BANGKOK RECORDER


BANGKOK RECORDER

Vol. 1 เล่ม ๑ บางกอก เดือนเก้า แรม สิบสี่ ค่ำ จุลศักราช ๑๒๒๗ August 21st 1865 คฤษศักราช ๑๘๖๕,ใบ ที่ ๑๒ No. 12.

รูป หัวใจ มนุษ

๏ บัดนี้ จะ ว่า ด้วย ตำรา โลหิต เดิน ใน หัวใจ ต่อ ไป. ใน
จดหมายเหตุใบ ที่ ๑. ได้ สำแดง หัวใจ มนุษ บ้าง เล๊ก น้อย. บัด
นี้ จะ สำแดง ให้ กว้าง ขวาง ต่อ ไป อิก. มี คำ ถาม ว่า, ทำ ไฉน โล
หิต ใน กาย มนุษ จึ่ง เดิน ไป เดิน มา เปน เหตุ อย่าง ไร. ตอบ ว่า,
หัว ใจ มนุษ ที่ ตั้ง อยู่ ใน อก เปน เครื่อง ฉีด เครื่อง สูบ, โล หิต
จึ่ง ไหล จาก หัว ใจ ไป ทั่ว กาย, แล้ว ก็ กลับ เข้า มา สู่ หัว ใจ อีก,
ก็ ฉีด ออก ไป อีก, ไม่ หยุด ดั่ง นั้น. เหมือน กับ เครื่อง ฉีด น้ำ สูบ
น้ำ เข้า ไป, แล้ว น้ำ นั้น ก็ ฉีด ออก ไป แล้ว, ก็ สูบ เข้า มา แล้ว,
ก็ ฉีด ออก ไป ไม่ หยุด. ถ้า หัว ใจ มนุษ นั้น ไม่ ได้ สูบ แล ฉีด โล
หิต ให้ ไหล ไป ไหล มา เสมอ แล้ว, ชีวิตร มนุษ นั้น ก็ จะ ดับ ไป
ใน บัด เดี๋ยว นั้น, ด้วย เหตุ ว่า โลหิต นั้น เปน ที่ ชู ชีวิตร ทั่ว ทั้ง
กาย. ส่วน อาหาร ทั้ง ปวง ที่ มนุษ กิน นั้น, ก็ กลับ กลาย เปน โล
หิต ก่อน, แล้ว ก็ ไหล ซึม ซาบ ไป ทั่ว ทั้ง กาย, เปน เหตุ ที่ จะ
ชู ชีวิตร ไว้. ถ้า อา หาร นั้น มิ ได้ กลับ เปน โลหิต แล้ว, ก็ ไม่
เลี้ยง ชีวิตร ได้ เลย.


['      ค      ง   ง         ช', '', '   จ                          ฉ', '', '      ค    ฆ  ก   ข    ฌ']

๏ ใน หัวใจ มนุษ นั้น, มี เครื่อง สูบ แล ฉีด อยู่ สอง สำรับ
ยึด, อยู่ ด้วย เอ็น ชิด กัน. ใน จด หมาย เหตุ ที่ ก่อน นั้น, เรา ได้
สำแดง หัวใจ สอง อัน ที่ ติด กัน อยู่, ดู เหมือน เปน อัน เดียว เปน
ปรกติ ใน มนุษ อย่าง นั้น. บัดนี้ เรา จะ เปลี่ยน แผ่น ที่, กระทำให้
หัวใจ แยก ออก ไป เปน สอง หัวใจ น่อย หนึ่ง, แต่ ภอ จะ ให้
เหน ว่า, เปน เครื่อง สูบ เครื่อง ฉีด สอง สำรับ, ให้ เปน
ซ้าย ขวา อย่าง แผน นี้. ตัว, ก, นั้น ชี้ หัวใจ ข้าง ขวา.
ตัว, ข, นั้น ชี้ หัวใจ ข้าง ซ้าย. ตัว, ค, ค, นั้น ชี้ โลหิต
ดำ ไหล สู่ ชาน หัวใจ ขวา. ตัว, ฆ, นั้น ชี้ ชาน ขวา. ตัว,
ง, ง, นั้น ชี้ โลหิต ฉีด ออก จาก หัวใจ ขวา, เข้า สู่ ปอด ใน
อก ทั้ง ซ้าย ขวา ถูก ลม หายใจ, แล้ว ก็ เปน ศี แดง ไป. ตัว,
จ, จ, นั้น ชี้ โลหิต ไหล จาก ปอด ทั้ง สอง, ไหล เข้า ไป สู่
ชาน หัวใจ ใน ข้าง ซ้าย. ตัว, ฉ, นั้น ชี้ ชาน ข้าง ซ้าย. ตัว,
ช, นั้น ชี้ คลอง โลหิต แดง ฉีด ออก จาก หัวใจ ซ้าย, ไหล
แยก เปน ทาง ขึ้น ไป ศีศะ บ้าง, แขน บ้าง, แล้ว ก็ เลี้ยว
ลง ตาม กะดูก หลัง, แล้ว ก็ แยก ลง ขา ซ้าย ขวา. ตัว, ฌ,
นั้น ชี้ คลอง โลหิต แดง ที่ ลง มา ตาม กะดูก หลัง นั้น. หัวใจ
ทั้ง สอง ไม่ ได้ ฉีด พร้อม กัน. ข้าง ขวา ฉีด ก่อน. เมื่อ ข้าง ขวา
อยุด, ข้าง ซ้าย ก็ ฉีด, ๆ เปลี่ยน กัน เสมอ อยู่ ไม่ วิปะริต.

๏ หัวใจ อาจ ฉีด ได้, ก็ เพราะ เอ็น นั้น ชัก เข้า จึง ฉีด ได้.
เอ็น มังส ะ หัวใจ นั้น เกี่ยว ประสาน กัน ไป มา. เมื่อ เส้น นั้น ชัก
เข้า, ก็ ให้ หอ้ง โลหิต หุบ เข้า ชิด กัน สนิท ดี, โลหิต ที่ อยู่ ใน
ห้อง นั้น, จึง ฉีด ออก ไป แห้ง หมด. เอ็น หัวใจ ที่ ประสาน ที่
ชัก ข้าง ขวา นั้น ทั้ง เล๊ก ทั้ง อ่อน, เอ็น หัวใจ ที่ ประสาน ที่ ชัก
ข้าง ซ้าย นั้น ทั้ง โต ทั้ง แขง แรง นัก. เปน ไป ดัง นี้ ก็ เพราะ เหน
ว่า เอ็น หัวใจ ที่ ชัก ข้าง ขวา นั้น, ฉีด โลหิต ไป ถึง แต่ เพียง ปอด.
เอ็น หัวใจ ที่ ชัก ข้าง ซ้าย นั้น, ฉีด โลหิต ไป ไกล ทั่ว ทั้ง กาย
ที่ ชาน หัวใจ ทั้ง ขวา ทั้ง ซ้าย นั้น, มี รู ที่ ให้ โลหิต ไหล เข้า ไป.
ใน ห้อง. รู นั้น วัด โดย กว้าง ประมาณ นิ้ว หนึ่ง. ที่ ปาก รู นั้น มี
เนื้อ พั้งผืด เปน กลีบ อยู่ สาม กลีบ ติด อยู่. เมื่อ โลหิต เตม ห้อง
แล้ว มัน ก็ ปิด รู นั้น ไว้, ไม่ ให้ โลหิต ออก ได้. เมื่อ ห้อง นั้น หุบ
เข้า ด้วย เส้น ชัก นั้น ให้ โลหิต นั้น ไหล ออก ไป ทาง อื่น. เหมือน
กับ เครื่อง สูบ ลม นั้น, เมื่อ ลม นั้น เข้า, ก็ เข้า ทาง หนึ่ง, เมื่อ
ออก ก็ ออก ทาง หนึ่ง. ด้วย ทาง ที่ ลม เข้า นั้น, เมื่อ หุบ เข้า
ก็ มี ลูก ลม ปิด ประตู นั้น ไว้, ไม่ ให้ ลม นั้น ออก ได ตาม ที่ เข้า.
บันดา โลหิต ดำ ทั้ง หมด, ก็ ไหล เข้า ไป ใน ชาน ข้าง ขวา, แล้ว
ชาน นั้น ก็ หุบ เข้า, ให้ โลหิต นั้น, เข้า ไป ใน ห้อง หัว ใจ ข้าง
ขวา. ประตู ที่ รู นั้น จึ่ง ปิด. ห้อง หัว ใจ ข้าง ขวา นั้น, จึ่ง รัด
เข้า ให้ โลหิต ฉีด ออก ตาม คลอง ที่ เข้า ไป สู่ ปอด. ครั้น โลหิต
ดำ นั้น ถูก ลม หายใจ ที่ ปอด, ก็ กลับ แดง ขึ้น, แล้ว ก็ ไหล
กลับ มา ตาม คลอง ที่ ตัว, จ, จ, ชี้ นั้น, เข้า ไป สู่ ชาน ข้าง
ซ้าย. ชาน ข้าง ซ้าย นั้น ก็ หุบ เข้า ยัง โลหิต ให้ ลง ไป สู่ ห้อง หัว
ใจ ข้าง ซ้าย. แล รู ชาน ที่ เปน กลีบ ปิด อยู่ สาม กลีบ นั้น, ก็
ปิด มิด. ห้อง โลหิต ข้าง ซ้าย นั้น, จึ่ง รัด เข้า ให้ โลหิต นั้น ไหล
ออก ตาม คลอง ที่ ตัว, ซ, ชี้ นั้น, ให้ ไหล ไป ทั่ว ทั้ง กาย,
เปน ที่ ชู ชีวิตร์ ไว้, เหมือน บิดา มารดา ที่ สงเคราะห์ แก่ ลูก,
ตาม ที่ ลูก ต้อง การ นั้น. โลหิต นั้น ก็ เปน ที่ สงเคราะห์ แก่ กาย
ทั้ง ปวง, คือ ให้ เปน กระดูก, เปน หนัง, เปน เอ็น, เปน เนื้อ,
เปน น้ำ, สารพัด เปน ทั่ว ทั้ง กาย.


เคมมิศทรี บท ๒

๏ ใน ใบ ก่อน นั้น, เรา ได้ ว่า ด้วย อกซุเชน เปน ตำรา เค
มิชะตรี, ได้ ว่า ๆ ลม อากาศ นั้น มิ ได้ เปน สิ่ง เดียว เปน สอง
สิ่ง, คือ อกซุเชน สิ่ง หนึ่ง, นิดโรเชน สิ่ง หนึ่ง. ว่า เปน อกซุ
เชน นั้น ๒๐ ส่วน, ว่า เปน นิดโรเชน ๘๐ ส่วน. เรา ได้ บอก ว่า
ทำ อย่าง ไร จึ่ง จะ ได้ อกซุเชน แยก จาก สิ่ง อื่น, ให้ ออก เหน
ปรากฎ ได้. เดี๋ยว นี้ จะ ว่า ต่อ ไป ว่า ด้วย อกซุเชน นั้น.

๏ ประการ หนึ่ง อกซุเชน นั้น เปน ที่ จะ ยัง ไฟ ให้ ติด. ถ้า แม้น
เครื่อง ไฟ ถ้า ปราศจาก อกซุเชน แล้ว ไฟ ก็ ไม่ ลุก เลย. ถ้า อยาก จะ
รู้ ใน ข้อ นี้ ว่า จะ จริง ฤๅ ไม่ จริง, ก็ จง กระทำ ลม อากาศ ให้ อกซุ
เชน กับ นิดโรเชน ให้ แยก ออก ต่าง กัน ใส่ ไว้ คน ละ ขวด. แล้ว
จึ่ง เอา ไฟ จุด เทียน ใส่ ลง ใน ขวด นิดโรเชน, เทียน ที่ ติด ไฟ
นั้น ก็ จะ ดับ ใน พริบ ตา เดียว. แล้ว เอา เทียน ที่ ไม่ มี เปลว แต่
มี ไฟ ยัง ติด อยู่ ที่ ไส้ เทียน นั้น ใส่ ลง ใน ขวด อกซุเชน, เทียน
นั้น ก็ จะ ลุก เปน เปลว โต ใหญ่ ขึ้น เอง. ใช่ แต่ เท่านั้น, ถ้า จะ
เอา ลวด เหล็ก แล เทียน เล๊ก ๆ ติด ไฟ ติด ไว้ ที่ ปลาย ลวด เหล็ก,
แล เอา ลวด นั้น ใส่ ลง ใน ขวด อกซุเชน, ไฟ ไหม้ เทียน นั้น หมด
แล้ว, ไฟ ก็ จา ไหม้ ติด ลวด เหล็ก นั้น ด้วย.

