เมือง นั้น, ถ้า เปน ชาว นา เมื่อ
ถึง น่า เทสการ ทำ นา, นาย ก็ โปรด ปล่อย ไป ให้ ทำ นา โดย
สดวก. แล คน ที่ มิ เคย ทำ นา มา แต่ ก่อน นั้น, ก็ ชักชวน
กัน ทำ เปน อัน มาก. จน ที่ นา ใน แขวง เมื้อง เพชร์ บุรี มิ ใคร่
จะ มี ที่ ว่าง เปล่า. อนึ่ง เมื่อ เดือน แปด ข้าง แรม นั้น, ฝน ตก
อยู่ เนื่อง ๆ, น้ำ ใน แม่ น้ำ นั้น ก็ มาก. เข้า ใน ทุ่ง นา ก็ งาม
เปน ปรกติ ดี, แล นา ที่ ราษฎร ทำ แล้ว ประมาณ สัก สาม ส่วน.
ที่ ยัง มิ ได้ ดำ นั้น สัก สอง ส่วน.
๏ อนึ่ง คน ที่ อยู่ ข้าง เหนือ น้ำ เมื้อง นั้น, ใน ปี ฉลู นี้ ได้ ทำ
ไร่ ผัก ต่าง ๆ. แล เข้า โภด หลาย แห่ง หลาย ตำบล, มาก ขึน
กว่า แต่ ก่อน ๆ นั้น. แต่ เดี๋ยว นี้ ชาว เพชร์ บุรี นั้น ภา กัน นิ
ยม ยินดี เล่น หวย มาก นัก, จน ละ ทิ้ง การ งาน เสีย. เที่ยว สืบ
เสาะ หา ผู้ วิเสศ ใน ตำบล ๆ. บาง คน ก็ เที่ยว แต้ม ตาม ต้น
ไม้ แล ใน ที่ ป่า ช้า, ทำ ตาม ลัทธิ ต่าง ๆ, หลาย อย่าง หลาย
ประการ นัก. แต่ ได้ ยิน พูด ถึง หวย นั้น แทบ ทุก บ้าน ทุก ตำบล
ใน ถนน ที่ เคย ไป มา นั้น.
๏ ราคา สินค้า ที่ เมื้อง จีน ๚ะ
๏ ได้ คัด ออก จาก หนังสือ จดหมาย เหตุ, ที่ เรียกว่า ไชนา
โอเวอแลนด์แตรด รีโปต.
๏ เมื้อ ณวัน พฤหัสบดี เดือน แปด ขึ้น หก ค่ำ ปี ฉลู สัปตศก,
ที่ เมื้อง ฮองกง ซื้อ ขาย กัน. น้ำ ตาล ทราย ขาว ที่ ๑ หาบละ ๘
เหรียน กับ ๕๐ เซ็นต์, แล ๘ เหรียน ๗๐ เซ็นต์. ที่ ๒ หาบละ
๘ เหรียน กับ ๑๐ เซ็นต์, แล ๘ เหรียน ๓๐ เซ็นต์.
๏ นํ้าตาล ทรายแดง ที่ เมือง กวางตุ้ง, หาบละ ๕ เหรียน
กับ ๓๐ เช็นต์, แล ๕ เหรียน ๕๐ เช็นต์.
๏ นํ้าตาล ทราย ขาว ที่ ๑ ที่ เมือง นิงโป หาบละ ๘ เหรียน.
แล ๙ เหรียน ๒๐ เช็นต์.
๏ ฝ้าย บด ที่ เมือง เซี่ยงไฮ, ขาย กัน เบลล์ ๒๔ เหรียน กับ
๕๐ เช็นต์. ที่ เมือง นิงโป ขาย กัน เบลล์ ๒๕ เหรียน กับ ๒๕
เช็นต์. ที่ เมือง ญี่ปุ่น ขาย กัน เบลล์ ๒๖ เหรียน กับ ๒๕ เช็นต์,
แล ๒๖ เหรียน ๕๐ เช็นต์.
๏ ฝิ่น ดิบ ที่ เมือง ฮองกง เขา ได้ ซื้อ ขึ้น ไว้ ใน ๑๕ วัน, ที่
พ้น มา นั้น. มี ฝิ่น อย่าง ปัดนา ๙๑๙ หีบ. แล อย่าง ที่ เรียก ว่า
บินาเรศ นั้น ๓๗๕ หีบ. อย่าง เรียก ว่า มัลวา นั้น ๙๘๙ หีบ.
๏ แต่ ที่ เขา ได้ จำหน่าย ออก ไป ใน ๑๕ วัน นั้น, อย่าง ปัดนา
๑๓๐๐ หีบ. อย่าง บินาเรศ ๑๑๐๐ หีบ. อย่าง มัลวา ๙๕๐ หีบ
ยัง เหลือ อยู่ อย่าง ปัดนา ๑๐๗๐ หีบ. อย่าง บินาเรศ นั้น ๔๘๐ หีบ.
อย่าง มัลวา นั้น ๓๗๒ หีบ.
๏ บอก ราคา ที่ ได้ จ่าย ไป นั้น. ๚ะ
๏ อย่าง ปัดนา นั้น, ขาย หีบละ ๔๑๒ เหรียน ครึ่ง. อย่าง บินา
เรศ นั้น ขาย หีบละ ๔๑๗ เหรียน ครึ่ง. อย่าง มัลวา ขาย หาบละ ๖๕๖
เหรียน, แล ๖๐๐ เหรียน. อย่าง ที่ เรียก ว่า เตอกี นั้น หีบ ละ
๓๗๕ เหรียน. อย่าง ที่ เรียก ว่า เปอเซีย นั้น หีบละ ๔๕๐ เหรียน.
๏ ดิน ปสิว ที่ เมือง ฮองกง ขาย ใน ๑๕ วัน ได้ ๑๕๐๐ กระ
สอบ ๆ ละ ๘ เหรียน กับ ๒๐ เช็นต์, แล ๘ เหรียน ๔๐ เช็นต์.
๏ เข้า ขาว ที่ เมือง ฮองกง มี มาก, แต่ ราคา ตก, ด้วย เข้า
ใหม่ คง จะ มี ใน สาม ขวบ อาทิตย์ ข้าง น่า, แล เหน ว่า ราคา จะ
กด ลง อีก ใน สอง เดือน สาม เดือน ข้าง น่า, ราคา คง จะ ไม่ ขึ้น.
เข้า ขาย ที่ เมือง ฮองกง ใน ๑๕ วัน ๑๘๓๐๐๐ หาบ. เข้า เมือง
บังกล่า หาบละ ๒ เหรียน กับ ๒๕ เช็นต์, แล ๒ เหรียน ๗๐ เช็นต์.
เข้า กรุงสยาม อย่าง กลาง ๒ เหรียน กับ ๑๐ เช็นต์, แล ๒ เหรียน
๒๕ เช็นต์. เข้า ขาว ๒ เหรียน กับ ๓๕ เช็นต์, แล ๒ เหรียน
๕๐ เช็นต์. เข้า เมือง ไซ่ง่อน หาบละ ๒ เหรียน กับ ๒๕ เช็นต์.
