BANGKOK RECORDER


BANGKOK RECORDER

Vol. 1 เล่ม ๑ บางกอก เดือนสิบ เบ็ด ขึ้น สิบห้า ค่ำ จุลศักราช ๑๒๒๗ Oct. 5th 1865 กฤษศักราช ๑๘๖๕,ใบที่ ๑๕ No. 15.

๏ พงษาวดาร อังกฤษ บท ๓

๏ แอลเฟร็ด ผู้นอ้ง ขึ้น ครอง ราชสมบัติ ต่อไป. ครั้น
คฤษ ศักราช ๘๗๕ ปี, มี พวก เดน ยก มา ผสม กับ พวก เดน ซึ่ง
อยู่ ใน เขต แดน ของ อังกฤษ, แล้ว เที่ยว ตี หัว เมือง ได้ หลาย
ตำบล. แต่ กระษัตร์ แอลเฟร็ด ยก ไป ทำ สงคราม ใน ปี นั้น ถึง
แปด ครั้ง. พวก เดน จึ่ง ยอม เปน ไมตรี สัญญา ว่า, จะ รับ อา
ษา ป้องกัน มิ ให้ พวก เดน อื่น มา ย่ำยี ต่อไป. กระษัตร์ ก็ รับ
เปน ไมตรี ตาม สัตย์ สัญญา นั้น, แล้ว โปรธ ให้ พวก นั้น อยู่ ใน
เขต แดน ของ พระองค์ สืบ ไป.

๏ อยู่ มา มี พวก เดน อื่น ยก มา อีก เปน อัน มาก. พวก เดน เก่า
ก็ กำเริบ ขึ้น, กลับ เปน ไส้ ศึก ช่วย รบ พุ่ง เข้า ตี เมือง ชิบเปน
ฮำ ได้. พวก ขุนนาง แล ราษฎร ทั้งปวง แจ้ง ดัง นั้น ก็ เสีย ใจ,
ทั้ง เกรง อำนาถ มิ อาจ จะ ออก สู้ รบ. ต่าง คน ต่าง อพยบ ทิ้ง
บ้าน เรือน เสีย แตก ตื่น หนี เอา ตัว รอด.

๏ ฝ่าย พวก เดน มิ ได้ เหน กอง ทัพ ออก ต่อ รบ, ก็ ยิ่ง มี
ใจ กำเริบ เร่ง ให้ ทหาน รีบ ระดม ตี ต่อ ๆ ไป, ก็ ได้ เมือง ใหญ่
นอ้ย เปน อัน มาก.

๏ ฝ่าย กระษัตร์ แอลเฟร็ธ์, ขณะ เมื่อ เสีย เมือง นั้น, พระ
องค์ แปลง ปลอม เปน ไพร่ ลอบ หนี ไป อาไศรย์ อยู่ กับ คน เลี้ยง โค.
เวลา วัน หนึ่ง เสด็จ ไป ประทับ อยู่ ริม เตา ไฟ, ภรรยา คน เลี้ยง
โค สั่ง พระองค์ ว่า, ช่วย ดู ขนม ที่ ปิ้ง ด้วย เถิด. ขณะ นั้น ทรง
เหลา ลูกษร เพลิน ไป, มิ ได้ เอา พระไท ใส่. ครั้น หญิง นั้น กลับ มา
เหน ขนม ไหม้ ก็ โกรธ จึ่ง ขู่ ว่า, ท่าน นี้ ดี แต่ จะ กิน เมื่อ สุก แล้ว.
ขณะ เมื่อ ทำ มิ ได้ ช่วย ดู แล บ้าง เลย. กระษัตร์ ได้ ทรง ฟัง ดัง
นั้น ก็ สู้ อด ทน, ทำ ถ่อม พระองค์ ดัง ผู้ น้อย, หา ตอบ ถ้อย ทุ่ง
เถียง ประการ ใด ไม่. แล้ว เสด็จ ซุ่ม ซ่อน เที่ยว ซ่อง สุม ผู้ คน
ต่อ ไป. ก็ ได้ ทแกล้ว ทหาร มาก ขึ้น, จึ่ง ตั้ง ค่าย แห่ง หนึ่ง. ที่
กลาง ตำบล นั้น เปน ดิน ดาน ดอน แขง, แต่ ภาย นอก ลุ่ม เปน
เลนเหลา ลอ้ม รอบ กว้าง ขวาง. เสด๊จ ประทับ อยู่ที่ นั่น ประมาณ
บี้เสศ. ได้ ยก ออก ปล้น ค่าย ฆ่าศึก เปน หลาย ครั้ง. ภาย หลัง
พวก ขุนนาง แลราษฎร ที่ กระจัด กระจายไป นั้น, จึง เข้า มา สาพิภัก
ช่วย คิด อ่าน การ สงคราม. ครั้ง นั้น กระษัตร คิด กลอุบาย แปลง
พระองค์ เปน คน ดีด กระจับปี่, ปลอม เข้าไป ณะ ค่าย พวก ฆ่าศึก.