๏ อนึ่ง คน ทั้งปวง ก็ รู้ ว่า ถ้า จะ พัด ไฟ ๆ ก็ จะ ลุก ขื้น
เรว, แต่ เหตุ ที่ ไฟ ลุก ขื้น นั้น, เขา ก็ มิ ได้ รู้. เหตุ
นั้น คือ อย่าง ไร. คือ อย่าง นี้, คือ ว่า เมื่อ พัด ไฟ นั้น ลม
มัน เข้า เรว กว่า ก่อน, แล อกซุเชน ที่ อยู่ ใน ลม นั้น ได้ เข้า
ถูก เครื่อง ไฟ นั้น มาก ขื้น, จึ่ง กระทำ ให้ ไฟ นั้น ลุก ได้. ถ้า
จะ เอา ลม ที่ ไม่ มี อกซุเชน พัด เข้า ที่ ไฟ นั้น, ไฟ ก็ ไม่ ลุก
เลย, ถึง จะ พัด ไป ยัง ค่ำ ไฟ ก็ ไม่ ลุก. อนึ่ง ถ้า จะ เอา เทียน
ติด ไฟ แล้ว ใส่ ไว้ ใน หีบ ที่ ลม เข้า มิ ได้, แล้ว เทียน มัน ก็ จะ
ไหม้ เสีย กว่า อกซุเชน นั้น จะ หมด, อกซุเชน หมด เมื่อ ไร เทียน
ก็ จะ ดับ เมื่อ นั้น.

๏ ประการ หนึ่ง อกซุเชน นั้น เปน ที่ จะ เลี้ยง ชีวิตร สัตว.
สัตว ทั้งปวง นั้น, ถ้า ไม่ มี อกซุเชน อยู่ ใน ลม หาย ใจเข้า ออก
แล้ว, มัน ก็ จะ ตาย เรว. ถ้า จะ เอา สัตว เล็ก ๆ มี หนู แล
นก เปน ต้น ใส่ ลง ใน ขวด แล บิด ปาก ขวด ให้ มิด, มัน จะ
หาย ใจ อยู่ ได้ กว่า อกซุเชน นั้น จะ หมด. อกซุเชน หมด เมื่อ ใด
มัน ก็ จะ ตาย เมื่อ นั้น. แต่ หาก ว่า ถ้า จะ ใส่ สัตว นั้น ไว้ ใน ขวด
ที่ มี อกซุเชน สิ่ง เดียว สัตว นั้น ก็ จะ มี ชีวิตร นาน อยู่ สัก สาม เท่า.

๏ มี คำ ถาม ว่า, เปน เหตุ อย่าง ไร ที่ อกซุเชน นั้น, จะ
เลี้ยง ชีวิตร สัตว ไว้ ได้. ตอบ ว่า อกซุเชน นั้น เปน ที่
ชำระ โลหิต ให้ สอาด ดี. แรก เดิม โลหิต ที่ ฉีด ออก จาก หวัว
ใจ นั้น, ก็ เปน ศี แดง สอาด บริสุทธิ์, แต่ เมื่อ มัน จะ กลับ
เข้า มา หา หวัว ใจ อีก นั้น มัน ก็ ดำ ไป, ไม่ บริสุทธิ์ เหมือน
แต่ ก่อน. โลหิต ดำ นั้น, มัน เข้า ไป ใน ปอด ภบ กับ ลม
อากาศ ที่ หาย ใจ เข้า นั้น, แล้ว อกซุเชน ที่ อยู่ ใน ลม นั้น ก็ จะ เข้า
ติด กับ เลือด ดำ นั้น, ให้ กลับ เปน ศี แดง. แล เมื่อ หาย ใจ ออก
นั้น, นิดโรเชน ได้ หอบ เอา ของ ที่ ไม่ สอาด ออก ทิ้ง ไว้ ข้าง นอก นั้น.

๏ เรา รู้ ดัง นี้ เปน แน่ ด้วย เหตุ อัน ใด. ก็ รู้ ว่า ด้วย
มี คน หลาย คน, ได้ เอา เลือด ดำ ใส่ ลง ใน ขวด ที่ มี อกซุเชน สิ่ง
เดียว นั้น, แล้ว สั่น ให้ อกซุเชน กับ เลือด นั้น ปน กัน เข้า, สัก
ครู่ หนึ่ง เลือด ดำ นั้น ก็ จะ กลับ เปน ศี แดง งาม บริสุทธิ์, จึ่ง รู้
ว่า อกซุเชน นั้น เปน ที่ จะ ล้าง โลหิต ให้ เปน ดี.


คำ ตอบ หลวง พิไชยวารี

๏ ข้าพเจ้า ได้ ทราบ ความ ตาม ซึ่ง หลวง พิไชยวารี มา ลง
หนังสือ พิมพ์ บางกอก ริคอเดอ นั้น ถี่ ท้วน. แต่ หลวง พิไชย วารี
ยัง ปก ปิด บัง ความ สำคัน ไว้ ข้อ หนึ่ง, คืร ว่า เดิม หลวง พิไชย
วารี ร้อง กล่าว โทษ, พระยา สมบัติยาธิบาน จมื้น ราชดานา หลวง
ภาสิวิเสศ, ว่า ด้วย คบ คิด กัน ฉ้อ เงิน ฉ้อ เหล็ก หลวง, ความ นี้
ทรง ทราบ ใต้ ฝ่า ลออง ธุลี่ พระบาท แล้ว. โปรด เกล้า ตั้ง ตระลา
การ ๔ นาย ให้ ชำระ, แต่ พันหัว เจ้า ท่าน ที่ สมุห์ พระกระลาโหม
เปน ประ ธานา ธิบดี ใน การ นี้, ตระลาการ ชำระ ได้ จำนวน เหล็ก
ของ หลวง ค้าง แล้ว. หลวง พิไชย วารี ทำ เรื่อง ราว มา ยื่น แก่
ตระลาการ ฉบับ ๑, อยู่ อิก ๔ วัน มา ยื่น อิก ฉบับ ๑, รวม เปน ๒
ฉบับ, ความ ฎา กัน เหมือน ที่ ลง หนังสือ พิมพ์, เมื่อ ตระลาการ
นำ ขึ้น กราบ เรียน พัณหัว เจ้า ท่าน ที่ สมุห์ พระกระลาโหม นั้น. พัณ
หัว เจ้า ท่าน พิจารณาดุ โดย ละเอียด, เหน ว่า ไม่ ต้อง ที่ ชำระ, พัณ
หัว เจ้า ท่าน จึ่ง ให้ ศัก หลัง เรื่อง ราว เขียน ด้วย น้ำ หมึก คืน ให้ หลวง
พิไชย วารี ไป, ที่ ศัก หลัง เรื่อง ราว นั้น ว่า.

๏ วัน สุกร์ เดือน ๙ ขึ้น ๕ ค่ำ จุลศักราช ๑๒๓๗ ปี ฉลู สัปต
ศก ตระลาการ นำ เรื่อง ราว หลวง พิไชย วารี ๒ ฉบับ นี้, ขึน กราบ
เรียน พัณหัว เจ้า ท่าน ที่ สมุห์ พระกระลาโหม ทราบ แล้ว. พัณหัว
เจ้า ท่าน มี บันชา ว่า, ไทย จีน ทั้ง หลาย ซึ่ง รับ ทำ ภาสี่ อากร ทั้ง
ปวง นั้น, เพราะ เหน ว่า มี เสศ กำไร จึ่ง ได้ รับ ทำ ตาม พิกัษ เจ้า
พนัก งาน ตั้ง ไว้ นั้น ทุก ๆ ภาสี่ อากร. แล ซึ่ง หลวง พิไชย วารี
ว่า หลวง ภาสี่ วิเสศ รับ ทำ ภาสี่ ตี เหล็ก คิด ฉ้อ หลวง นั้น, หลวง
ภาสี่ วิเสศ ก็ มิ ได้ เปน เข้า พนัก งาร เบิก เงิน จ่าย เงิน. หลวง
ภาสี่ วิเสศ รับ ทำ ภาสี่ ตี เหล็ก ก็ รับ สัญญา พิกัด, ต่อ เจ้า พนัก
งาร ตาม อย่าง เจ้า พนัก งาร ให้ จีน นาย เตา ทำ มา แต่ ก่อน. ถึง
งวด ถึง ปี ก็ ต้อง ส่ง เงิน ภาสี่ ตาม รับ ทำ. จะ ขาด ทุน ได้ กำไร
ก็ อยู่ กับ หลวง ภาสี่ วิเสศ. เรื่อง ราว ๒ ฉบับ นี้ ไม่ ต้อง ที่ ชำระ,
จึ่ง ศัก หลัง คืน เรื่อง ราว ให้ หลวง พิไชย วารี ไป.

๏ ความ ศัก หลัง นี้ ไม่ ชอบ ใจ หลวง พิไชย วารี, ๆ มี ความ
โกรด คลั่ง แทบ จะ เปน บ้า, ปิด ความ ศัก หลัง เรื่อง ราว ไว้.
หลวง พิไชย วารี เอา แต่ ความ ของ ตัว มา ลง พิมพ์, ประกาศ ให้
ท่าน ทั้ง หลาย ทราบ. แต่ ข้าพเจ้า ไม่ เหน ว่า หลวง พิไชย วารี เปน
คน ฉลาด, เหมือน คำ คน ไม่ รู้ การ สรรเสิรญ. ถ้า เปน คน ฉลาด
จริง, ก็คงเอาทั้งความในเรื่อง ราว ทั้ง ศัก หลัง เรื่อง ราว ลง พิมพ์
ให้ หมด. ท่าน ทั้ง หลาย ที่ ได้ อ่าน นั้น จะ ได้ อ่าน พิจารณา ดู.
แล ตระลา การ ชำระ ได้ เงิน หลวง คืน แต่ พระยา สมบัติ ยาธิบาล,
จมื่น ราชนาคา, ๓๓๑๓ ชั่ง นั้น ก็ เปน ความ ชอบ หลวง พิไชย
วารี่. ซึ่ง หลวง พิไชย วารี่ ยัง ถือ โง่ ถือ โกรท แก่ ความ นั้น,
ข้าพเจ้า เหน ไม่ สม กับ เปน คน มี ความ ชอบ เลย.


๏ การ ค้า ขาย ที่ ปีแนง แล มะลกา แล สิงคโปร์

๏ เมือง ปีแนง, แล เมือง มะลกา, แล เมือง สิงคะโปร์, ทั้ง
สาม เมือง นี้ รวม เข้า ด้วย กัน เรียก ว่า, ซะเตรศ เซ็ตเติ้ลเมนต์,
แปล เปน คำ ไทย ว่า, บ้าน เมือง อยู่ ที่ ริม น้ำ ช่อง ทเล แคบ.
เมือง ปีแนง นั้น ขึ้น แก่ เมือง อังกฤษ, เมื่อ คฤช ศักราช ๑๗๘๖
ปี เปน ๗๙ ปี มาแล้ว. มี เมือง ขึ้น แก่ เมือง ปีแนง เมือง หนึ่ง ชื่อ
เวเลศลี่. เมือง ปีแนง เปน เกาะ, เมือง เวเลศลี่ นั้น เปน ฝั่ง
แผ่นดิน. ทั้ง สอง เมือง นี้ อยู่ เคียง กัน. ถ้า จะ วัด ที่ เปน สี่
เหลี่ยม ๆ ละ ไมล์, ก็ จะ ถึง ๓๐๐ เหลี่ยม. แล ไมล์ หนึ่ง นั้น
คือ ๔๐ เส้น หย่อน นิดเตียว. แล ใน เมือง ปีแนง, แล เมือง เว
เลศลี่ นั้น, มี คน อยู่ ๑๒๖๗๐๐. แล การ ค้า ขาย ใน ปี จอ แล
ปี กุน นั้น, เงิน ขา เข้า เปน ล้าน หนึ่ง กับ ๗ แสน ๑๙ พัน สอง
ร้อย ๖๕ เงิน ซะเตอลิง, คิด เปน เงิน เหรียน ประมาณ ๘ ล้าน,
๕ แสน ๙ หมื่น ๖ พัน ๓ ร้อย ๒๕ เหรียน. ขา ออก นั้น ๒ ล้าน
๕ แสน ๖ หมื่น ๘ พัน ๒๗ เงิน ซะเตอลิง, คิด เปน เงิน เหรียน
ประมาณ ๑๒ ล้าน ๘ แสน ๔ หมื่น ๑๓๕ เหรียน. รวม กัน ทั้ง
ขา ออก ขา เข้า, เปน เงิน ๒๑ ล้าน ๔ แสน ๓ หมื่น ๖ พัน ๔๖๐
เหรียน.