เข้า เมือง มนิลา หาบละ ๒ เหรียน กับ ๒๐ เช็นต์. แล ๒ เหรียน
๕๐ เช็นต์. เข้า ขาว เมือง ย่าง กุ้ง หาบละ ๒ เหรียน ๔๐ เช็นต์,
แล ๒ เหรียน ๕๐ เซ็นต์. เข้า กล้อง หาบละ เหรียน กับ ๘๐
เซ็นต์, แล ๒ เหรียน. เข้า อย่าง กลาง ที่ เมือง ซวอเตา หาบละ
๒ เหรียน กับ ๗๕ เซ็นต์. เข้า ขาว ๒ เหรียน ๘๐ เซ็นต์. เข้า
เมือง ฮานำ หาบละ ๒ เหรียน ๘๒ เซ็นต์. เข้า บังก ล่า หาบละ ๒
เหรียน ๗๐ เซ็นต์. ถั่ว ขาว หาบละ ๒ เหรียน กับ ๔๐ เซ็นต์.
๏ ตกั่ว มาลักกา หาบละ ๒๖ เหรียน กับ ๘๐ เซ็นต์. ปลิง
ทเล ที่ ๑ ขาย ที่ เมือง ฮองกง, หาบละ ๒๘ เหรียน, ที่ ๒
หาบละ ๑๒ เหรียน. หมาก กรุง สยาม ที่ ๑ หาบละ ๓ เหรียน
กับ ๖๐ เซ็นต์, ที่ ๒ หาบละ ๒ เหรียน กับ ๒๐ เซ็นต์.
๏ พริก ดำ หาบละ ๖ เหรียน กับ ๔๐ เซ็นต์. พริก ขาว
หาบละ ๑๑ เหรียน. หวาย หาบละ ๔ เหรียน กับ ๕๐ เซ็นต์,
แล ๔ เหรียน ๔๐ เซ็นต์. ฝาง กรุง สยาม หาบละ ๒ เหรียน
แล หาบละ เหรียน ๗๐ เซ็นต์. หู ปลา ขาว หาบละ ๓๑ เหรียน.
หู ปลา ดำ หาบละ ๒๒ เหรียน. อยา เหลือง หาบละ ๔๐ เหรียน.
อยา สูบ หาบละ ๑๐ เหรียน กับ ๓๐ เซ็นต์. ขี้ผึ้ง ชาว เมือง ญี่
ปุ่น หาบละ ๑๒ เหรียน. ขี้ผึ้ง ชาว เมือง ชั่นเกา หาบละ ๙๖
เหรียน.
ราคา สินค้า ที่ กรุงเทพ ฯ
๏ ณวัน เสาร์ เดือน ๙ ขื้น ๑๓ ค่ำ, น้ำตาน ทราย ขาว ที่
หนึ่ง หาบ ละ ๑๔ บาท สอง สลึง.
๏ น้ำตาล ขาว ที่ สอง หาบ ละ ๑๓ บาท ๒ สลึง.
๏ น้ำตาล ทราย ขาว ที่ สาม หาบ ละ ๑๓ บาท.
แต่ น้ำตาล เช่น มา นี้ ไม่ สู่ มี่ มาก.
๏ น้ำตาล ทราย แดง ที่ หนึ่ง หาบ ละ ๘ บาท ๒ สลึง.
๏ น้ำตาล แดง ที่ สอง หาบ ละ ๘ บาท.
น้ำตาล เหล่า นี้ มี น้อย นัก.
๏ พริกไท ดำ หาบ ละ ๑๐ บาท ๒ สลึง.
พริกไท นี้ มี น้อย.
๏ ฝาง อย่าง ที่ ๔, ๕, ดุ้น หนัก หาบ หนึ่ง เปน หาบ ละ ๒
บาท ๒ สลึง.
๏ ฝาง อย่าง ๕, ๖, ดุ้น หนัก หาบ หนึ่ง เปน หาบ ละ ๒
บาท สลึง.
๏ กดาน ไม้ สัก หน้า สาม กะเบียด ยก ละ ๑๐ บาท ๒ สลึง.
๏ ไม้ชิงชัน หนัก ๑๐๐ หาบ อยู่ใน ราง ๑๕๒ กะ ๒๓๕
บาท ตาม เลกใหญ่.
๏ หนัง ควาย หาย ละ ๙ บาท สลึง.
๏ เขา ควาย ดำ หาบ ละ ๑๐ บาท.
๏ หนัง วัว หาบ ละ ๓ ตำลึง.
๏ กำยาน ที่ หนึ่ง หาบ ละ ๑๙๐ บาท.
๏ กำยาน ที่ สอง หาบ ละ ๑๔๐ บาท.
๏ รง หาบ ละ ๔๙ บาท.
๏ งา เมลด เกียน ละ ๑๒๘ บาท.
๏ งาช้าง หาบ ละ ๓๓๐ แล ๓๘๐ บาท ตาม เลกใหญ่.
๏ ครั่ง ที่ หนึ่ง หาบ ละ ๑๓ บาท สลึง.
๏ ครั่ง ที่ สอง หาบ ละ ๑๑ บาท สลึง.
๏ กระวาน หาบ ละ ๒๒๐ บาท.
๏ เร่ว หาบ ละ ๒๓ บาท ๒ สลึง.
๏ กะชอบ ๑๐๐๐ ละ ๗๕ บาท.
๏ ไหม ลาว หาบ ละ ๒๕๕ บาท.
๏ ไหม ญวน หาบ ละ ๗๐๐ บาท.
๏ ฝ้าย บด หาบ ละ ๓๒ บาท.
๏ ฝ้าย เมลด หาบ ละ ๑๐ บาท ๒ สลึง.
๏ ทอง ใบ อัน เสง ที่ หนึ่ง หนัก บาท หนึ่ง เปน เงิน ๑๖
บาท ๒ สลึง.
๏ การ ฝาก ตั๋ว ไป แลก เงิน ที่ เมือง สิงค์ โปร์ แลก ได้
๒๐๐ เหรียน ได้ กำไร ๔ เหรียน ครึ่ง.
๏ เรือ สลัด ๚ะ
๏ ณวัน เดือน เจ็ด แรม สิบ ห้า ค่ำ, มี เรือ สลัด ตี เรือ
สยาม สอง เสา, ชื่อ เรลเว ไลล จาก เมือง ฮ่องกง ทาง ประมาณ
๔๐ ไมล์. เรือ สยาม ได้ ออก จาก เมือง ฮ่องกง, เมื่อ ณวัน แรม
สิบ สี่ ค่ำ, แต่ เรือ สลัด นั้น เปน สำเภา จีน, ใน ท้อง สำเภา นั้น
พร้อม ด้วย เครื่อง สาตรา วุธ, เวลา ที่ สลัด เข้า ตี เรือ สยาม นั้น,
เปน เวลา ๑๑ ทุ่ม. บันดา ลูก เรือ สยาม ครั้น สลัด มา ตี แล้ว ก็
หนี ลง ท้อง เรือ, เหลือ แต่ กบิตัน ต้นหน ๆ หา ผู้ ที่ จะ ช่วย มิ
ได้, จำ เปน ต้อง ยอม แพ้. ฝ่าย สลัด ก็ เก็บ เอา ของ ที่ ควร จะ
เอา ได้ ง่าย, ก็ เอา ไป ทั้ง เงิน แล นาฬิกา เดิน เรือ แล ปืน สำรับ
เรือ ๒ บอก, แล เชือก แล สเบียง อาหาร ทั้ง ของ ต่าง ๆ, ที่ เอา
ไป ได้ ง่าย. แล้ว สลัด ก็ จับ ตัว นาย เรือ มัด เข้า, กระทำ โภย
ต่าง ๆ, เพื่อ จะ ให้ บอก สิ่ง ของ ที่ เปน สำคัญ. ครั้น เวลา เช้า
โมง หนึ่ง, มี เรือ ลำ เลียง จีน แล่น มา ภอ สลัด เหน เข้า, ก็ กลัว
จึ่ง เอา ไฟ กำมถัน ทิ้ง ลง ใน ท้อง เรือ เพื่อ จะ เผา เสีย. แล ทำ
ลาย ของ ต่าง ๆ ตี ลูก เรือ เจ็ป ปวด สาหัส แล้ว ก็ หนี ไป. ฝ่าย
เรือ สยาม ก็ แล่น กลับ เข้า เมือง ฮ่องกง. ถึง ณวัน พุทธ์ เดือน
แปด ขึ้น ห้า ค่ำ. ๚ะ
๏ ข้อ ความ นี้ ได้ คัด ออก จาก หนังสือ จด หมาย เหตุ เมือง
จีน, เรียก ว่า ไซนา เมล์. ๚ะ
๏ อนึ่ง มี ข่าว มา แต่ เมือง แซ่งอน ว่า, เขา จับ เรือ สลัด ได้
ห้า ลำ. ครั้น เขา พิจารณา เหน ว่า เปน สลัด แท้ แต่ สี่ ลำ, ๆ หนึ่ง
นั้น หา ได้ เปน สลัด ไม่, เขา จึ่ง ปล่อย เสีย.