๏ ฝ่าย กัดรวม ซึ่ง เปน แม่ ทัพ ใหญ่ใน พวก นั้น, ชอบใจ
ฟัง เพลง กะจับปี่ จึงให้ บำรุง เลี้ยงไว้. ครั้น ได้ทรง ทราบ กิจ
การในค่าย เรส็จ สิ้น, แล เห็น ว่า พวก เดน ประมาท เลินเล่อมิ
ได้ รวัง. จึง ลอบ หนี มา กำหนด ให้ พวก ขุนนาง ตระ เตรียม ทะ
หารไว้. ครั้น พร้อม สำเร็จ แล้ว ก็ ยก ทหาร เข้า ตี ค่าย พวกเดน.
พวกเดน มิ ทัน รู้ ตัว, ก็ แตก ฉาน ซ่าน เซ่น ไป, ที่ เจ็บ ปว่ย
ลำบาก ล้ม ตาย ก็ มาก. แต่ กัตรวม แม่ ทัพ ใหญ่ ภา พล ที่ เหลือ
หนี ออก จาก ค่าย, ไป อาไศรย์ ค่าย อื่น อีก แห่ง หนึ่ง. กระษัตร
ก็ ให้ ทหาร ติด ตาม ไป ลอ้ม ไว้. พวกเดน ก็ ขัด เสบี่ยง อาหาร
ลง, จึง ออ่น น้อม ยอม เข้า หา โดย ดี. แต่ พวก กอง อื่น ๆ นั้น,
ครั้น แจ้ง ว่า แม่ ทัพ ใหญ่ แตก เสีย แก่ อังกฤษ แล้ว, ต่าง คน
ต่าง ก็ เลิก ทัพ กลับ คืน ไป สิ้น.

๏ แต่ กระษัตร แอลเฟร็ธ นั้น, พระองค์ ประกอบ ด้วย
ความ เมตา กรรุณ มิ ได้ พยาบาท ผูก เวร กับ พวก ไภรี่. เมื่อ
พระองค์ มี ไชย์ ชนะ ครั้ง นั้น, กลับ ทำนุ บำรุง กัตรวม ซึ่ง เปน
แม่ ทัพ ฝ่าย ฆ่า ศึก ไว้ เปน บุตร เลี้ยง. แล้ว โปรธ ให้ พวกเดน
เข้า รีด นับถือ สาศนา ตาม อังกฤษ. แล้ว ทรง ตั้ง กัตรวม บุตร
เลี้ยง เปนเจ้า เมือง ให้ ไป รักษา เมือง อิดแองเกลี่ย, แล เมือง
นอตัมเบอแลนด์. กัตรวม ก็ ถวาย บังคม ลา, พา พัก พวก ของ
ตน ไป อยู่ ณะ เมือง ทั้ง สอง นั้น.