๏ อนึ่ง เมือง มะลกา นั้น, ได้ ขึ้น กับ อังกฤษ เมื่อ คฤช
ศักราช ๑๘๒๔ ปี, คือ เปน ๔๑ ปี มาแล้ว. แต่ ก่อน นั้น เปน
เมือง ขึ้น แก่ เมือง ฮอลันด์, ๆ ได้ ยก ให้ แก่ อังกฤษ. ถ้า จะ วัด
ที่ นั้น เปน ท่อน ๆ เปน ๔ เหลี่ยม ๆ ละ ไมล์, ก็ จะ มี ๖๕๐
ท่อน. แล มี คน อยู่ ๗๑ พัน กับ ๖๐๐ คน. การ ค้า ขาย ใน ปี จอ
จัตวาศก, แล ปี กุญ เบญจศก สอง ปี นั้น, ขา เข้า เปน เงิน ๒
ล้าน ๒ หมื่น ๗ พัน ๕๒๐ เหรียน. แล ขา ออก นั้น เปน เงิน
ล้าน ๑ กับ ๗ แสน ๙ หมื่น ๔๐๐๐ เหรียน. คิด รวม ด้วย กัน
ทั้ง ขา เข้า ขา ออก เปน เงิน ๔ ล้าน ๗ หมื่น ๙ พัน ๔๒๐ เหรียน.

๏ เมื่อ แรก ได้ ยก ธง อังกฤษ ตั้ง ขึ้น ที่ เมือง สิงคโปร์ นั้น,
เปน ศกศักราช ๑๘๑๙ ปี, คือ ได้ ๔๖ ปี มา แล้ว. ตั้ง แต่ นั้น มา
เรือ ค้า ขาย เข้าออก ไม่ ต้อง เสีย ค่า ธรรมเนียม. ถ้า จะ วัด ที่ เกาะ
เมือง สิงคโปร์ เปน ท่อน ๆ เปน ตาราง สี่เหลี่ยม, ก็ จะ มี ๒๐๖
ท่อน. มี คน ที่ นั้น ๘ หมื่น กับ ๗๐ คน. การ ค้า ขาย ใน ปี จอ จัต
วา ศก, แล ปี กุญ เบญจศก นั้น, ขา เข้า เปน เงิน ๓๑ ล้าน ๗ แสน
๓ หมื่น ๕๐๐๐ เหรียญ. แล ขา ออก นั้น เปน เงิน ๒๖ ล้าน ๘
แสน ๘ หมื่น ๘ พัน ๗๕๐ เหรียญ. คิด รวม ด้วย กัน ทั้ง เข้า ออก,
เปน เงิน ๕๘ ล้าน ๗ แสน ๒ หมื่น ๓ พัน ๗๕๐ เหรียญ. ถ้า จะ รวม
การ ค้า ขาย ที่ เมือง ปีแนง, แล เมือง มะลกา, แล เมือง สิงค
โปร์, ทั้ง สาม เมือง นี้, รวม เข้า ด้วย กัน ใน สอง ปี นั้น, ขา
เข้า เปน เงิน ๔๑ ล้าน ๖ แสน ๒ พัน ๗๙๕ เหรียญ, ขา ออก
เปน เงิน ๔๑ ล้าน ๖ แสน ๒ หมื่น ๖ พัน ๘๘๕ เหรียน.

๏ อนึ่ง ทั้ง สาม เมือง นั้น, เงิน ภาษี ต่าง ๆ ที่ เก็บ ได้ ใน
๔ ปี นับ แต่ ต้น ปี ระกา ที่ ล่วง มา แล้ว นั้น, เปน เงิน ๓ ล้าน
๓ แสน ๗ หมื่น ๘ พัน ๒๒๕ เหรียน. แล ส่วน เงิน ที่ ใช้ เปน
เบี้ย วรรษ, ฝ่าย ตำแหน่ง พล เรือน ใน สี่ ปี นั้น, เปน เงิน ๒
ล้าน ๓ แสน ๙ หมื่น ๑๓๐ เหรียน. แล ส่วน ตำแหน่ง ฝ่าย ทหาร
ทับ บก นั้น, เปน เงิน ๕ แสน ๗ หมื่น ๒๖๐๐ เหรียน. ฝ่าย
ทหาร ทับ เรือ, ๓๗๒๐๐ เหรียน.

๏ อนึ่ง ใน สาม เมือง นั้น ต้อง ใช้ เงิน รักษา คน โทษ, ประ
มาณ ปี ละ แสน หนึ่ง กับ ๑๒ พัน ๕๐๐ เหรียน. แล คน โทษ
นั้น นับ ได้ ๓๕๐๐ คน.


การค้าขายที่เมืองสิงคโปร์ ในปีกุญ

ขาออก ไปถึงไหน

คิดเปนเงินเหรียญ

ขาเข้า มาแต่ไหน

ถึง เมือง จีน

๑๓๐๖๔๗๙๐

เมือง จีน

๖๔๕๓๓๒๑๐

ถึง เมือง ฮ่องกง

๗๓๖๖๖๕๕

เมือง ฮ่องกง

๖๔๔๔๕๓๕

เมือง มนิลา

๒๗๙๔๓๑๕

เมือง มนิลา

๑๐๘๖๐๘๗๐

เมือง ยี่ปุ่น

๕๔๔๔๙๕

เมือง ยี่ปุ่น

๖๔๑๙๑๕๕

เมือง ชวา

๓๒๖๐๑๒๕

เมือง ชวา

๑๑๒๐๘๕

เมือง ยวญ

๑๙๒๙๘๕



เมือง สยาม

๕๙๗๙๐

เมือง สยาม

๑๐๓๐๓๐

เมือง สิงคโปร์

๗๔๓๔๐๕๐

เมือง สิงคโปร์

๙๕๔๒๖๖๑๐

รวม กัน

๓๓๗๙๗๑๑๕


๙๗๗๗๒๖๐๕



๏ หนังสือ บาญชี ที่ ว่า มา นี้, ได้ คัด ออก จาก หนังสือ จด หมาย เหตุ ที่ เรียก ว่า, ซะเครศไทม์.


๏ การ ค้า ขาย ที่ เมือง ย่าง กุ้ง ๚ะ

๏ ใน สอง ปี ที่ ล่วง มา แล้ว, คือ ปีกุญ เบญจะศก ปีชวด
ฉศก นั้น, เมือง พม่า ได้ ค้า ขาย มาก กว่า, ปี ก่อน นั้น ได้ ๗ ล้าน
กะ ๕ แสน รูเบี้ย เสศ, ที่ สิน ค้า เมือง พม่า ขาย ลง กำปั่น ดี ขึ้น
เช่น ว่า มา นี้, ก็ เพราะ เกิด การ ศึก สงคราม ที่ เมือง อเมริกา,
แล เพราะ ที่ เมือง ไทย ฝน แล้ง เข้า กล้า เสีย ด้วย, สิน ค้า ที่
เมือง พม่า จึ่ง ขาย ดีมี ราคา นัก. หัว เมือง พม่า ที่ พวก มอญ
อย่ นั้น, ใน ปี ระกา ตรี ศก, แล ปี จอ จัตวา ศก นั้น, ราคา สิน ค้า
ที่ ซื้อ ขาย ทั้ง ขา เข้า ขา ออก นั้น, เปน เงิน รูเบี้ย ได้ ๔ ร้อย
๗๐ ล้าน รูเบี้ย เสศ. ใน ปี กุญ เบญจะศก, แล ปี ชวด ฉศก นั้น,
ซื้อ ขาย สิน ค้า ทั้ง ขา เข้า ขา ออก แทบ จะ ถึง ๘๐๐ ล้าน รู
เบี้ย. ใน สอง ปี นั้น แต่ เข้า สิ่ง เดียว ที่ ขาย ลง กำปั่น ได้ ถึง
๑๐ ล้าน เหรียน, แต่ ราคา ฝ้าย สิ่ง เดียว ได้ ขาย ไป จาก เมือง
มอญ ใน สอง ปี นั้น, เปน เงิน ได้ ถึง ล้าน หนึ่ง, กับ ๒ แสน
๕ หมื่น เหรียน. ไม้ สัก ที่ ขาย ใน เมือง มอญ ใน สอง ปี นั้น,
เปน เงิน ได้ ล้าน หนึ่ง กับ ๔ แสน รูเบปีย, แต่ ที่ มลแมง นั้น, ก็
ขาย ไม้ สัก ได้ มาก กว่า เมือง ย่างกุ้ง, แล้ว ราคา ถูก กว่า เมือง
ย่างกุ้ง, ด้วย. ที่ เมือง ย่างกุ้ง นั้น มี น้ำมัน ดิน ขาย ด้วย, แต่ ใน
บ่อ น้ำ มัน ดิน นั้น ไม่ สู้ บริบูรณ เหมือน บ่อ เมือง อเมริก, พ่อ ค้า
จะ รับ ไป ขาย เมือง อังกฤษ ไม่ ได้, เพราะ ที่ เมือง อังกฤษ ได้ ซื้อ
มา แต่ เมือง อเมริก มาก แล้ว ถูก.

๏ แล ที่ เมือง ย่างกุ้ง นั้น, เขา ได้ ซื้อ ม้า มา แต่ เมือง
ฝ่าย เหนือ มาก, แล เคา เวอเมนต์ เมือง พม่า ยอม ให้ ขาย ม้า ไป
เมือง นอก ได้, แต่ โค, แล กระบือ, นั้น ไม่ ยอม ให้ ขาย ไป เมือง
นอก ได้, เพราะ กลัว ว่า เขา จะ เอา มัน ไป ฆ่า กิน เสีย, แล งัว
ควาย ที่ ริม แม่ น้ำ อ่รวดี นั้น, ใน ที่ ประมาณ ๒๐๐ ไมล์ นั้น ดู
มาก นัก งาม ดี, น่า ซื้อ ดี กว่า งัว ควาย ใน แว่น แคว้น เมือง
บังกล่า มาก. แต่ เคา เวอเมนต์ ไม่ ยอม ให้ ชาติ อังกฤษ ซื้อ ขาย
ไป นอก เมือง. ถ้า จะ ขอ ให้ ท่าน มี หมาย ประกาศ ยอม ให้ ซื้อ
ไป ขาย เมือง นอก, ท่าน คง จะ สั่น เศียร แล้ว ตอบว่า, จะ ให้
เรา ยอม ฆ่า สัตว เหล่า นั้น, ซึ่ง มิ ได้ ทำ การ ชั่ว แก่ เจ้า ฤๅ.
เรา จะ ยอม ให้ มิ ได้. ก็ ควร ที่ เรา จะ รักษา มัน ไว้ มิ ให้ ใคร ฆ่า.
โทษ เพราะ ฆ่า งัว ตัว เมีย ใน เมือง พม่า นั้น โทษ ถึง ตาย. แต่
ทว่า ถ้า จะ ถ่าย โทษ ผู้ ฆ่า งัว ก็ ถ่าย ได้ ด้วย เงิน ค่า เก้า ตัว.

๏ ความ นี้ ฅิด ออก จาก จดหมาย เหตุ ที่ ณเมือง ย่างกุ้ง,
เรียก ว่า แรงคุลไทม์, ๚ะ

๏ ข้าพเจ้า ผู้ เปน เจ้า ของ หนังสือ จดหมายเหตุ นี้, พี่
เคราะห์ ดู เหน ว่า ชาว เมือง ไทย นับ ถือ ชีวิตร วัว ควาย ก็ เหมือน
ชาว พม่า เหมือน กัน. ถ้า จะ ซื้อ วัว ควาย ไป ขาย เมือง นอก ก็ เปน
ไม่ ได้ เหมือน กัน, เพราะ ฝูง ราษฎร กลัว ว่า เขา จะ เอา ไป ฆ่า กิน
จะ เกิด โทษ แก่ ตัว. ข้าพเจ้า เหน การ นี้ ผิด ปลาด. เหตุ ใด จึง มิ
ได้ กลัว การ ที่ ฆ่า หมู เปต ไก่ ปลา ให้ เหมือน กัน เล่า. ถ้า จะ คิด
แก้ ตัว ว่า เปน แต่ สัตว เลก ไม่ สู้ มี คุณ เหมือน วัว ควาย, ข้าพเจ้า
เหน ว่า จะ แก้ ไป ไม่ ไหว. คำ ที่ พุทธ ศาสนา ห้าม ว่า มิ ให้ ฆ่า
สัตว นั้น, รวบ เอา สัตว เลก สัตว ใหญ่ เหมือน กัน มิ ใช่ ฤๅ ทำ
มดา วิไสย สัตว เดรฉาน ทั้งปวง ย่อม รัก ชีวิตร เหมือน กัน. ถ้า
ควร จะ ไม่ ยอม ให้ ฆ่า วัว ควาย, ก็ ไม่ ควร จะ ยอม ให้ ฆ่า สัตว อื่น
เหมือน กัน. แล ไม่ ควร ที่ เคาเวอแมนต์ จะ ยอม ให้ คน ไป ทอด
แห ตก เบด เอา ปลา มา ขาย มา กิน เลย,แล ไม่ ควร จะ ยอม ให้
เจ็ก ฆ่า หมู ฆ่า เปตุ ไก่ ขาย เลี้ยง ชีวิตร เลย. และ ผู้ ได ได้ ซื้อ
เนื้อ สัตว ที่ เขา ฆ่า นั้น,ก็ เหมือน คน ผู้ นั้น เปน คู่ คิด การ กัน. ถ้า
ไม่ มี ผู้ ซื้อ กิน จะ ไม่ มี ผู้ ฆ่า ขาย. และ ผู้ ที่ กิน เนื้อ สัตว นั้น,
ทั้ง ผู้ใหญ่ น้อย ทั้ง พระสงฆ์ แล คฤหัส, ก็ จัด ได้ ชื่อ ว่า เปน คน
ช่วย ฆ่า สัตว เหมือน กัน. ดุจ คน ที่ ซื้อ จดหมาย เหตุ นี้, ได้ ชื่อ ว่า
เปน คน ช่วย ใน การ ตี หนังสือ จดหมาย เหตุ ขาย เหมือน เช่น นั้น.