๏ กริง กานู ๚ะ
๏ เจ้า เมือง กริงกานู, ได้ มี หนังสือ ไป ถึง เจ้า เมือง สิงคโปร์.
เปน ใจ ความ ว่า, บัด นี้ มี เรือ สลัด เที่ยว แล่น ลัด ทำร้าย, ไล่
เรือ ลูก ค้า ตาม ชาย ทเล หลาย ลำ, ชาว บ้าน ก็ มิ อาจ ออก
เที่ยว หา กิน ได้. เพราะ เหตุ ฉนี้ ข้าพเจ้า จึ่ง มิ อาจ จะ เอา ตกั่ว
มา ขาย ให้ แก่ ท่าน เหมือน ตาม เคย มา แต่ ก่อน ไม่, แล ข้าพ
เจ้า มิ ได้ มี อำนาถ อาจ ไล่ เรือ นั้น ได้. ขอ อำนาถ บารมี ของ ท่าน
มา ช่วย ไล่ พวก สลัด นั้น ให้ จง ได้ เถิด.
๏ อนึ่ง ใน หนังสือ จดหมาย เหตุ ที่ เมือง สิงคโปร์ ที่ มี ชื่อ ว่า,
“สเตศเตม” นั้น, ได้ กล่าว ไว้ ว่า ท่าน เจ้า เมือง สิงคโปร์, จะ เอา
เปน ธุระ ใน การ ที่ จะ จับ สลัด นั้น ด้วย.
ข่าว มา แต่ เมือง ต่าง ต่าง
๏ นาย ห้าง ที่ เมือง บ้าบาย หัก ล้ม, อีก ๑๐ กัมปะนี คือ
๑๐ พวก. ๆ หนึ่ง เรียก ว่า, ดีนาราเยนดาซี เสีย เพราะ เปน นี่
เขา ๓๑๐๐๐๐ เหรียน. พวก หนึ่ง ชื่อ ดีภาดาซี, เปน นี่ เขา
๔๒๕๐๐๐ เหรียน. พวก หนึ่ง ชื่อ บี้ศมอ แอ่น กำปะนี, เปน นี่
เขา ๖๔๐๐๐๐ เหรียน. พวก หนึ่ง ชื่อ พรานชี วันดัศซ์ เฮอ ชี วัน
ดัศซ์, เปน นี่ เขา ๖๐๕๐๐๐ เหรียน. พวก หนึ่ง ชื่อ ไพราม ซี นา
นา ภอย, ฟราม ซี เปน นี่ เขา ๗๕๐๐๐๐ เรียน. พวก หนึ่ง ชื่อ เอศ
ไทฮับซี่ แอน กำปะนี, เปน นี่ เขา ๑๐๑๐๐๐๐ เหรียน. พวก หนึ่ง
ชื่อ เอ. เอ็ช หัศคี่แอนกำปะนี, เปน นี่ เขา ๑๖๐๐๐๐ เหรียน.
พวก หนึ่ง ชื่อ อาระดาเชีย เคอรเซ็คซี่ ดาตี่ เปน นี่ เขา ๑๖๕๐๐๐๐
เหรียน. พวก หนึ่ง ชื่อ เปดตอนซี่ เตอรเซศซี่ซอฝ, เปน นี่ เขา
๗๖๒๕๐๐๐ เหรียน. พวก หนึ่ง ชื่อ เคอรเซ็คซี่ เฟอรตันซี่, เปน
นี่ เขา ๑๐ ล้าน เหรียน. ๚ะ
๏ อนึ่ง ภรรยา แห่ง พริศเวล บุตร ใหญ่ เจ้า เมือง อังกฤษ,
ประสูท เจ้า ชาย, เมื่อ ณวัน เสาร์ เดือน เจ๊ด ขึ้น สิบ ค่ำ ปี ฉลู
สัปต ศก.
๏ อนึ่ง เอ็มปีเรอ เจ้า เมือง ฝรั่งเสศ, มี หนังสือ กริ้ว, พริศ
เนโปเลียน ผู้ หลาน, เพราะ พริศเนโปเลียน กล่าว คำ สรรเสิญ
เคาเวอเม็นต์ รีปั้บลิก. ท่าน กลัว ว่า จะ ยุยง ให้ ราษฎร ทั้งปวง เกิด
จลาจล, จะ ต้อง เปลี่ยน เคาเวอเม็นต์, ให้ เปน รีปั้บลิก เหมือน
อย่าง ครั้ง ก่อน. ปริศเนโปเลียน จึ่ง ลา ออก จาก ที่ ตั้ง เปน
กรม แล้ว.
๏ อนึ่ง เคาเวอเม็นต์ อังกฤษ มี หมาย ประกาศ ห้าม ว่า, อย่า
ให้ เรือ ที่ มี ธง ฝ่าย ขบถ เมือง อเมริกา, อยู่ ใน เมือง อังกฤษ เลย.
เมือง ฝรั่งเสศ ก็ มี หมาย ประกาศ เหมือน กัน, ห้าม มิ ให้ พวก
ขบถ อยู่ ที่ นั้น. ๚ะ
๑ เอ็มปีเรอ เนโปเลียน เจ้า เมือง ฝรั่งเสศ, ได้ ไป เที่ยว ที่
เมือง แอนซีเรีย ได้ กลับ มา ถึง เมือง ปาริศ, เมื่อ ณวัน เสาร์
เดือน เจ็ด แรม ค่ำ หนึ่ง ปี ฉลู สัปตศก. เจ้า เมือง นั้น มี ความ สะ
บาย มาก. ๚ะ
๏ ความ มรณา ๚ะ
๏ ณวัน อังคาร เดือน เก้า ขึ้น เก้า ค่ำ, มิศเตอ ซี่. ซี่. อัลเลน
ตาย เมื่อ เวลา บ่าย สาม โมง เสศ, มี อายุ ได้ สามสิบ เก้า ปี.