๏ แต่ นั้น มา ก็ ว่าง ศึก เปน ศุข มา, จึง โปรธ ให้ ต่อ เรือ
รบ ขึ้น ๑๒๐ ลำ, สำหรับ ลาด ตเวน เที่ยว ตั้ง ราย ระวัง อยู่ รอบ
เขต เกาะ นั้น.

๏ ครั้น คฤษ ศักราช ล่วง ได้ ๘๙๓ ปี, มี ทัพ เรือ มา รบ
อีก ครั้ง หนึ่ง. เรือ รบ ๓๓๐ ลำ, แม่ ทัพ นั้น ชื่อ เหศติง.

๏ ฝ่าย พวก เดน ซึ่ง อยู่ ใน หัว เมือง นั้น, ก็ กลับ เปน ขะ
บถ ช่วย เหศติง แม่ ทัพ รบ พุ่ง พวก อังกฤษ. แต่ กัภรวม เจ้า
เมือง นั้น ถึง แก่ กรรม เสีย แล้ว.

๏ ขณะ นั้น กระษัตร ก็ จัด แจง ทหาร ออก ต่อ สู้, พวก ทะ
แกล้ว ทหาร ทั้ง ปวง พร้อม กัน เต็ม ใจ รบ พุ่ง ทุก คน. การ ศึก จึ่ง
เข้ม ข้น แขง แรง ขึ้น กว่า ครั้ง แต่ ก่อน. ทัพ ชาว เมือง ออก ตี
พวก เดน แตก พ่าย ไป เปน หลาย ค่าย, แล้ว หัก หาร รุก รบ เข้า
ไป จับ บุตร เหศติง แม่ ทัพ ได้ สอง คน, กับ ภรรยา คน หนึ่ง,
ทำ ไป ถวาย กระษัตร. ๆ จึ่ง รับ สั่ง ให้ ไป แจ้ง แก่ เหศติง แม่
นัพ ว่า, ถ้า ท่าน ให้ สัตย์ สัญญา เสีย จะ ไม่ คิด ทำ สงคราม กับ
เรา ต่อ ไป, เรา จะ คืน บุตร แล ภรรยา ให้. เหศติง ก็ อ่อน นอ้ม
ยอน ทำ สัตย์ สัญญา ถวาย. ครั้น ได้ บุตร ภรรยา คืน แล้ว ก็ เลิก
ทัพ กลับ ไป.

๏ อนึ่ง พวก เดน ใน เมือง ทั้ง สอง นั้น ก็ ทรง ยก โทษ, แล้ว
โปรด ให้ อยู่ บ้าน เมือง ตาม เคย, แต่ มิ ได้ ตั้ง ให้ พวก เดน เปน
เจ้า เมือง เหมือน แต่ ก่อน

๏ ครั้น ศึก สำเร็จ เรียบ ร้อย แล้ว จึ่ง โปรด ให้ ซ่อม แปลง
พระ นคร ใหม่. ที่ ชำรุด หัก พัง นั้น, ก็ ทำ มั่น คง แขง แรง งด
งาม กว่า แต่ ก่อน. แล้ว ทรง ตั้ง กฎหมาย แล ที่ ชำระ ความ,
แล ตั้ง สำนักนี้ อาจารย์ ใหญ่ ไว้ ใน เมือง ลอนดอน, ชื่อ อักษะเพ็ด
ยูนิเวอศติ แห่ง หนึ่ง, แล ที่ อาจารย์ อื่น อีก เปน อัน มาก, ใน ตำ
บล ทาง ๆ. แล ชื่อ สำนักนี้ อาจารย์ ใหญ่ นั้น มี ปรากฏ อยู่ จน ทุก
วัน นี้.