๏ แต่ พวก ชาติ ยุรบ ทั้งหลาย ก็ เหน พร้อม ใจ กัน ว่า, ท่าน
เจ้า ของ โลกย์ ไม่ ได้ ห้าม การ ที่ ฆ่า สัตว เดียรฉาร, แต่ ได้ บัน
ดาน ให้ เกิด ขึ้น, แล ได้ มอบ ไว้ แก่ มนุษ, เพื่อ จะ ให้ มนุษ ซื้อ
ขาย กัน ตาม ที่ จะ เหน ว่า จะ เปน ประโยชน์ มาก. พวก ชาติ
ยูรบ ก็ เหน ว่า, เนื้อ งัว นั้น เปน อาหาร ชอบ แก่ ชีวิตร มนุษ โดย
มาก. แล คน ทั้งปวง ชอบ ใจ ซื้อ กิน ด้วย, จึ่ง เลี้ยง งัว ไว้ ให้
อ้วน ภี, เพื่อ จะ ขาย แก่ ผู้ ซื้อ, จำเพาะ เอา ไป ฆ่า ให้ เปน อาหาร

๏ ใน คฤษ ศักราช ๑๘๖๙ ปี เดียว นั้น, ใน เมือง อเมริกา
เนื้อ งัว ที่ เขา ได้ ฆ่า ขาย นั้น, เปน เงิน แทบ จะ ถึง ๑๑๒ ล้าน
เหรียน. จึ่ง เปน ประโยชน์ แก่ บ้าน เมือง มาก. ถ้า เคาเวอแมนต์
ไทย จะ ยอม ให้ พวก ราษฎร เลี้ยง งัว ซื้อ ขาย ไป เมือง นอก แล้ว,
ไม่ ช้า ไม่ นาน ก็ จะ เกิด เปน ประโยชน์ ใหญ่ แก่ เมือง ไทย มาก.
ที่ จะ กลัว ว่า การ นั้น, จะ เกิด บาป มาก กว่า การ อื่น หา ควร ไม่.
ถ้า เกิด บาป มาก กว่า การ อื่น, ทำไม จึ่ง ไม่ เหน บาป นั้น ปรากฏ
ใน ประเทศ ยุรบ แล อเมริก เล่า. แล เมือง ไทย เมือง พม่า ที่
ได้ ถือ ใน ข้อ ที่ ห้าม มิ ให้ ฆ่า สัตว เดียรฉาน ฉะนั้น ครัด เคร่ง นัก,
ทำไม ไม่ เหน เปน เมือง มี บุญ มาก กว่า เมือง อื่น ๆ ทั้งปวง เล่า.

๏ ความ ควาย ตาย เมือง พม่า ๚ะ

หนังสือ จดหมาย เหตุ เมือง ย่างกุ้ง, ณวัน เดือน แปด ขึ้น
แปด ค่ำ ว่า, กระบือ ที่ เมือง พม่า กำลัง ตาย มาก, เพราะ เจ้า ของ
นั้น ได้ ใช้ การ เกิน ประมาณ, พิเคราะห์ ดู เหน จะ ไม่ ใช่ ตาย ห่า,
พวก พม่า เปน คน มี ใจ เมตา แก่ สัตว ของ ใช้ นั้น มาก. จึ่ง เหน
ว่า, ข้อ ที่ ควาย ตาย เหลือ เกิน นั้น, เปน ความ ผิด ปลาด อยู่.


๏ การบูร เกิด ที่ เมือง ไทย ๚ะ

๏ มิศเตอ อี.โอ.ไรลี่ ที่ เปน ขุนนาง ฝ่าย อังกฤษ เมือง พม่า
นั้น, มี หนังสือ เปน ใจ ความ ว่า, ต้นไม้ ที่ เกิด การบูร มี
อยู่ ที่ แดน เมือง สยาม ทิศ ตวันตก, ใกล้ เมือง พม่า นั้น มาก
นัก. ต้น ที่ งอก ขึ้น มา แรก เมื่อ เผา ป่า แล้ว นั้น, ก็ เปน
ต้น การบูร อย่าง หนึ่ง มี มาก กว่า ต้นไม้ อื่น ๆ ทั้งปวง. มิศเตอ
อี.โอ.ไรลี่ ได้ ทำ การบูร แต่ ไม้ นั้น ลอง ดู, แล้ว ได้ ฝาก การบูร
แล ต้น การบูร เล็ก ๆ นั้น, ไป ให้ ถึง หมอ ที่ เมือง เซอร่ำโปร์
ชื่อ ว่า รอยต์ เพื่อ จะ ให้ หมอ นั้น ลอง ดู, เพราะ เขา ชำนิ ชำ
นาญ ใน วิชา ดู ต้นไม้ ทั้งปวง. หมอ นั้น พิจารณา ดู เห็น ว่า,
เปน ต้น การบูร อย่าง ใหม่ ๆ อยู่ ใน พวก ต้นไม้ เรียก ว่า บลูเมี่ย,
ใน พวก ไม้ นั้น มี หลาย อย่าง, เกิด ที่ เมือง ทวาย แล เมอคิว
เปน อัน มาก. เปน การบูร อย่าง ดี อยู่, แต่ เมื่อ ฟอก ชำระ
ให้ บริสุทธิ์ นั้น, ได้ เนื้อ ๓ ส่วน, เสีย ส่วน หนึ่ง. แล การบูร
เมือง จีน นั้น, ใน ๑๐๐ ส่วน, เสีย ๑๘ ส่วน, คือ เกือบ ได้
สี่ ส่วน, เสีย ส่วน หนึ่ง, ผิด กัน แต่ เท่านั้น. มิศเตอ อิ.โอ.ไรลี่
เหน ว่า ต้น การบูร อย่าง นี้ ปลูก ง่าย, จะ กลั่น ซัก เนื้อ การบูร
ออก จาก ต้น นั้น ก็ ง่าย ด้วย. ถ้า จะ จัด แจง ให้ เปน สิน ค้า ใหญ่
ก็ ทำ ได้, การบูร ที่ ทำ ได้ นั้น, เมื่อ ชำระ แล้ว ก็ ดี สู้ การบูร
เมือง จีน ได้.

ปีโตรลี่อำคือ น้ำมัน ดิน

๏ ครั้ง กาล ที่ ล่วง ไป แล้ว ได้ ห้า ปี หก ปี มา นี้, มี น้ำมัน
ดิน อย่าง หนึ่ง ที่ ชาว อังกฤษ ร้อง เรียก ชื่อ ว่า, ปี โตรลี่อำ, ได้ บัง
เกิด ขึ้น ใน แผ่นดิน มณฑล ยูไนติศ เตศ อะเมริกา, เปน ประ
โยชน์ แก่ ชน เมือง เปน อัน มาก. ดี กว่า น้ำมัน อื่น ๆ ที่ คน ทั้ง
หลาย ใช้ มา แต่ ก่อน. แล ชาว นคร ประเทศ นั้น ได้ ใช้ น้ำมัน
ปี โตรลี่อำ ใน การ ทำ ซะติม เรือ จักร กล ไฟ, แล ใช้ ใน การ
ฟอก หนัง บ้าง. ด้วย เขา เห็น ว่า ดี กว่า น้ำมัน ที่ เคย ใช้ สอย กัน
มา. แล เขา ก็ ใช้ ใน การ อื่น ๆ ดุจ ดุ้น ฟื้น แล ถ่าน, เพราะ ว่า
น้ำมัน นั้น มี ราคา ถูก กว่า ฟืน แล ถ่าน. ถ้า ว่า ผสม กัน เข้า กับ
ยางไม้ อังกฤษ เรียก ชื่อ ว่า, อินดีอาระเบอ. ก็ อินดีอาระเบอ นี้
เมื่อ ทา หนัง เข้า แล้ว, หนัง นั้น จะ เลื่อมใสย เปน มัน, แล น้ำ
จะ ทราบ เข้า มิ ได้. ฤๅ จะ ใช้ ปน กัน เข้า กับ สี่ผึ้ง ทำ เปน เทียน
ก็ ขาว เหมือน เทียน ปลา วาน, ราคา นั้น ก็ ย่อน กว่า กัน ดว้ย.
ฦๅ จะ ใช้ ทำ เปน ชะบู่ ชนิด ดี ก็ ได้. ฦๅ จะ ทำ เปน ไฟ แคศ ๆ
นั้น จะ มี แสง สว่าง รุ่ง เรือง ชัชวาล สุก ใส ดี กว่า ไฟ แคศ ที่ เขา
ทำ ด้วย ถ่าน หิน แล ไม้, ราคา นั้น ก็ เยา กว่า กัน กึ่ง หนึ่ง. ฦๅ
จะ ทำ เปน หมึก สำรป ตี พิมพ์ หนังสือ ก็ ได้. ฦๅ จะ ใช้ ใน เตา
ทำ เปน ฟืน หุง เข้า, ไฟ นั้น ก็ จะ มี รัศมี รอ้น ยิ่ง กว่า ไฟ ติด ดว้ย
ฟืน ตาม ธรรมเนียม. ก็ น้ำมัน ดิน อย่าง นี้ มี บริบูรณ มาก หนัก,
ถึง คน จะ ขุด ตัก เอา สัก เท่า ใด ฦๅ, ก็ ไหล ออก อยู่ เสมอ ไม่ รู้
สิ้น สุด เลย.

ความ คัต ข้อง

๏ คลอง ตะพาน หัน กว้าง ประมาณ ๗ วา, ตั้ง แต่ ปาก
คลอง เข้า ไป ถึง ตะพาน หัน, เรือ ลูก ค้า ลำ ใหญ่ ๆ จอด ซอ้น
ลำ กัน ออก มา ค่อน คลอง สี่ ลำ ห้า ลำ จน คลอง แคบ. มี ช่อง
เรือ เดิน อยู่ ประมาณ ห้า ศอก บ้าง, หก ศอก บ้าง, เจ๊ด ศอก บ้าง.
เรือ เข้า ออก โดน กัน แตก หัก วิวาท กัน อยู่ เนือง ฦๅ. คลอง ก็ ตื้น
ขึ้น กว่า แต่ ก่อน เปน อัน มาก, เพราะ เรือ จอด ประจำ ที่ อยู่, ทิ้ง
ยาก เยื่อ แล อะรัย ฦๅ ลง ใน คลอง ๆ เปน ที่ อาไศรย เรือ แจว เรือ
พาย ไป มา ทั่ว กัน, ซึ่ง ลูก ค้า มา จอด ค้า ขาย หา ประโยชน์ แก่
ตน ฝ่าย เดียว นั้น หา ควร ไม่. ทำ ให้ เสีย ประโยชน์ แก่ ท่าน ผู้
อื่น เปน อัน มาก, ประโยชน์ แผ่นดิน ก็ ไม่มี. ดู เหมือน คลอง ไม่
มี เจ้า ของ. ครั้น คลอง ตื้น มาก ขึ้น เงิน แผ่นดิน ก็ จะ ต้อง ออก
จ้าง คุก คลอง.

ความ ขบถ ใน กรุง เทพ ฯ

๏ อนึ่ง ความ ที่ ฦๅ กัน ใน กรุง เทพ ฯ ว่า, มี อ้าย พวก จีน
คิด ขบถ ใน ประเทศ สยาม หลาย ร้อย หลาย พัน คน นั้น, เรา พิจา
รณา เห็น ว่า มี ความ จริง บ้าง มี ความ เทจ มาก. ซึ่ง ฦๅ ว่า เคาเวอ
เม็นต์ สยาม จับ เจ็ก คน หนึ่ง, แล ขับ ไล่ เสีย จาก ประเทศ ไทย
ใส่ โซร ตรวน ให้ ลง กำปั่น ชื่อ คาศ ตล เปน บาก สยาม, แล กั๊ป
ตัน ชื่อ คอดลิบ มี คำ เคาเวอ เม็นต์ สั่ง ให้ ไป ปล่อย เสีย ที่ เมือง
จีน นั้น เห็น จะ จริง. แต่ ที่ เขา ฦๅ กัน ว่า ได้ สำเร็จ โทษ อ้าย ขบถ
จีน หลาย หน นั้น ไม่ เห็น จริง เลย.