มิศเตอ อัลเลน เปน ชาว เมือง อเมริกา, ได้ เข้า มา อาไศร อยู่ ใน
กรุง สยาม นี้, เมื่อ คฤษ ศักราช ๑๘๕๘ ปี. เปน ผู้ ที่ ได้ รับ
จ้าง โยง เรือ ที่ กรุง เทพ ฯ แต่ เดิม มา. ๚ะ
๏ ข่าว ใหม่ มา แต่ เมือง อเมริกา ๚ะ
๏ เกอเน็ล ฮาเดน, แล เกอเน็ล ปริศชาต, นาย ทหาร สอง คน ได้
ยก กอง ทหาร ไป เพื่อ จะ จับ เปวศซิเด็นต์ เดวิศ ฝ่าย ขบถ ที่ หนี ไป
นั้น, แล้ว เขา แยก ทาง กันไป. ฝ่าย เกอเน็ล ปริศชาด ได้ ไป
ทาง ที่ เปรศซิเด็นต์ เดวิศ หนี, เขา ไล่ ติด ตาม ไป ใน ทาง นั้น ๆ
เปน ป่า ถึบ.
๏ เมื่อ ณเดือน หก แรม สิบสาม ค่ำ ปี ฉลู สัปตศก, เขา ไป
ถึง บ้าน แห่ง หนึ่ง, ชื่อ กำเบอแลนด์วิล ก็ ประจบ กัน เข้า ใน ที่
นั้น. เกอเน็ล ปริศชาด จึ่ง เลือก เอา ทหาร ที่ มี ฝี มือ เข้ม แขง
ได้ ๑๕๐ คน, ยก ลง ไป ถึง ตำบล เอ อวินวิล, เปน ทาง ที่ เปรศ
ซิเด็นต์ เดวิศ จะ หนี ไป. ฝ่าย เกอเน็ล ฮาเดน ก็ ติด ตาม ไป ใน
ทาง นั้น.
๏ ณเดือน หก แรม สิบห้า ค่ำ ปี ฉลู สัปตศก, เกอเน็ล ปริศ
ชาด ได้ ข่าว ว่า, เปรศซิเด็นต์ เดวิศ พัก อยู่ ไกล นอก บ้าน ที่ ตัว
อยู่ นั้น ประมาณ สัก สอง ไมล์. ฝ่าย เกอเน็ล ฮาเดน ก็ ไป ตั้ง ซุ่ม
อยู่ ต้น ทาง, เพื่อ เกอเน็ล ปริศชาด จะ ตี ต้อน ปริศซิเด็นต์ เดวิศ
ขึ้น ไป, แล้ว จะ ได้ จับ เอา โดย ง่าย. เมื่อ เกอเน็ล ปริศชาด ยก
กอง ทหาร ขึ้น ไป เกือบ จะ ถึง กอง ทหาร เกอเน็ล ฮาเดน นั้น, เปน
เวลา เดือน มืด นัก. ฝ่าย พวก เกอเน็ล ปริศชาด หมาย ว่า เปน
พวก เปรศซิเด็นต์ เดวิศ, ก็ ยิง เอา พวก ทหาร กอง เกอเน็ล ฮาเดน
ตาย สอง คน, ถูก อาวุธ เปน บาด แผล ๕ คน เพราะ เดือน มืด
หา เหน ตัว กัน ไม่. แต่ เขา ยิง กัน อยู่ ที่ นั่น ประมาณ ได้ ๑๕
นาที, จึ่ง ได้ รู้ เปน แน่ ว่า, เปน พวก เดียว กัน.
๏ ฝ่าย เปรศซิเด็นต์ เดวิศ, เหน พวก กอง ทหาร ยก มา ใกล้
เกือบ จะ ถึง อยู่ แล้ว, จึ่ง เอา เสื้อ ของ ภรรยา มา สรวม ใส่ แต่ง
กาย เปน หญิง, เพื่อ จะ มิ ให้ ใคร รู้ จัก, แล้ว ลอบ หนี ไป. ชะ
ณะ เมื่อ หนี ไป นั้น, พวก ทหาร ทั้งปวง สำคัญ ว่า เปน ผู้ หญิง.
จึ่ง ภา กัน นิ่ง อยู่, หา รู้ ที่ จะ ทำ ประการ ใด ไม่. แต่ เขา ได้ เหน
สำคัญ อีก อย่าง หนึ่ง, คือ รอง เท้า ที่ ใส่ นั้น สูง ยาว ขึ้น มา ถึง
เข่า, จึ่ง เข้า ใจ ว่า ชาย แปลง กาย เปน หญิง, เขา จึ่ง ไล่ ติด
ตาม ไป จับ ตัว ได้ ใน ทัน ใด นั้น. ฝ่าย เปรศซิเด็นต์ เดวิศ เหน
จวน ตัว ด้วย กลัว ตาย, จึ่ง ชัก มีด ออก หมาย จะ ฆ่า ผู้ นั้น เสีย.
ทหาร คน หนึ่ง จึ่ง เอา ปืน แชน เสื้อ ที่ ยิง ได้ หก นัด นั้น, ออก
สร่อง หมาย จะ ให้ กลัว. ครั้น เปรศซิเด็นต์ เดวิศ เหน ดัง นั้น จึ่ง
ยอม แพ้ แก่ พวก ทหาร, ๆ จึ่ง จับ ตัว ได้. เปรศซิเด็นต์ เดวิศ จึ่ง
กล่าว คำ ติเตียน เกาเวอ เม็นต์ อเมริกา ว่า, ท่าน จัด แจง ให้ ทะ
หาร ตาม มา จับ ลูก เมีย เรา โดย เข้ม แขง ฉนี้. ด้วย แต่ ก่อน
เราได้ หมาย ว่า เกาเวอเม็นต์ ได้ เปน ใหญ่ มี ใจ กว้าง ขวาง แล้ว,
จะ ไม่ ยอม ทำ การ ชั่ว เช่น นี้ เลย.
๏ เมื่อ การ ที่ จับ เส็จ แล้ว, ฝ่าย ภรรยา เปรศซิเด็นต์ เดวิศ,
จึ่ง พูด กับ เกอเน็ล ฮา เดน ว่า, ให้ ทหาร ทั้งปวง ระวัง อย่า ยุ ให้
ใจ เปรศซิเด็นต์ มี ความ โกรธ ขึ้น, ด้วย กลัว ว่า เปรศซิเด็นต์
เดวิศ, จะ คิด ทำราย แก่ เขา บ้าง.
๏ ข่าว ที่ ว่า มา นี้, อยู่ ใน หนังสือ ฝาก ของ เซ็นนิเรล วิลซัน,
ฝาก ไป ถึง มิศเตอ ซตอนตัน ที่ เปน ขุนนาง ใหญ่ ฝ่าย ทัพ บก เมือง
อะเมริกา.