๏ ซึ่ง เคาเวอเม็นต์ สยาม ได้ ปิด ความ นั้น ไว้, ไม่ ยอม ให้
ฝูง ราษฎร รู้ ความ ที่ จริง, ก็ ดู เปน ไม่ ดี. เหตุ เพราะ เคาเวอ
เม็นต์ ปิด ความ ไว้ เช่น นั้น, พวก อาณา ประชา ราษฎร จึ่ง พูด
กระซิบ กัน เหมือน จะ เปน ความ น่า กลัว นัก. ฝูง ชน ทั้ง ปวง
จึ่ง แตก ตื่น เสีย เปล่า ๆ. แล การ ที่ เคาเวอเม็นต์ ปิด ความ ไว้
นั้น, ดู เหมือน เคาเวอเม็นต์ จะ กลัว สว่าง, จึ่ง ไม่ ชอบ ใจ ให้
ออก มา ปรากฎ. มี คำ สุภาษิต ว่า, ผู้ ใด กระ ทำ การ บาบ ก็ ย่อม
ชัง สว่าง หา ได้ มา ถึง สว่าง ไม่, กลัว เกลือก ว่า การ ของ ตัว
จะ ปรากฎ. แต่ ผู้ ที่ กระ ทำ การ สัจ ก็ ย่อม มา ถึง สว่าง, เพื่อ จะ
ให้ การ ของ ตน ปรากฎ ว่า ได้ กระ ทำ การ นั้น ใน พระเจ้า.

๏ เหตุผล ประการ ใด, นาย กอง ตเวน จึ่ง ได้ นิ่ง เสีย,
หา ได้ ลง พิมพ์ ตาม การ ตเวน ซึ่ง มี ธรรมเนียม ลง แต่ ก่อน นั้น
ไม่ เล่า. จะ เปน เพราะ เคาเวอเม็นต์ สยาม ห้าม แล้ว ฦๅ. ถ้า
เปน อย่าง นั้น จริง, ก็ เพราะ เหตุ อะไร, เคาเวอเม็นต์ จึ่ง ได้ ห้าม
เล่า. กลัว สว่าง จะ ส่อง เข้า มาก เกิน ฦๅ.

๏ พวก ขบถ ยืม เงิน เมือง อังกฤษ ๚ะ

๏ พวก ชน ที่ อยู่ ฝ่าย บูรพทิศ มี คำ สุภาสิต ว่า, ความ แช่ง
ชัก นั้น, มัก กลับ มา ที่ อาไศรย นอน, เหมือน ลูก ไก่ ทั้งหลาย ที่
อาไศรย นอน อยู่ กับ แม่ นั้น. บัดนี้ คำ สุภาสิต นั้น, สำเร็จ ใน เมือง
อังกฤษ แก่ คน ทั้งหลาย, ที่ ใจ เข้า ด้วย พวก ขบถ เมือง อเมริก,
จึ่ง ให้ เขา มา ยืม เงิน ของ ตัว นั้น. พวก เจ้า นาย แล เสรฐี ทั้ง
หลาย ที่ เมือง อังกฤษ นั้น, บัดนี้ ก็ บัง เกิด ความ เศร้า หมอง ใจ
นัก. แล้ว แช่ง ชัก สาบาน กัน, เปรียบ เหมือน พ่น อากาศ เขียว
ไป ด้วย ความ ที่ แช่ง กัน. เมื่อ เขา ได้ ยิน ข่าว ว่า กอง ทับ เชนนิ
เร้ล ลี ยอม แพ้ แก่ เยนนิเร้ล เครนต์, เขา จึ่ง รู้ ว่า ความ ที่ หวัง
ใจ ว่า พวก ฝ่าย ใต้ จะ ได้ ชะนะ พวก ฝ่าย เหนือ นั้น, ก็ เสีย ไป
เสีย แล้ว. เงิน ที่ เขา ให้ ยืม ไป นั้น เปน หลาย สิบ ล้าน เหรียน,
จะ ไม่ ได้ คืน เลย สัก อัฐ เดียว. เขา จึ่ง โกรธ ตัว เอง, แล
โกรธ ผู้ ทำ หนังสือ จดหมาย เหตุ อังกฤษ ต่างๆ ที่ ได้ เอา ข่าว เท็จ
เมือง อเมริกา มา กล่าว ให้ เชื่อ, จึ่ง มี ใจ ให้ พวก ขบถ มา ยืม
เงิน ของ ตัว ไป เสีย. ความ ที่ เสรฐี แล เจ้า นาย เมือง อังกฤษ,
พวก ที่ เรียก ว่า อาริศซโตเกรศ เศร้า หมอง ใจ หนัก นั้น, เปน ที่
บอก ความ ว่า, เขา อยาก จะ ให้ เมือง อเมริกา ฝ่าย เหนือ นั้น,
เสีย ที แก่ ฝ่าย ใต้, แล บอก ว่า เขา เสีย ทรัพย์ เปล่า ๆ ใน การ ที่
ช่วย พวก ขบถ นั้น มาก น้า. พวก อังกฤษ ที่ เข้า ด้วย พวก
ขบถ นั้น, การ ของ เขา หัก ส้ม แทบ ทุก คน. การ ที่ หัก ส้ม
นั้น บาง ที ก็ กู้ ขึ้น ได้, แต่ ความ ที่ ปราถนา ให้ เมือง อเมริกา เสีย
แก่ พวก ขบถ นั้น ก็ ไม่ ได้, เป็น อัน ขาด ที เดียว. ใน ทุก วัน นี้
ความ ที่ ครอง เมือง ตาม อย่าง รีบับลิก มี กำลัง มาก ขึ้น กว่า แต่
ก่อน น้า, แทบ จะ ไม่ มี เมือง สู้ ได้ เลย. แต่ การ ที่ ทัพ ฝ่าย เหนือ
ได้ ความ ชะนะ อัน รุ่ง เรือง นั้น, มิ ได้ เกิด อัศจรรใจ ที่ เมือง อง
กฤษ มาก, เหมือน อย่าง ที่ เกิด เพราะ เงิน ที่ ไม่ รู้ น้อย ไป,
ข้าง ฝ่าย เหนือ นั้น. แต่ ทุก วัน นี้ เมือง อังกฤษ แล เมือง ทั้ง ปวง
ทั่ว ประเทศ ยูรป ก็ รู้ ว่า, เคาเวอเม็นต์ ที่ เป็น รีบับลิก, เหมือน
อย่าง เมือง ยูไนติษเตศ นั้น, เป็น เคาเวอเม็นต์ อัน เข้ม แขง ยิ่ง
กว่า เคาเวอเม็นต์ อื่น ๆ ทั้ง ปวง สิ้น. แล ความ ที่ ไว้ ใจ ใน การ
ใช้ เงิน แล ยืม เงิน แห่ง เคาเวอเม็นต์ นั้น แน่น หนา มั่น คง นัก,
หา มี เมือง อื่น ๆ ที่ การ ใช้ เงิน ยืม เงิน จะ มั่น คง กว่า นี้ ก็ มิ ได้.

๏ ความ เป็น หนี้ แห่ง เมือง อเมริกา ๚ะ

๏ บัด นี้ ความ เป็น หนี้ แห่ง เมือง อเมริกา, นับ ประมาณ
ถึง ๓๐๐๐ ล้าน เหรียน. มี ข่าว มา ว่า พวก เศรษฐี ที่ เมือง อเมริกา,
คิด อ่าน จะ เรี่ย ราย เงิน ที่ เมือง อเมริกา เอง, ใน สอง ปี สาม ปี
ใช้ หนี้ นั้น ให้ เสร็จ. จึง จัด แจง แบ่ง หนี้ นั้น ออก เป็น ๓ แสน ส่วน ๆ
ละ ๑๐ พัน เหรียน. พวก เศรษฐี นั้น, บาง คน รับ เอา ส่วน หนึ่ง,
บาง คน ก็ รับ เอา สอง ส่วน, บาง คน ก็ ๔ ส่วน, บาง คน ก็ ๑๐
ส่วน. มี เศรษฐี อีก ๒๔ คน, เขา รับ เอา คน ละ สอง ส่วน. ยัง มี
เศรษฐี ๘ คน เขา รับ เอา คน ละ ๔ ส่วน. มี เศรษฐี สอง คน รับ เอา
คน ละ ๑๐ ส่วน. มี คน หนึ่ง ชื่อ คานิเลียด วันเตอบิลล์, เป็น ช่าง
ต่อ กำปั่น ที่ เมือง นิว ยอก, เขา รับ เอา ๕๐ ส่วน เป็น เงิน ๕ แสน
เหรียน. มี ข่าว มา ว่า ได้ เรี่ย ราย เงิน ถึง ๒ ล้าน เหรียน แล้ว.
ดู เหมือน เขา จะ เรี่ย ราย ได้ เงิน ใช้ หนี้ เมือง อเมริกา ให้ สำเร็จ โดย
เรว. ถ้า การ นี้ จะ ไป ได้ ตลอด ก็ คง จะ เป็น การ อัศจรรย์ ใหญ่ ยิ่ง
นัก. อัน เรื่อง ราว ใน โลกย์ นี้ จะ ไม่ มี เหมือน เลย. แม้น จะ เรี่ย
ราย เงิน ใช้ หนี้ เมือง เมริกา มิ ได้, ความ หนี้ นั้น คง จะ สูญ หาย ใน
ราง ยี่ สิบ ปี, โดย เงิน ภาษี ที่ เก็บ ตาม พี่กัด ทุก วัน นี้. มี บาง
จำพวก ใน อเมริกา คิด เห็น ว่า, หา ควร ที่ พวก เรา จะ ใช้ หนี้ ใน การ
นี้ ไม่, เพราะ เรา เล่า ได้ ลง ทุน ใช้ ใน การ ศึก สงคราม นี้ มา ก็
มาก อยู่ แล้ว, ควร ที่ บุตร เรา เขา จะ เอา ใจ ช่วย สงเคราะห์ แก่
เมือง ต่อ ไป. เขา คง จะ ได้ เกี่ยว เก็บ ความ ประโยชน์ เพราะ
สงคราม ที่ สิ้น เสร็จ นี้ มาก ยิ่ง กว่า พวก เรา อีก, จึง ควร ที่ เขา
จะ เอา เปน ธุระ ใช้ นี่ นั้น.


๏ อย่า ให้ ผู้ ใด คิด ว่า, เมือง ที่ เปน นี่ มาก เปน สาม พัน
ล้าน เหรียน จะ จำเริญ ขึ้น มิ ได้. ฝ่าย เมือง อังกฤษ เขา ได้ เปน
นี่ มาก กว่า นั้น นาน มา แล้ว, แล ยัง มิ ได้ ใช้ นี่ นั้น, แต่ มี
ความ จำเริญ มา ตราบ เท่า ทุก วัน นี้.

เงิน ใช้ นี่ เมือง อเมริกา

๏ ธรรมดา เมือง ทั้งปวง, เมื่อ ทำ การ สงคราม ใหญ่ เปน
หลาย ปี, ครั้น การ ศึก เสร็จ แล้ว ก็ ตอ้ง จำ ขัดสน ดว้ย เงิน แล
ออ่น กำลัง ลง นัก. แล ต้อง ยืม เงิน แต่ เมือง อื่น ต่าง ๆ, เพื่อ จะ
ได้ ใช้ นี่ ของ ตัว. แต่ ทุก วัน นี้ ใน เมือง อเมริกา นั้น, เปน อัศ
จรรย์ หา เปน ไป ตาม ธรรมเนียม ไม่. ถึง ได้ ทำ การ ศึก สงคราม
อยู่ สี่ ปี เศษ เปน สงคราม ใหญ่ ยิ่ง, แต่ ก่อน มา ไม่ มี สงคราม
อื่น จะ ใหญ่ เหมือน, ยัง มี เงิน อยู่ ใน เมือง บริบูรณ, ไม่ ตอ้ง ยืม
เงิน แต่ พวก เมือง นอก เลย. ชาว เมือง อเมริกา ให้ เคาเวอเมนต์
ยืม เงิน ของ ตัว เอง, ใน ๖ วัน เคาเวอเมนต์ อเมริกา ได้ ยืม เงิน
แต่ ชาว เมือง นั้น. ถึง ๙๘ ล้าน ๓ แสน ๘ หมื่น ๔ พัน ๖๕๐
เหรียน. แล้ว เคาเวอเมนต์ เห็น ได้ เงิน ง่าย ดัง นั้น, จึง จัด แจง
เพื่อ จะ ได้ ยืม เงิน แต่ ชาว เมือง อเมริกา อีก ๒๓๐ ล้าน เหรียน.
จึง มี คน ให้ ยืม ตาม ราย นั้น, ใน วัน แรก วัน เดียว มี คน ให้
ยืม เงิน ถึง ๖ ล้าน เหรียน, แล ใน วัน ที่ สอง ได้ อีก ๑๗ ล้าน
เหรียน, ใน วัน ที่ สาม ได้ อีก ๑๕ ล้าน เหรียน, แล ใน วัน ที่ สี่
ได้ อีก ๓๐ ล้าน เหรียน.

เมือง ฝรั่งเสศ กับ ประเทศ อเมริกา

๏ หนังสือ จด หมาย เหตุ ที่ เมือง ฝรั่งเสศ, มี ชื่อ ว่า อาว
เนวแนชันแอล์, ได้ กล่าว คำ สรรเสิญ เปรศซีเต็นท์ ลิงกัน นัก, แล
ได้ สรรเสิญ เคาเวอเมนต์ ที่ เมือง อเมริกา ว่า, เมือง ยูไนติศ
เตศ เปน เมือง ที่ ให้ ฝูง ราษฎร เปน ฟรี, คือ มี อิสรภาพ แก่ ตัว,
มาก กว่า เมือง อื่น ทั้งปวง, แล เปน เคาวะเมมต์ ประกอบ ไป
ดว้ย ความ เมตา, แล กำลัง ใหญ่ กว่า เมือง อื่น ทั่ว ตลอด โลกย์.

ความ ที่ เมือง อเมริกา ได้ ที่ สรรเสริญ มาก นั้น, ก็ เพราะ ความ
ปัญญา ที่ ชาว เมือง ทั้งปวง ได้ ใช้ ใน การ ที่ ตั้ง เมือง มั่น คง ไว้
ใน ความ ลิเบอติ, คือ ความ อิศรภาพ แก่ ตัว ฉนั้น. เมือง อื่น
อัน ทั้งปวง ที่ มี กำลัง ภอ จะ ปราบปราม ความ ขบถ ใหญ่ ให้ ราบ ลง
นั้น ก็ มี มาก, แต่ เมือง ที่ จะ ให้ ความ ลิเบอติ ของ ตัว มี กำลัง
ขึ้น เมื่อ ได้ ความ ชะนะ ไว้ แล้ว, แล ที่ จะ ได้ รักษา ลิเบอติ, ด้วย
กฎหมาย เปน อัน ดี เข้ม แขง, อัน จะ หัก ทำลาย มิ ได้ นั้น, เปน
ความ ลับ ที่ ใน พวก โบราณ, ไม่ มี ผู้ ใด รู้ จัก, แล ที่ ชาว ประ
เทศ ยูรบ ได้ รู้ แต่ น้อย นัก, แล ที่ พิภพ ใหม่, คือ เมือง อเมริกา
ได้ แพร่ง พราย แก่ พิภพ เก่า คือ ประเทศ ยุรบ, แล แก่ ประเทศ
อาเซีย นั้น. นี้ แล เปน ที่ คัด ออก จาก หนังสือ จดหมาย ฝรั่งเศศ
นั้น. เหน ที่ ชาว เมือง ฝรั่งเศศ จะ เหน พร้อม ใจ กัน โดย มาก.
แต่ เมื่อ กำลัง ชาว อเมริกา รบ กัน อยู่ นั้น เขา คิด สงไสย อยู่ ว่า,
เมือง อเมริกา จะ เสีย แก่ ฆ่า ศึก ดอก กระมัง, ถ้า เสีย แล้ว ก็
หา ควร จะ สรรเสริญ เคาเวอเม็นต์ รีปับลิก ไม่. เมื่อ ได้ เหน รีปับ
ลิก ได้ ไชย ชะนะ อัน รุ่งเรือง แล มี ความ สุข จำเริญ ต่อ ๆ มา
นั้น, ใช่ จะ สรรเสริญ แต่ ประเทศ ฝรั่งเศศ เมือง เดียว หามิได้,
ฝ่าย ประเทศ ยุรบ ทั้ง สิ้น ก็ กลับ มา สรรเสริญ เหมือน กัน.

ความ ทเลาะ กัน ที่ ใน ป่า เมือง เชียงใหม่

๏ มี คำ พม่า ฟ้อง ฝ่าย อังกฤษ, ที่ ไป ตัด ไม้ ขอน สัก ณะ
ป่า เมือง เชียงใหม่, เปน ใจ ความ ว่า พวก ข้าพเจ้า, ชาว พม่า
ไป ตัด ไม้ ขอน สัก ที่ ป่า ณะ เมือง เชียงใหม่, ได้ ไม้ ๑๓๓๐๐ ท่อน
เปน ราคา ๖๖๕๐๐๐ รูเบีย. มิศเตอ เอฟ. เอ็น. เบิน คุม ทหาร
มา แต่ ณะ เดือน สาม แรม แปด ค่ำ, ห้าม มิ ให้ พวก ข้าพเจ้า,
ตัด ไม้ ขอน สัก ที่ ป่า นั้น. กล่าว ว่า แม้น มิ ฟัง เรา จะ ยิง ผู้ นั้น
เสีย. ฝ่าย พวก ข้าพเจ้า มี ความ กลัว ก็ ละ การ นั้น เสีย. กับ
ตัน เบิน จึ่ง ให้ นาย กอง ไป หมาย ไม้ ขอน สัก ไว้ ทุก ๆ ต้น, เพื่อ
จะ ได้ เปน ของ ๆ ตัว. แต่ กปิตัน อาร์. ซี. เบิน ยัง ตก ค้าง อยู่ ณะ
เมือง ยินปีน, แขวง เมือง พม่า ที่ ขึ้น แก่ อังกฤษ, กำลัง ช่วย การ
ราย นี้. ได้ ฝาก เครื่อง อาวุธ, แล เสบียง อาหาร, ไป ให้ แก่
เอฟ. เอส. เบิน ผู้ น้อง ที่ อยู่ ใน ป่า. แต่ เคาเวอเมนต์ เมือง
สยาม, มิ ได้ ยอม ให้ กัปตัน เบิน มี อำท ที่ จะ ไป ตัด ไม้ ใน ป่า
นั้น. พวก ข้าพเจ้า จึ่ง ขอ อำนาท อังกฤษ ที่ อยู่ เมือง มรแมง นั้น,
มา ช่วย พวก ข้าพเจ้า ด้วย. แต่ นาย อำเภอ เมือง พม่า ก็ มิ อาจ
ช่วย ธุระ ของ ข้าพเจ้า ได้. นาย อำเภอ นั้น กลัว ว่า, เคาเวอเมนต์
อังกฤษ ได้ ให้ กัปตัน เบิน มี อำนาท ที่ จะ ไป ตัด ไม้ ได้. ขอ ให้
ท่าน เคาเวอเมนต์ อังกฤษ, มี หนังสือ ไป ถึง เคาเวอเมนต์ สยาม
ด้วย, เพื่อ จะ ให้ รู้ ว่า เคาเวอเมนต์ อังกฤษ, ไม่ ได้ ให้ กัปตัน
เบิน ไป ตัด ไม้ ที่ ป่า นั้น เลย, จะ ได้ รู้ ว่า ธุระ ของ กัปตัน เบิน
ใน ป่า นั้น ก็ สิ้น แล้ว.

๏ หนังสือ ฟ้อง ใบ นี้, ได้ ลง มือ เขียน เมื่อ ณวัน เดือน ๔
แรม ๑๑ ค่ำ, มี ชื่อ พวก พม่า จด หมาย ลง ใต้ หนังสือ ฟ้อง ใบ นี้
๑๑ คน. มี ชื่อ ชาว อังกฤษ ติด อยู่ คน หนึ่ง, ชื่อ ยอด ดอซัน
เปน ผู้ ที่ ๑๑ คน นั้น ตั้ง ไว้ เปน ผู้ ช่วย กล่าว ความ.

๏ หนังสือ ฟ้อง ใบ นี้ ฝาก ไป ถึง ขุนนาง ผู้ ใหญ่ ฝ่าย อังกฤษ
ที่ เมือง มรแมง. ท่าน จึง มี หนังสือ ตอบ ไป, ถึง พวก ที่ ฟ้อง
เปน ใจ ความ ว่า, เรา คง จะ ให้ เจ้า เมือง เชียงใหม่ ทราบ ว่า,
เคาเวอเมนต์ อังกฤษ มิ ได้ ยอม ให้ ผู้ ใด ๆ, ไป ทำลาย กดหมาย
เมือง สยาม เช่น ฟ้อง มา นั้น เลย. เรา เหน ควร เจ้า เมือง เชียง
ใหม่ จะ ว่า กล่าว เอา เปน ธุระ เอง, หา ควร ที่ เคาเวอเมนต์ อัง
กฤษ จะ เอา เปน ธุระ ตัด สีน ไม่.

๏ หนังสือ ใบ นี้ ได้ เขียน มา, เมื่อ ณวัน พุท เดือน หก ขึ้น
สอง ค่ำ.

ข่าว ที่ กรุงเทพ ฯ

๏ อนึ่ง หนังสือ จดหมาย เหตุ สยามไตม์ แต่ บัด เดี๋ยา นี้ ได้
ตี พิมพ์ ที่ บ้าน มิสเตอร์ จันด์เลอ ที่ ณตำบล ปาก คลอง บาง น้ำซล,


๏ อนึ่ง ฝ่าย ข้าพเจ้า ๆ ของ จดหมาย เหตุ นี้, ได้ ซื้อ เครื่อง
พิมพ์ ที่ เปน ของ ๆ บับติศมิศชัน ที่ ตำบล บ้าน คอก ควาย นั้น
มา หมด. จึง ได้ มี ตัว พิมพ์ ไทย, เลก ใหญ่ หลาย อย่าง, อิก ทั้ง
เครื่อง ตี เครื่อง อัด เครื่อง เย๊บ ผูก เปน เล่ม, หมาย ว่า จะ ได้ ทำ
การ ให้ ใหญ่ ยิ่ง กว่า แต่ ก่อน, และ จ รวด เรว ด้วย. ๚ะ


๏ อนึ่ง เมล์ คือ หนังสือ ฝาก เปน กอง ที่ มา แต่ ประเทศ ยุรบ
โดย เรือ ไฟ กล ฝรั่งเศศ ถึง สิงค์ โปร์ แล้ว. ฝ่าย เรือ เมือง สยาม
ก็ ได้ รับ เข้า มา ใน กรุงเทพ ถึง ๑๕ วัน แล้ว. ใน หนังสือ เหล่า
นั้น มี ข่าว มา จาก เมือง ลอนดอน, แต่ เมื่อ ณวัน เสาร์ เดือน เจ็ด
แรม เก้า ค่ำ. แล ข่าว นั้น ก็ เปน ศุข อยู่ หา ไภย อันตราย มิ ได้,
และ มี สำ ฅัญพยาน ว่า ที่ เมือง สิงค์โปร์, แล มะลกา, แล
เมือง ปีแนง, ทั้ง สาม เมือง นี้ จะ ตัต ทาง ราชการ ให้ ตรง แต่
มงกุฎ อังกฤษ, จะ มิ ได้ ไป ทาง อ้อม เหมือน อย่าง แต่ ก่อน. ถ้า
การ มิ สำเร็จ แล้ว เมื่อ ใด, ก็ คง จะ เปน คุณ แก่ ประเทศ สยาม
สิงค์โปร์ โดย มาก, ๚ะ


๏ อนึ่ง มี ข่าว มา แต่ เมือง อเมริก, เปน ใจ ความ ว่า,
เมือง ซึ้ง ขึ้น แก่ ฝรั่งเสศ, ที่ แขวง เมือง เม๊กซิโก นั้น หา สู้ จำ
เริญ ไม่. แล ขุนนาง ผู้ใหญ่ ใน เมือง ฝรั่งเสศ, ก็ คิด เหน ว่า,
ที่ ฝรั่งเสศ ไป ตี เอา เมือง เม๊กซิโก นั้น, คง จะ ป่วย การ เสีย
เปล่าๆ, ไม่ ช้า นาน การ นี้ ก็ จะ เลิก ไป. แล มี หนังสือ มา แต่
เมือง วัตชิงตอน, เปน ใจ ความ ว่า, อย่า ให้ ผู้ใด คิด กลัว ว่า, เมือง
อเมริกา จะ คิด ทำ ศึก กับ ฝรั่งเสศ เพราะ เมือง เม๊กซิโก. จะ ไม่
ยอม ทำ เลย. แต่ เจ้า เมือง ที่ ชื่อ เอ็มบีรอ แมกซิเมล์ยัน จะ ไม่
อยู่ นาน ได้. แล เคาเวอเม็นต์ ริบับลิก นั้น คง จะ มี ความ จำเริญ.

ข่าว มา ใหม่ ใน สยง วัน นี้

๏ อนึ่ง เรือ กลไฟ เจ้าพยา มา ถึง เมื่อ ณ วัน อาทิตย์ เดือน
๙ แรม ๑๕ ค่ำ, ปี ชวด สัปตศก, ได้ เอา เมล์ ที่ ประเทศ ยูรบ
มา สอง เมล์. มี ข่าว มา แต่ เมือง ลอนดอน, เมื่อ ณ วัน สุกร์
เดือน ๙ ขึ้น ๕ ค่ำ เปน ใจความ ว่า, แต่ บันดา เรือ กำปั่น จอก
ค้าขาย อยู่ ที่ ท่า เมือง อเมริกา ทั่วไป นั้น เปรศซิเดลต์ ชอนซัน เข้า
เมือง อเมริกา มี รับสั่ง ให้ เบิด ท่า ค้าขาย ตาม ธรรมดา อย่าง ที่
ได้ เคย มา แต่ก่อน, มา แต่ ณ วัน เสาร์ เดือน ๘ ขึ้น ๘ ค่ำ.