๏ หนังสือ พ่อ ยิ้ม ๚ะ
๏ ข้าพเจ้า พ่อ ยิ้ม พระภาษีสมบัติ บริบูรณ์, ขอ ประกาศ มา
แก่ ท่าน ทั้งหลาย ทั้งปวง, ด้วย ข้าพเจ้า กับ ท่าน ผู้อื่น เปน อันมาก
คิด กัน จะ ขุด คลอง, ตั้ง แต่ บ้าน ดอนกระดี แขวง เมือง ท่าจีน, มา
ออก คลอง บางกอก ใหญ่ ริม วัด ปาก น้ำ แขวง กรุง เทพ ฯ. กว้าง
เจ็ด วา, ฤก ห้า ศอก ก่อน. แล้ว จะ ขุด ด้วย จักร กลไพ ฤก อีก
ศอก หนึ่ง, ฤๅ สอง ศอก ตาม สม ควร. เปน หน ทาง ยาว ห้า ร้อย
เส้น เสศ. ได้ กราบ เรียน ท่าน เสนาบดี ให้ กราบ ทูล พระกรุณา
ให้ ทราบ ฝ่า ลออง ธุลี พระบาท แล้ว. ทรง พระราชดำริห์ พร้อม กับ
ความ คิด ท่าน เสนาบดี, ว่า การ ที่ ข้าพเจ้า แล พวก ข้าพเจ้า คิด
นั้น ชอบ อยู่. แต่ เพราะ ปี นี้ จะ ต้อง เลิก อากร สวน ใหญ่, แล
เข้า ที่ เปน สินค้า ก็ ต้อง ปิด ไว้ เพราะ ฝน แล้ง, ภาษี เข้า ก็ เก็บ
ไม่ ได้, ภาษี อื่น ก็ ตก ไป ด้วย เปน อัน มาก. พระราช ทรัพย์
หลวง จะ จ่าย มา เปน ทุน ขุด คลอง อย่าง เมื่อ ขุด คลอง อื่น ๆ
ยัง ไม่ ภอ, จะ ช้า ไป. ข้าพเจ้า จึ่ง ได้ ให้ กราบ ทูล รับ อาสา ว่า,
เมือง อื่น ใหญ่ ๆ เขา ขุด คลอง ทำ ทาง, เขา ก็ ไม่ ได้ เอา เงิน
แผ่นดิน ไป ใช้, เปน แต่ เขา เรี่ยไร กัน ใน ราษฎร, โดย เงิน เรี่ย
ไร ไม่ ภอ. เขา ก็ ขอ อำนาถ แผ่นดิน เก็บ เอา ตาม เรือ รถ เกวียน,
ซึ่ง ขึ้น ล่อง ไป มา ทาง นั้น, ที ละ เล๊ก ละ น้อย กว่า การ จะ สำเรจ์
ลง ได้. จึ่ง โปรด เกล้า ฯ ให้ ข้าพเจ้า คิด ให้ สมควร, เพราะ การ
จะ เปน คุณ แก่ ราษฎร ทั่ว กัน.
๏ ข้าพเจ้า คิด การ สอง อย่าง, ๆ หนึ่ง เรือ ยาว ตั้ง แต่ สี่ วา
ขึ้น ไป, บันทุก ของ เก็บ ลำ ละ บาท, ไม่ ได้ บันทุก ของ เก็บ
ลำ ละ สอง สลึง. เรือ ยาว สี่ วา ลง มา ถึง สิบ ศอก, บันทุก
ของ เก็บ ลำ ละ สอง สลึง, ไม่ ได้ บันทุก ของ เก็บ ลำ ละ สลึง .
เรือ ยาว สิบ ศอก ลง มา, บันทุก ของ เก็บ ลำ ละ สลึง, ไม่ ได้
บันทุก ของ เก็บ ลำ ละ เฟื้อง. แต่ แพ ไม่ ให้ เดิน. เรือ พ่วง ไม้
ใหญ่, เรือ พ่วง ไม้ เล๊ก, เก็บ ลำ ละ กึ่ง ตำลึง, ขา ขึ้น ฤๅ ขา ล่อง
มา ทาง นี้, จะ ขอ เก็บ เงิน ตาม พิกัด นี้. ตั้ง แต่ เรือ เดิน ตาม
ลำ คลอง นั้น ได้ ไป สิบ ปี, กับ ที่ ไร่ ที่ นา ที่ สวน, ยืน ขวาง ลำ
คลอง ขึ้น ไป, ฟาก คลอง ละ สิบ ห้า เส้น. คิด เปน ไร่ ปี หนึ่ง
เอา ไร่ ละ สลึง แต่ เจ้า ของ ผู้ จับ จอง ที่ นั้น.
๏ อีก อย่าง หนึ่ง คิด ว่า ถ้า จะ เก็บ อย่าง นั้น, จะ เปน ที่ ต้อง
ถุ้ง เถียง ขัด เคือง กับ ท่าน ทั้งปวง เปน อัน มาก ไป. ถ้า จะ ไม่ ทำ
อย่าง นั้น, จะ ตั้ง โรง หวย ที่ ตำบล เมือง นครไชยศรี, เมือง ท่า จีน
สาม ปี, ผู้ มา แทง หวย เท่า ไร, เมื่อ แทง ไม่ ถูก ก็ จะ กิน, ที่ แทง
ถูก ก็ จะ ใช้ สาม สิบ ต่อ, เหมือน การ ใน โรง หวย ตาม ธรรม
เนียม ยัก ไม่ อย่าง, ไม่ เรียก เงิน เดิน ทาง เลย. แต่ บัดนี้ ข้าพ
เจ้า ยัง สงไสย ว่า, ท่าน ทั้งปวง เปน อันมาก จะ ยอม อย่างไร, จะ
ยอม ให้ เก็บ เอา ตาม เรือ ขึ้น เรือ ล่อง ฤๅ, ฤ จะ ให้ ตั้ง โรง หวย
เก็บ กำไร เอา. ข้าพเจ้า ขอ ปฤกษา ด้วย ท่าน ผู้ ได้ อ่าน คำ ประ
กาษ นี้ ทุก คน, ท่าน ผู้ ได้ อ่าน ขอ จง ได้ เขียน หนังสือ ตอบ ให้ ข้า
พเจ้า รู้ แต่ สั้น ๆ. ลง ชื่อ ของ ท่าน ก่อน, ว่า ข้าพเจ้า ชื่อ นี้ อยู่
บ้าน นี้, เหน ว่า ให้ ท่าน เก็บ เงิน แต่ ชาว เรือ ขึ้น ล่อง เอา เถิด,
อย่า ตั้ง โรง หวย เลย. ฤๅ ว่า ข้าพเจ้า ชื่อ นี้ อยู่ บ้าน นี้, เหน ว่า
ให้ ท่าน ตั้ง โรง หวย หา กำไร เอา เถิด, อย่า เก็บ เงิน แต่ ชาว เรือ
ขึ้น ล่อง เลย. เมื่อ เขียน แล้ว ให้ เอา ไป ส่ง แก่ พระอินทราธิ
บดี สีหราชรองเมือง, พระเทพผลู, ตั้ง แต่ วัน จันทร์ เดือน เก้า ขึ้น
ค่ำ หนึ่ง, จน วัน สุกร์ เดือน เก้า ขึ้น สิบ สอง ค่ำ. ถ้า ข้าพเจ้า
ได้ รู้ ว่า, คน เปน อันมาก ชอบ ใจ ยอม อย่าง ไร, จะ ยอม ทำ ตาม
อย่าง นั้น, ใน สอง อย่าง นี้. ถ้า ท่าน จะ ว่า อย่าง อื่น ไป รับ
ไม่ ได้, ฤๅ จะ ทำ หนังสือ บิด ประกาศ, แล ลง พิมพ์ ที่ โรง พิมพ์
พวก อเมริกา ว่า อะไร ๆ, จะ รับ ก็ ไม่ ได้, จะ เชื่อ ถือ ก็ ไม่ ได้.