๏ อนึ่ง เรือ อังกฤษ ชื่อ เครศอีสเติน, ได้ แล่น ออก ไป เพื่อ
จะ วาง สาย ไฟฟ้า ราว ที่ จะ ข้าม มหาสมุท อัดลันติก ได้, ทาง ประ
มาณ ๑๗๐๐ ไมล์, หมายใจ ว่า การ นั้น จะ สำเร็จ ใน เดือน ออคัศ,
คือ ปลาย เดือน ๒ แล ต้น เดือน ๑๐. เขา วาง สาย มา ได้ ๓๐๐
ไมล์ แล้ว.

๏ อนึ่ง มี ข่าว ว่า การ ศึก ขบถ ที่ เมือง เต๊กซัศ หัว เมือง อะเม
ริกา นั้น สิ้น แล้ว, แม่ ทัพ ฝ่าย พวก ขบถ ชื่อ เซนนิเริล เคอบิสมิศ
ก็ ยอม แพ้ เมื่อ ณ วัน สุกร์ เดือน ๗ ขึ้น สอง ค่ำ. เมือง อเมริกา กลับ
มี ความ ศุข ทั่วไป. เจ้า เมือง อเมริก ให้ จึ่ง เลิก ทัพ กลับ ไป
บ้าน โดย มาก, ที่ เอา ไว้ สำรับ รักษา บ้าน เมือง ก็ มี บ้าง เลก น้อย.

๏ อนึ่ง มี ข่าว มา ว่า, แต่ นี้ ไป คง จะ มี ฝ่าย บท แต่ เมือง
อะมริกา ฝ่าย ใต้ มา ขาย ที่ เมือง อังกฤษ โดย มาก.

๏ อนึ่ง บุตร ชาย แห่ง ปรินค์ ออฟ เวลัศ, ได้ รับ สิน น้ำ มี ชื่อ
ตั้ง ว่า ยอช์ ฟเว็ดเดอริก เออเน๊ค แอลเบิด.

๏ อนึ่ง มี ชาย ยี่ปุ่น นุ่ม ๆ ๑๙ คน, ไป เรียน วิชา ที่ เมือง
อังกฤษ, หมาย ว่า จะ เรียน อยู่ ให้ นาน จะ ได้ เปน นัก ปราช, แล้ว
จะ กลับ คืน หลัง ยัง เมือง ยี่ปุ่น.

๏ ราคาสินค้าที่เมือง ฮ่องกง ๚ะ

๏ เมื่อ ณวัน เสาร์ เดือน เก้า ขึ้น หก ค่ำ, เข้า บัง กลา
หาบละ ๒ เหรียน ๔๕ เซนต์แล ๓ เหรียน ท่วน. เข้า กลอง กรุง
เทพ ฯ หาบละ ๒ เหรียน ๑๕ เซนต์ แล ๒ เหรียน ๒๕ เซนต์.
เข้าอย่าง กลาง หาบละ ๒ เหรียน ๔๕ เซนต์ แล ๒ เหรียน ๕๕
เซนต์. เข้าขาว หาบละ ๒ เหรียน ๗๕ เซนต์แล ๒ เหรียน ๘๕
เซนต์. เข้าเมืองไซร่ง่อน หาบละ ๒ เหรียน ๕๐ เซนต์ แล
สอง เหรียน ๕๕ เซนต์. เข้า เมือง มะนิลลา หาบละ ๒ เหรียน
๖๕ เซนต์แล ๒ เหรียน ๘๕ เซนต์, เข้า ขาว เมือง ย่าง กุ้ง หาบ
ละ ๒ เหรียน ๕๕ เซนต์แล ๒ เหรียน ๗๐ เซนต์. เข้า กล้อง เมือง
ย่างกุ้ง หาบละ ๒ เหรียน ๑๐ เซนต์แล ๒ เหรียน ๕๑ เซนต์.

๏ น้ำตาล ทราย ขาว ที่ หนึ่ง หาบละ ๘ เหรียน ๒๐ เซนต์
แล ๘ เหรียน ๔๐ เซนต์. ที่ ๒ หาบละ ๗ เหรียน ๘๐ เซนต์


กำปั่น เข้า กรุงเทพ

เข้ามา เมื่อไร

กำปั่น ชื่อไร

กัปปิตัน ชื่อไร

กี่ ตอน

เรือ อะไร

มา แต่ ไหน

เดือน ขึ้น ๑๕ ค่ำ

ปอนติเอ น้ก

คราศะวิง เกอล์

๗๘๐

บาก ฮอลันด์

ปะตาเวีย

แรม ๑๓ ค่ำ

เจ้า พระยา

ออตัน

๓๕๓

สตีมเมอ สยาม

สิงคโปร์

กำปั่น ออก จาก กรุงเทพ

ออก เมื่อไร





จะ ไป ไหน

เดือน ขึ้น ๑๕ ค่ำ

มูนไลต์

เชอร์ เชนเชน

๖๔๗

ชิบ สยาม

ฮ่องกง

แรม ค่ำ

จุเลี่ย แอน

เลนอาก

๑๕๐

สกูนเนอ อังกฤษ

สิงคโปร์



แล ๗ เหรียน ๙๐ เซนต์. ที่ ๓ หาบละ ๗ เหรียน ๕๐ เซนต์ แล
๗ เหรียน ๖๐ เซนต์.

๏ น้ำ ตาล ทราย แดง หาบละ ๕ เหรียน ๔๐ เซนต์ แล ๕
เหรียน ๖๐ เซนต์.

สวม ศพ เปรศซิเดนต์ ลิน กั.ง

๏ ชาว เมื๊อง อะเมริกา คิด การ จะ ก่อ สร้าง ที่ สวมศพ เปรศ
ซิเดนต์ลินกัน ขึ้น ไว้ ใน ที่ ฝั่ง นั้น, สำรับ คน ทั้งปวง จะ ได้ เปน ที่
คิด ถึง. เขา หมาย ว่า จะ เรี่ยราย กัน ลง ทุน เปน เงิน ประมาณ
๓๐๐๐๐๐ เหรียน, จะ เอา เงิน แก่ คน ทั้งปวง แต่ คน ละ เหรียน
เท่า นั้น. มี ข่าว มา แต่ ปาริต เมื๊อง ฝรั่งเศศ ว่า, ชาว เมื๊อง ปาริก
นั้น จะ ขอ เข้า ส่วน ด้วย, ใน ที่ จะ ทำ การ สวม สภ นั้น.


๏ ผู้ ที่ คิด ร้าย ฆ่า เปรศเด็นต์ ลินกัน นั้น เปน หลาย คน ด้วย กัน.
เคาเวอเม็นต์ จับ ตัว ได้ แล้ว เมื่อ ณวัน เดือน หก ข้าง แรม, ยัง กำ
ลัง ตัดสิน ความ นั้น อยู่ ที่ เมือง วัดชิงตัน. ใน พวก ผู้ ร้าย นั้น มี คน
หนึ่ง ชื่อ แฮร์ตวิศ, แล มี ผู้ ยืน ยัน ว่า, คน นี้ รับ เปน ธุระ จะ ฆ่า
เปรศซิเด็นต์ ยอนซัน คราว เดียว กัน กับ วิลซ์บูต ฆ่า เปรศซิเด็นต์
ลินกัน. มี คน ผู้ หนึ่ง ชื่อ เปน จัดแจง กัน ว่า, เรา จะ ฆ่า มิศเตอ
ซิวอาด ที่ เปน ขุนนาง ใหญ่ ฝ่าย ต่าง ประเทศ. แล คน หนึ่ง จะ
ฆ่า มิรเกอ ซตอนตัน ที่ เปน ขุนนาง ใหญ่ ฝ่าย ทัพ บก. อีก คน หนึ่ง
จะ ฆ่า เย็นเนอรัล แกรนต์ ผู้ เปน แม่ ทัพ ใหญ่.

๏ เจ้า ของ หนังสือ นิราษ เมือง ลอนดอน นั้น, อยู่ ที่ แพ ริม
ปาก คลอง ซุก ตพาน หัน, ชื่อ นาย จ่ารง. หนังสือ นิราษ ลอนดอน
นั้น ยัง มี เหลือ อยู่ บ้าง, ถ้า ผู้ใด จะ ตอ้ง การ, เชิญ ท่าน ไป ซื้อ
ตาม ชอบ ใจ เถิด.

โรง พิมพ์

๏ โรงพิมพ์ ที่ ได้ ตี หนังสือ จด หมาย เหตุ นี้, ตั้ง อยู่ ที่ ริม
ปอ้ม ปาก คลอง บางกอก ใหญ่, หลัง วัง กรมหลวง วงษา ธิราช
สนิท. ถ้า ผู้ ใด ๆ ปราถนา จะ ให้ ตี พิมพ์ หนังสือ ไทย, ฤา หนังสือ
อังกฤษ, จะ เปน เนื้อ ความ มาก นอ้ย ประการ ใด, ฃอ เชิญ ท่าน
มา พูด กับ ข้าพเจ้า ๆ ปราถนา จะ รับ จ้าง ตี พิมพ์ หนังสือ ต่าง. ๆ
ราคา ค่า จ้าง นั้น, จะ รับ ให้ ถูก กว่า แต่ กอ่น มาก. ถ้า ฎีา ต่าง ๆ
กว้าง ยาว เท่า แผ่น กระดาด น้ำ ซ่ม, ถ้า ตี เต็ม น่า ข้าง หนึ่ง, ถ้า
ตอ้ง การ แต่ พัน หนึ่ง, จะ คิด เอา ราคา พัน แผ่น ๒๐. บาท. ถ้า ตอ้ง
การ หลาย พัน, จะ เอา ราคา แต่ พัน ละ ๑๕ บาท เท่า นั้น. อนึ่ง
หนังสือ อังกฤษ ที่ เรียก ว่า, โบตโนฎ นั้น, เปน หนังสือ จด หมาย
สำหรับ ที่ นายห้าง ฝาก สินค้า บันทุก ไป ลง กำปั้น นั้น, ๑๐๐ แผ่น
เปน ราคา ๕ บาท. อนึ่ง หนังสือ ที่ เรียก ว่า, เอ็นเต็ร แล ชิปปิง
บิล, ถ้า จะ เอา แต่ ๓๐๐ ก็ เปน ๑๐๐ ละ ๔ บาท, ถ้า เอา ถึง
๑๐๐๐ เปน ๑๐๐ ละ กึ่ง ตำลึง. อนึ่ง หนังสือ บิลเลดิง, ถ้า
เอา แต่ ๓๐๐ เปน ๑๐๐ ละ ๕ บาท. ถ้า ตอ้ง การ ถึง ๑๐๐๐
จะ เอา ๑๐๐ ละ ๑๐ สลึง. อนึ่ง ถ้า เปน หนังสือ กาด เปน ๑๐๐
ละ ๕ บาท.

๏ การ ผูก หนังสือ เปน เล่ม. ๚

๏ อนึ่ง การ ที่ ผูก หนังสือ เปน เล่ม สมุท อังกฤษ, เท่า กับ
กดหมาย ที่ ขาย อยู่ ทุก วัน นี้, ถ้า หุ้ม หนัง สวัน เปน เล่ม ละ กึ่ง
ตำลึง. ถ้า ขลิบ หนัง เปน เล่ม ละ ๖ สลึง, ถ้า เอา มาก กว่า ๑๐
เล่ม ขึ้น ไป, ก็ จะ ลด ราคา เอา แต่ เล่ม ละ บาท. ถ้า เปน เล่ม
เล็ก กว่า กฎหมาย, ก็ จะ คิด เอา ราคา ตาม เล็ก แล ใหญ่ ภอ
สม ควร.

๏ การ แปล หนังสือ. ๚

๏ คำ ไทย ฤา คำ อังกฤษ แปล, ถ้า รอ้ย คำ เปน ราคา ๕๐
เซ็น. ถ้า มาก กว่า ๑๐๐๐ คำ จะ คิด เอา ๑๐ คำ เปน ๔ เซ็น จน
ถึง ๒๐๐๐ คำ. ถ้า มาก กว่า ๒๐๐๐ คำ, ก็ จะ เอา แต่ สม ควร
ภอ ตก ลง กัน ได้.


๏ หนังสือ ขาย. ๚ะ

๏ อนึ่ง ที่ โรง พิมพ์ นั้น มี หนังสือ ขาย ต่าง ๆ, คือ หนังสือ
หัด พูด คำ อังกฤษ จบ ละ ๔ สลึง. แล หนังสือ จินดามะณี นั้น
เล่ม ละ บาท. หนังสือ กฎหมาย ไทย ๕๕ เล่ม สมุท ไทย ผูก เปน
หนังสือ อังกฤษ สอง เล่ม, ขาย เปน ราคา จบ ละ ๑๓ บาท สลึง,
แล หนังสือ พระ ราช พงษาวดาร ไทย ๔๒ เล่ม สมุด ไทย, ทำ เปน
สอง เล่ม อังกฤษ, ขาย จบ ละ ๑๐ บาท สอง สลึง. แล พงษาวดาร
ฝรั่งเศศ ย่อ, ขาย เล่ม ละ สอง สลึง. แล มี กระดาด สมุด เปล่า
ต่าง ๆ ขาย เล่ม ละ บาท บ้าง, เล่ม ละ สอง สลึง บ้าง, เฟื้อง หนึ่ง บ้าง,
หลาย อย่าง ต่าง ๆ. เชิญ ท่าน ทั้ง หลาย มา หา ข้าพเจ้า ที่ โรง พิมพ์

ข้าพเจ้า ผู้ ชื่อ ว่า, ดี. บี. บรัดเล นั้น เทอญ.

๏ พ่อ ค้า ๚

๏ เวอชิน แอน กัมเปนี่, เปน พ่อ ค้า อะเมริกัน สำรับ ขาย
เครื่อง กำปั่น, แล เสบียง อาหาร ที่ สำรับ ใช้ ใน กำปั่น ด้วย, แล
ขาย สิ่ง ของ อื่น ต่าง ๆ, ที่ คน ใน กรุง เทพ ฯ จะ ตอ้ง การ. แล
เปน พวก สำรับ ขาย ของ ใน การ เลหลัง. ตั้ง อยู่ ที่ บ้าน คอก ควาย
น่า วัด บาท หลวง.

๏ พวก รี่ มี่ ซะมิศ แอน กัมเปนี่, เปน พ่อ ค้า ฝรั่งเศศ, ตั้ง อยู่
ที่ บ้าน คอก ควาย ริม ตึก กงสุล ฝรั่งเศศ, มี ของ เครื่อง สำรับ เรือ
แล ของ ฝรั่งเศศ, แล ของ อังกฤษ หลาย อย่าง ต่าง ๆ เปน อัน มาก.

๏ พวก ซี วิล แม เลอบ์ แอน กัมเปนี่, เปน พ่อ ค้า ฝรั่งเศศ
ตั้ง อยู่ ที่ บ้าน กะดี จีน แห่ง หนึ่ง, ตั้ง อยู่ ที่ ท้อง สนาม น่า พระ ที่
นั่ง สุทไธย สวรรค แห่ง หนึ่ง, มี เครื่อง ใช้ ต่าง ๆ ที่ มา แต่ ประ
เทศ ยุรบ เปน อัน มาก.

๏ อนึ่ง มิศ ฟระรันซิศ จิต, เปน พนักงาน สำรับ ชัก เงา รูป
ปราถนา จะ ให้ คน ใน กรุง นอก กรุง เข้าใจ ว่า, ตัว นั้น อยู่ ที่ แพ
น่า บ้าน กะดี จีน, ได้ เปน พนักงาน สำรับ ชัก เงา รูป ต่าง ๆ. รูป ที่
ได้ ชัก ไว้ แล้ว นั้น, ก็ มี หลาย อย่าง, คือ รูป วัง, แล รูป วัด, รูป
ตึก, รูป เรือน, แล รูป เงา ต้นไม้, แล รูป ท่าน ผู้ มี วาศนา ต่าง ๆ
ใน กรุง เทพ นี้. ถ้า ท่าน ผู้ ใด ปราถนา, จะ ให้ ข้าพเจ้า ไป ชัก เงา
รูป ที่ บ้าน ของ ท่าน, ข้าพเจ้า ก็ จะ ไป ทำ, ราคา ค่า จ้าง นั้น จะ เอา
แต่ อย่าง กลาง ภอ สม ควร.


๏ หนังสือสำแดงการ

ที่ จะทำ หนังสือ จด หมายเหตุ, เรียก ว่า บางกอก รีคอเดอ ต่อ ไป.

๏ ตั้ง แต่ นี้ไป จะ ไม่ให้ติด อยู่กับ หนังสือ จด หมายเหตุ,
ที่ เปน ภาษา อังกฤษ นั้น ต่อ ไป. แต่ จะ ให้ ที่ ต่างหาก, เปน สี่
ใบ แปด น่า เต็ม ๆ เปน อย่าง ฉบับ นี้. แล หนังสือ นั้น, จะ จุ
ความ ที่ ว่า ด้วย การ บ้าน เมือง, แล ความ ที่ รู้ รอบ ตาม หนัง
สือ, แล ศิลประสาตร วิชา การ ต่างๆ, แล การ พ่อ ค้า, แล
ข่าว ที่ บังเกิด ใน เมือง นี้, แล เมือง ที่ ลอ้ม รอบ. แล จะ คัด เอา
ข่าว จาก หนังสือ จด หมาย เหตุ, ที่ มี มา แต่ เมือง จีน, เมือง บัต
เตเวีย, เมือง สิงกะโปร์, เมือง ปีแนง, เมือง พม่า, เมือง บัง
กะล่า, เมือง ลังกา, เมือง บำไบ, ประเทศ ยุรบ, แล ประเทศ อเม
ริกา. จะ คัด เอา ข้อความ ออก จาก หนังสือ จด หมายเหตุ เหล่า นั้น,
ซึ่ง จะ เปน ประโยชน์ แก่ ผู้ ใด ๆ ที่ อ่าน. เจ้า ของ บางกอก รีคอ
เดอ, จะ เอาใจใส่, เพื่อ จะ ให้ หนังสือ จด หมายเหตุ นั้น, เปน
ของ ที่ ยั่ง ยืน มั่น คง, เปน ของ ที่ ควร ชาว ประเทศ สยาม จะ
อ่าน, ได้ ช่วย ให้ มี ความ รู้ จำเริญ ดี ขึ้น.

๏ หนังสือ จด หมาย เหตุ นี้, เปรียบ เหมือน คน เที่ยว ไป ทั่ว
โลกย์, เพื่อ จะ ได้ หา เหตุ ต่าง ๆ เปน สำคัญ, แล้ว ก็ กลับ มา เล่า
เหตุ การ ให้ คน ทั้งปวง ฟัง. ถ้า คน เหล่า นั้น จะ มา แต่ ประเทศ
อเมริกา บ้าง, ประเทศ ยุรบ บ้าง, เมือง บังกะลา บ้าง, เมือง พม่า
บ้าง, เมือง จีน บ้าง, เมือง ชวา บ้าง, เมือง สิงกะโปร์ บ้าง, เมือง
ปีแนง บ้าง, แล เมือง อื่น ๆ หลาย แห่ง นั้น, ท่าน ผู้ อ่าน นี้ จะ มิ
ชอบ ใจ ฟัง เขา บอก ข่าว เดือน ละสอง หน ฤา, แล จะ คิด เสีย ดาย
เงิน ค่า จ้าง ที่ จะ ให้ เขา ปี ละ ห้า บาท ฤา แปด บาท นั้น ได้ ฤา.
ฝ่าย หนังสือ จด หมาย เหตุ ที่ เรียก ว่า, บางกอก รีคอเดอ นี้, จะ มา
บอก ข่าว แก่ ท่าน ทั้งหลาย เดือน ละสอง ครั้ง, จะบอก เปน ภาษา
ไทย, ให้ ตัว ท่าน ฟัง ข่าว ต่าง ๆ, ที่ ได้ นำ เอา มา แต่ ทั่ว โลกย์.
หนังสือ บางกอก รีคอเดอ นี้, ได้ เก็บ เหตุ มา แต่ หลายแห่ง หลาย
ตำบล เช่น ว่า มา นี้, เพราะ มี หนังสือ บอก ข่าว มา แต่ ที่ เหล่า
นั้น, มา ถึง เจ้า ของ บางกอก รีคอเดอ, ๆ จึง ได้ แปล ออก จาก
ภาษา อังกฤษ เปน ภาษา ไทย, ตาม ที่ ได้ เหน ว่า, จะ เปน ประ
โยชน์ แก่ พวก ไทย. อนึ่ง ชาว ประเทศ อเมริกา, แล ประเทศ
ยุรบ นั้น, เขา ได้ อาไศรย หนังสือ จด หมายเหตุ ต่าง ๆ มั่น คง;

เพื่อ ประสงค์ จะ ได้ ความ รู้ ต่าง ๆ. เขา เข้า ใจ ว่า, ถ้า ไม่ ได้
อ่าน หนังสือ จด หมาย เหตุ ต่าง ๆ แล้ว, ก็ ดู เหมือน เปน คน หา
ปัญญา มิ ได้, เปน น่า อาย แก่ คน ทั้งปวง นัก. เพราะ เหตุ
ฉะนี้, ชาว อเมริกา ชาว ยุรบ จึง ได้ ซื้อ หนังสือ จด หมาย เหตุ
โดย มาก, จะ หาผู้ใหญ่ใด ๆ ที่ มิได้ ซื้อ หนังสือ จด หมาย เหตุ
บ้าง นั้น ก็ หา ยาก นัก. ลาง ครอบ ครัว หนึ่ง, ซื้อ เจ๊ด วัน ฉบับ
หนึ่ง, ลาง ที สอง ฉบับ, สาม ฉบับ, เจ๊ด ฉบับ ก็มี. ด้วย เขา
เข้าใจว่า, อัน หนังสือ จด หมาย เหตุต่าง ๆ นี้, เปรียบ เหมือน
กล้อง สร่อง, สำรับ จะ ช่วย ตาให้ เหน ใกล้ แล ไกล ได้. ถ้า หา
มี กล้อง สร่อง อย่าง นี้ ไม่, ดุจ หนึ่ง ตาบอด มิ ได้ เหน เลย.

๏ ราคา หนังสือ บางกอก รี่คอเดอ

๏ เมื่อ จะ ขาย ได้ แต่ นอ้ย เพียง สอง รอ้ย, สาม รอ้ย เล่ม,
คือ เล่ม ละ ๒๖ ใบ, ตี เตือน ละสอง ใบ นั้น, ต้อง ขาย เปน เล่ม
ละ ห้าบาท, คือ ปี หนึ่ง ห้าบาท. ถ้า แม้น ได้ เรี่ยรายชื่อ คน ที่ จะ
ซื้อ เพียง พัน คน, เปน พัน เล่ม เมื่อไร, เจ้าของ บางกอก รีคอ
เดอ, จะ ลด ราคา ลง ถึง เล่ม ละ สองบาท เมื่อ นั้น. ถ้า ได้ ชื่อ
สอง พัน คน ที่ จะ ซื้อ, จะ ลด ราคาลง ถึง เล่ม ละ หก สลึง. เพราะ
การ ที่ ตี พิมพ์ นั้ย เล่ม นั้น, ก็ ป่วย การ ลง ทุน เสีย เงิน ค่า จ้าง
มาก, แทบ จะ เหมือน กับ ตีพิมพ์ มาก เล่ม เหมือน กัน.

๏ อนึ่ง ถ้า ผู้ ใด จะ ช่วย เสาะหา คน ที่ จะ ซื้อ บางกอก รี่คอเดอ
จด หมาย เหตุ นี้, ได้ ห้า คน มา ลง ชื่อ เข้า เมื่อไร, ผู้ เจ้าของ
หนังสือ จด หมาย เหตุ นี้, จะ ให้ เปน รางวัล แก่ ผู้ ที่ ได้ หา ซื้อ คน
นั้น เล่ม หนึ่ง คือ ๒๖ ใบ.

๏ อนึ่ง ถ้า ผู้ ซื้อ เปน คน อยู่ ใน กรุงเทพ ฯ, ข้าพเจ้า จะ
ฝาก จด หมาย เหตุ ให้ เขา เดือน ละ สอง หน. ถ้า เปน คน อยู่ นอก
กรุงเทพ ฯ, บาง ที จะ ฝาก ไป ถึง เขา ก็ ได้, บาง ที ไม่ ได้, ตอ้ง
ให้ เขา ใช้ บ่าว มา เอา เอง ที่ โรงพิมพ์. ๆ ของ ข้าพเจ้า อยู่ ริม ปอ้ม
ปาก คลอง บาง กอก ใหญ่ หลัง วัง กรมหลวง วงษา.

๏ จดหมาย เหตุ ออก เมื่อไร ๚ะ

๏ ตั้ง แต่ นี้ ไป จดหมาย เหตุ เหล่า นี้, จะ ออก ใน วัน
กลาง เดือน, แล วัน สิ้น เดือน เสมอ ไป เปน นิจ. ผู้ ใด ๆ
ปราถนา จะ ได้ จดหมาย เหตุ ใบ อัน ใด อัน หนึ่ง โดย เรว, ก็ จง
มา เอา ค่ำ วัน กลาง [เ]ดือน, แล ค่ำ วัน สิ้น เดือน ก็ ได้,