๏ หมาย ประกาศ มา วัน จันทร์ เดือน เก้า ขึ้น ค่ำ หนึ่ง ปี ฉลู
สัปตศก. ๚ะ
๏ อนึ่ง เจ้า ของ หนังสือ จด หมาย เหตุ บางกอก รีคอเดอ นั้น,
ชื่อ ว่า ดี. บี. บรัดเล. หนังสือ นี้ มี คน ที่ ซื้อ แต่ ๗๐ คน, ขาย ขาด
ทุน มาก นัก, ขอ ให้ ท่าน ทั้งหลาย ช่วย ข้าพเจ้า ขาย ด้วย เถิด.
กำปั้นเข้ากรุงเทพ ฯ | |||||
เข้ามา เมื่อไร | กำปั้น ชื่อไร | กับปิตัน ชื่อไร | กี่ ตอน | เปน เรือ อะไร | มา แต่ ไหน |
ณะวัน เดือน ๘ แรม ๑๔ ค่ำ | อีตเต็น | สิวเวอ | ๒๕๐ | บาก แฮมเบิค | สิงคโปร |
๑๕ ค่ำ | ซูเลียแอน | เลนฮาค | ๑๕๐ | ศกูนเนอ อังกฤษ | สิงคโปร |
ขึ้น ๗ ค่ำ | ออคัศต์ | บูเอต | ๗๑๓ | บาก สยาม | สิงคโปร |
๙ ค่ำ | เต็ลลิแคลฟ | กฤนเตียปเชน | ๓๐๒ | บาก สยาม | ฮองกง |
๑๒ ค่ำ | ไกรตอน | ซเรศ | ๗๙๔ | บาก ฮอลันด์ | ปะตาเวีย |
๑๓ ค่ำ | ยอด์ เอวีรี | แยก | ๔๖๗ | บาก อังกฤษ | สิงคโปร |
๑๔ ค่ำ | แคมราย | บอตโฟรด์ | ๒๕๖ | ศกูนเนอ สยาม | สิงคโปร |
ออกเมื่อไร | กำปั้นออกจากกรุงเทพ ฯ | จะไปไหน | |||
เดือน ๙ แรม ๑๒ ค่ำ | เซนต์ยอฑ์ | เดวิด | ๗๓๐ | บาก สยาม | เมือง จีน |
แรม ๑๓ ค่ำ | ฟเรนชิฟ | กลินต์ | ๔๘๐ | บาก สยาม | ฮองกง |
๑๓ ค่ำ | อิไลซาเชน | เซนเชน | ๓๔๑ | บาก สยาม | นิงโป |
๑๔ ค่ำ | ปอลักษ์ | บลถ | ๔๑๗ | บาก ฮอลันด์ | สุระบายะ |
๑๔ ค่ำ | เบศซี่ | ซอน | ๒๙๙ | บาก อังกฤษ | ฮองกง |
๑๕ ค่ำ | โซอาต์พีศ | มูลเลอ | ๖๓๐ | บาก สยาม | นิงโป |
เดือน ๙ ขึ้น ๔ ค่ำ | ชาวา | มาณ | ๗๔๐ | บาก ฮอลันด์ | สุระบายะ |
๔ ค่ำ | โชไฟอา | จีน | ๑๗๘ | ปริก สยาม | สิงไคร |
๕ ค่ำ | โปศติลยันต์ | คีรวี | ๓๕๘ | บาก ฮอลันด์ | ปะตาเวีย |
๖ ค่ำ | โอชัน กวีน | มอละ | ๓๒๗ | ชิบ สยาม | ฮองกง |
๖ ค่ำ | โอเรศตี่ศ์ | วุลฟ | ๔๘๐ | บาก สยาม | ฮองกง |
๗ ค่ำ | บริลลี่แอนต์ | ยูแซระ | ๓๐๐ | ชิบ สยาม | ฮองกง |
๑๐ ค่ำ | กิม ฮอง ไทย | ยอร์เชน | ๓๐๐ | บาก สยาม | ฮองกง |
๑๒ ค่ำ | เซออาร์ล | แลนซ์ | ๓๔๔ | บาก ฮอลันด์ | สุระบายะ |
๑๒ ค่ำ | ฟอชูล | ฮอฟแมน | ๔๔๗ | บาก สยาม | ฮองกง |
๑๔ ค่ำ | เจาไช | เบอโร | ๔๖๒ | บาก สยาม | ฮองกง |
๑๔ ค่ำ | โคลเดน ซตา | จีน | ๒๐๑ | บาก สยาม | แซ่งไฮ |
๏ เจ้าของ หนังสือ นิราษ เมือง ลอนดอน นั้น, อยู่ ที่ แพ ริม
ปาก คลอง ขุด สพาน หัน, ชื่อ นาย จ่ารง. หนังสือ นิราษ ลอนดอน
นั้น ยัง มี เหลือ อยู่ บ้าง, ถ้า ผู้ ใด จะ ต้อง การ, เชิญ ท่าน ไป ซื้อ
ตาม ชอบ ใจ เถิด.
โรง พิมพ์
๏ โรง พิมพ์ ที่ ได้ ตี หนังสือ จด หมาย เหตุ นี้, ตั้ง อยู่ ที่ ริม
ป้อม ปาก คลอง บางกอก ใหญ่, หลัง วัง กรมหลวง วงษาธิ ราช
สนิท. ถ้า ผู้ ใด ๆ ปราถนา จะ ให้ ตี พิมพ์ หนังสือ ไทย, ฤา หนังสือ
อังกฤษ, จะ เปน เนื้อ ความ มาก น้อย ประการ ใด, ขอ เชิญ ท่าน
มา พูด กับ ข้าพเจ้า ๆ ปราถนา จะ รับ จ้าง ตี พิมพ์ หนังสือ ต่าง. ๆ
ราคา ค่า จ้าง นั้น, จะ รับ ให้ ถูก กว่า แต่ ก่อน มาก. ถ้า ฎีกา ต่าง ๆ
กว้าง ยาว เท่า แผ่น กระดาดน้ำซึม, ถ้า ตี เต็ม น่า ข้าง หนึ่ง, ถ้า
ต้อง การ แต่ พัน หนึ่ง, จะ คิด เอา ราคา พัน แผ่น ๒. บาท. ถ้า ต้อง
การ หลาย พัน, จะ เอา ราคา แต่ พัน ละ ๑๕ บาท เท่า นั้น. อนึ่ง
หนังสือ อังกฤษ ที่ เรียก ว่า, โบตโนฎ นั้น, เปน หนังสือ จด หมาย
สำหรับ ที่ นาย ห้าง ฝาก สินค้า บันทุก ไป ลง กำปั่น นั้น, ๑๐๐ แผ่น
เปน ราคา ๕ บาท. อนึ่ง หนังสือ ที่ เรียก ว่า, เอ็นเต็ร แล ชิปปิ้ง
บิล, ถ้า จะ เอา แต่ ๓๐๐. ก็ เปน ๑๐๐ ละ ๔ บาท, ถ้า เอา ถึง
๑๐๐๐ เปน ๑๐๐ ละ กึ่ง ตำลึง. อนึ่ง หนังสือ บิล เลดิง, ถ้า
เอา แต่ ๓๐๐ เปน ๑๐๐ ละ ๕ บาท. ถ้า ต้อง การ ถึง ๑๐๐๐
จะ เอา ๑๐๐ ละ ๑๐ สลึง. อนึ่ง ถ้า เปน หนังสือ กาด เปน ๑๐๐
ละ ๕ บาท.
๏ การ ผูก หนังสือ เปน เล่ม. ๚
๏ อนึ่ง การ ที่ ผูก หนังสือ เปน เล่ม สมุท อังกฤษ, เท่า กับ
กดหมาย ที่ ขาย อยู่ ทุก วัน นี้, ถ้า หุ้ม หนัง ล้วน เปน เล่ม ละ กึ่ง
ตำลึง. ถ้า ขลิบ หนัง เปน เล่ม ละ ๖ สลึง, ถ้า เอา มาก กว่า ๑๐
เล่ม ขึ้น ไป, ก็ จะ ลด ราคา เอา แต่ เล่ม ละ บาท. ถ้า เปน เล่ม
เล็ก กว่า กฎหมาย, ก็ จะ คิด เอา ราคา ตาม เล็ก แล ใหญ่ ภอ
สม ควร.
๏ คำ ไทย ฤา คำ อังกฤษ แปล, ถ้า ร้อย คำ เปน ราคา ๕๐
เซ็น. ถ้า มาก กว่า ๑๐๐๐ คำ จะ คิด เอา ๑๐ คำ เปน ๔ เซ็น จน
ถึง ๒๐๐๐ คำ. ถ้า มาก กว่า ๒๐๐๐ คำ, ก็ จะ เอา แต่ สม ควร
ภอ ตก ลง กัน ได้.
๏ หนังสือ ขาย ๚ะ
๏ อนึ่ง ที่ โรง พิมพ์ นั้น มี หนังสือ ขาย ต่าง ๆ, คือ หนังสือ
หัก พูด คำ อังกฤษ จบ ละ ๙ สลึง. แล หนังสือ จินดามะณี นั้น
เล่ม ละ บาท. หนังสือ กฎหมาย ไทย ๕๕ เล่ม สมุท ไทย ผูก เปน
หนังสือ อังกฤษ สอง เล่ม, ขาย เปน ราคา จบ ละ ๑๓ บาท สลึง,
แล หนังสือ พระ ราช พงษาวดาร ไทย ๔๒ เล่ม สมุท ไทย, ทำ เปน
สอง เล่ม อังกฤษ, ขาย จบ ละ ๑๐ บาท สอง สลึง. แล พงษาวดาร
ฝรั่งเศศ ย่อ, ขาย เล่ม ละ สอง สลึง. แล มี กระดาด สมุด เปล่า
ต่าง ๆ ขาย เล่ม ละ บาท บ้าง, เล่ม ละ สอง สลึง บ้าง, เฟื้อง หนึ่ง บ้าง,
หลาย อย่าง ต่าง ๆ. เชิญ ท่าน ทั้งหลาย มา หา ข้าพเจ้า ที่ โรงพิมพ์
๏ พ่อ ค้า ๚
๏ เวอชิน แอน กัมเปนี, เปน พ่อ ค้า อะเมริกัน สำรับ ขาย
เครื่อง กำปั้น, แล เสบียง อาหาร ที่ สำรับ ใช้ ใน กำปั้น ด้วย, แล
ขาย สิ่ง ของ อื่น ต่าง ๆ, ที่ คน ใน กรุง เทพ ฯ จะ ต้อง การ. แล
เปน พวก สำรับ ขาย ของ ใน การ เลหลัง. ตั้ง อยู่ ที่ บ้าน คอก ควาย
น่า วัด บาทหลวง.
๏ พวก รีมีซะมิศ แอน กัมเปนี, เปน พ่อ ค้า ฝรั่งเศศ, ตั้ง อยู่
ที่ บ้าน คอก ควาย ริม ตึก กงสุล ฝรั่งเศศ, มี ของ เครื่อง สำรับ เรือ
แล ของ ฝรั่งเศศ, แล ของ อังกฤษ หลายอย่าง ต่าง ๆ เปน อัน มาก.
๏ พวก ซิวิลแมเลอบ์แอน กัมเปนี, เปน พ่อ ค้า ฝรั่งเศศ
ตั้ง อยู่ ที่ บ้าน กะดี จีน แห่ง หนึ่ง, ตั้ง อยู่ ที่ ท้อง สนาม น่า พระ ที่
นั่ง สุทไธย สวรรค แห่ง หนึ่ง, มี เครื่อง ใช้ ต่าง ๆ ที่ มา แต่ ประ
เทศ ยุรบ เปน อัน มาก
๏ อนึ่ง มิศฟะรันซิศ จิต, เปน พนักงาน สำรับ ชัก เงา รูป
ปราถนา จะ ให้ คน ใน กรุง นอก กรุง เข้า ใจ ว่า, ตัว นั้น อยู่ ที่ แพ
น่า บ้าน กะดี จีน, ได้ เปน พนักงาน สำรับ ชัก เงา รูป ต่าง ๆ. รูป ที่
ได้ ชัก ไว้ แล้ว นั้น, ก็ มี หลาย อย่าง, คือ รูป วัง, แล รูป วัด, รูป
ตึก, รูป เรือน, แล รูป เงา ต้นไม้, แล รูป ท่าน ผู้ มี วาศนา ต่าง ๆ
ใน กรุง เทพ นี้. ถ้า ท่าน ผู้ ใด ปราถนา, จะ ให้ ข้าพเจ้า ไป ชัก เงา
รูป ที่ บ้าน ของ ท่าน, ข้าพเจ้า ก็ จะ ไป ทำ, ราคา ค่า จ้าง นั้น จะ เอา
แต่ อย่าง กลาง ภอ สม ควร.
๏ พรรณาด้วยจดหมายเหตุ ๚ะ
๏ หนังสือสำแดงการ
ที่ จะทำ หนังสือ จด หมายเหตุ, เรียกว่า บางกอก รึคอเดอ ต่อ ไป.
๏ ตั้ง แต่นี้ ไป จะ ไม่ให้ติด อยู่กับ หนังสือ จด หมาย เหตุ,
ที่ เปน ภาษา อังกฤษ นั้น ต่อ ไป. แต่ จะ ให้ ตี ต่างหาก, เปน สี่
ใบ แปด น่า เต็ม ๆ เปน อย่าง ฉบับ นี้. แล หนังสือ นั้น, จะ จุ
ความ ที่ ว่า ด้วย การ บ้านเมือง, แล ความ ที่ รู้ รอบ ตาม หนัง
สือ, แล ศิลประสาตร วิชา การ ต่างๆ, แล การ พ่อค้า, แล
ข่าว ที่ บังเกิด ใน เมือง นี้, แล เมือง ที่ ล้อม รอบ. แล จะคัด เอา
ข่าว จาก หนังสือ จด หมาย เหตุ, ที่ มี มา แต่ เมือง จีน, เมือง บัต
เตเวีย, เมือง สิ่งกะโปร์, เมือง ปีแนง, เมือง พม่า, เมือง บัง
กะล่า, เมือง ลังกา, เมือง บำใบ, ประเทศ ยุรบ, แล ประเทศ อเม
ริกา. จะ คัด เอา ข้อ ความ ออก จาก หนังสือ จด หมายเหตุ เหล่า นั้น,
ซึ่ง จะ เปน ประโยชน์ แก่ ผู้ ใด ๆ ที่ อ่าน. เจ้าของ บางกอก รึคอ
เดอ, จะ เอาใจใส่, เพื่อ จะ ให้ หนังสือ จด หมาย เหตุ นั้น, เปน
ของ ดี ยั่ง ยืน มั่น คง, เปน ของ ที่ ควร ชาว ประเทศ สยาม จะ
อ่าน, ได้ ช่วย ให้ มี ความ รู้ จำเริญ ดี ขึ้น.
๏ หนังสือ จด หมายเหตุ นี้, เปรียบ เหมือน คน เที่ยว ไป ทั่ว
โลกย์, เพื่อ จะได้หา เหตุ ต่าง ๆ เปน สำคัญ, แล้ว ก็ กลับ มา เล่า
เหตุ การ ให้ คน ทั้งปวง ฟัง. ถ้า คน เหล่า นั้น จะ มา แต่ ประเทศ
อเมริกา บ้าง, ประเทศ ยุรบ บ้าง, เมือง บังกะลา บ้าง, เมือง พม่า
บ้าง, เมือง จีน บ้าง, เมือง ชวา บ้าง, เมือง สิงกะโปร์ บ้าง, เมือง
ปีแนง บ้าง, แล เมือง อื่น ๆ หลาย แห่ง นั้น, ท่าน ผู้ อ่าน นี้ จะ มิ
ชอบใจ ฟัง เขา บอก ข่าว เดือน ละสอง หน ฤๅ, แล จะ คิด เสีย ดาย
เงิน ค่า จ้าง ที่ จะ ให้ เขา ปี ละ ห้า บาท ฤๅ แปด บาท นั้น ได้ ฤๅ.
ฝ่าย หนังสือ จด หมายเหตุ ที่ เรียก ว่า, บางกอก รึคอเดอ นี้, จะ มา
บอก ข่าว แก่ ท่าน ทั้งหลาย เดือน ละ สอง ครั้ง, จะ บอก เปน ภาษา
ไทย, ให้ ตัว ท่าน ฟัง ข่าว ต่าง ๆ, ที่ ได้ นำ เอา มา แต่ ทั่ว โลกย์.
หนังสือ บางกอก รึคอเดอ นี้, ได้ เก็บ เหตุ มา แต่ หลาย แห่ง หลาย
ตำบล เช่น ว่า มา นี้, เพราะ มี หนังสือ บอก ข่าว มา แต่ ที่ เหล่า
นั้น, มา ถึง เจ้า ของ บางกอก รึคอเดอ, ๆ จึง ได้ แปล ออก จาก
ภาษา อังกฤษ เปน ภาษา ไทย, ตาม ที่ ได้ เหน ว่า, จะ เปน ประ
โยชน์ แก่ พวก ไทย. อนึ่ง ชาว ประเทศ อเมริกา, แล ประเทศ
ยุรบ นั้น, เขา ได้ อาไศรย หนังสือ จด หมาย เหตุ ต่าง ๆ มั่น คง,
เพื่อ ประสงค์ จะ ได้ ความ รู้ ต่าง ๆ. เขา เข้าใจ ว่า, ถ้า ไม่ ได้
อ่าน หนังสือ จด หมาย เหตุ ต่าง ๆ แล้ว, ก็ ดู เหมือน เปน คน หา
ปัญญา มิ ได้, เปน น่า อาย แก่คน ทั้งปวง นัก. เพราะ เหตุ
ซะนี้, ชาว อเมริกา ชาว ยุรบ จึ่ง ได้ ซื้อ หนังสือ จด หมาย เหตุ
โดยมาก, จะ หาผู้ใหญ่ใด ๆ ที่ มิได้ ซื้อ หนังสือ จด หมาย เหตุ
บ้างนั้นก็หายากนัก. ลาง ครอบ ครัว หนึ่ง, ซื้อ เจ๊ดวัน ฉบับ
หนึ่ง, ลาง ที่ สอง ฉบับ, สาม ฉบับ, เจ๊ด ฉบับ ก็ มี. ด้วย เขา
เข้าใจว่า, อัน หนังสือ จด หมาย เหตุ ต่าง ๆ นี้, เปรียบ เหมือน
กล้อง สร่อง, สำหรับ จะ ช่วย ตา ให้ เหน ใก้ล แล ไกล ได้. ถ้า หา
มี กล้อง สร่อง อย่าง นี้ ไม่, ดุจ หนึ่ง ตาบอด มิได้ เหน เลย.
๏ ราคา หนังสือ บางกอก รีคอเดอ ๚ะ
๏ เมื่อ จะ ขายได้แต่ น้อย เพียง สอง รอ้ย, สาม รอ้ย เล่ม,
คือ เล่ม ละ ๒๖ ใบ, ตี เดือน ละสอง ใบ นั้น, ตอ้ง ขาย เปน เล่ม
ละ ห้า บาท, คือ ปี หนึ่ง ห้าบาท. ถ้า แม้น ได้ เรี่ย ราย ชื่อ คน ที่ จะ
ซื้อ เพียง พัน คน, เปน พัน เล่ม เมื่อไร, เจ้า ของ บางกอก รีคอ
เดอ, จะ ลด ราคา ลง ถึง เล่ม ละ สองบาท เมื่อ นั้น. ถ้า ได้ ชื่อ
สอง พัน คน ที่ จะ ซื้อ, จะ ลด ราคา ลง ถึง เล่ม ละ หก สลึง. เพราะ
การ ที่ ตี พิมพ์ นอ้ย เล่ม นั้น, ก็ ป่วย การ ลง ทุน เสีย เงิน ค่า จ้าง
มาก, แทบ จะ เหมือน กับ ตี พิมพ์ มาก เล่ม เหมือน กัน.
๏ อนึ่ง ถ้า ผู้ ใด จะ ช่วย เสาะหา คน ที่ จะ ซื้อ บางกอก รีคอเดอ
จด หมายเหตุ นี้, ได้ ห้า คน มา ลง ชื่อ เข้า เมื่อไร, ผู้ เจ้า ของ
หนังสือ จด หมาย เหตุ นี้, จะ ให้ เปน รางวัน แก่ ผู้ ที่ ได้ หา ชื่อ คน
นั้น เล่ม หนึ่ง คือ ๒๖ ใบ.
๏ อนึ่ง ถ้า ผู้ ซื้อ เปน คน อยู่ ใน กรุง เทพ ฯ, ข้าพเจ้า จะ
ฝาก จด หมาย เหตุ ให้ เขา เดือน ละ สอง หน. ถ้า เปน คน อยู่ นอก
กรุง ทพ ฯ, บาง ที จะ ฝาก ไป ถึง เขา ก็ ได้, บาง ที ไม่ ได้, ตอ้ง
ให้ เขา ใช้ บ่าว มา เอา เอง ที่ โรงพิมพ์. ๆ ของ ข้าพเจ้า อยู่ ริม ปอ้ม
ปาก คลอง บาง กอก ใหญ่ หลัง วัง กรมหลวง วง ษา.
๏ จดหมาย เหตุ ออก เมื่อไร ๚ะ
๏ ตั้ง แต่ นี้ ไป จดหมาย เหตุ เหล่า นี้, จะ ออก ใน วัน
กลาง เดือน, แล วัน สิ้น เดือน เสมอ ไป เปน นิจ. ผู้ ใด ๆ
ปราถนา จะ ได้ จดหมาย เหตุ ใบ อัน ใด อัน หนึ่ง โดย เรว, ก็ จง
มา เอา ค่ำ วัน กลาง ดือน, แล ค่ำ วัน สิ้น เดือน ก็ ได้,