๏ ครั้ง นั้น แอลเฝร็ด กระษัตร ทรง ประพฤติ์ อิริยา บท สาม
สถาน, หวัง จะ ให้ เปน แบบ อย่าง แก่ ชน ทั้งปวง. คือ วัน หนึ่ง
แบ่ง สาม ส่วน, ทรง ว่า ราชการ ส่วน หนึ่ง, นมัสการ พระเจ้า
แล เรียน หนังสือ ส่วน หนึ่ง, เสวย แล ประทม ทั้ง ดำเนิน ส่วน
หนึ่ง. พระองค์ ทรง ทำนุ บำรุง ราษฎร โดย ยุติธรรม. บ้าน เมือง
เปน สุข สม บูรณ์ ยิ่ง นัก. พระ เดชานุภาพ ปก แผ่ ตลอด ทั่ว
ประเทศ อังกฤษ นั้น.

๏ อยู่ มา ก็ ทรง ประชวน, พระ โรก กำเริบ มาก ขึ้น, ก็
เสด็จ สวรรณคาไล ใน คฤษ ศักราช ๙๐๑ ปี. กระษัตร แอลเฝร็ธ
อยู่ ใน ราช สมบัติ ๒๙ ปีกับ ๖ เดือน, มี พระ ราชบุตร สามองค์
พระ ราชทิดา สาม, ได้เสด็จ ไป ทำ สงคราม ๕๖ ครั้ง, มีคน
สรรเสริญ นับ ลือ มาก, ออก พระนาม ว่าแอลเฟร็ธ ผู้ ใหญ่


๏ สง คราม สาม ครั้ง

๏ เมือง อังกฤษ, ได้ทำ การ ศึก สงคราม กัน กับ เมือง ยู
ใน ติศเทษ, สาม ครั้ง มา แล้ว. ครั้ง ก่อน เมื่อ คฤศ ศักราช
ได้ ๑๗๗๖ ปีนั้น, ทำ ศึก กัน อยู่ ถึง ๗ ปีเสศ, จึ่ง ยอม แพ้
แก่ เมือง ยูใน ติศเทษ. ได้เสีย สมบัติ เปน อัน มาก นัก หนา,
กว่า ๓๐๐๐ ล้าน เหรียน.

๏ ครั้น มา ครั้ง ที่ สอง, เมื่อถึง คฤศ ศักราช ๑๘๑๒ ปี, ได้
ทำ ศึก สงคราม กัน อยู่ กว่า ๒ ปี. ก็ ยอม แพ้แก่ เมือง ยูในติศ
เทษ อีก ครั้ง หนึ่ง, แล ได้เสีย ทรัพย์ เปล่า ๆ เปน อัน มาก.

๏ ครั้น ลุ คฤศ ศักราช ๑๘๖๑ ปี, ได้ ทำ การ ศึก อีก ครั้ง
หนึ่ง, เปน ครั้ง ที่ สาม. แต่ ครั้ง หลัง นี้ หา ได้ รบ กัน เหมือน
ครั้ง ก่อน ๆ ไม่, หา ได้ ยก กอง ทัพ ไป ตี เอง ไม่, เปน แต่
ช่วย อุดหนุน เกื้อ กูล ฝ่าย พวก กระบถ ต่าง ๆ, ด้วย ใจ คิด ประ
ทุษร้าย, อยาก จะ ให้ เมือง ฝ่าย เหนือ นั้น ปราไชย์ แก่ เมือง ฝ่าย
ใต้, เพื่อ ประสงค์ จะ ให้ เมือง ยูในติศเทษ นั้น อ่อน กำลัง ลง,
ภอ จะ สู้ รบ เมือง อังกฤษ ไม่ ได้ อีก ต่อ ไป. แต่ การ ศึก อย่าง ครั้ง
หลัง นี้, เมือง อังกฤษ ก็ หา สม ความ คิด ไม่, ต้อง ยอม แพ้. คือ
ฝ่าย พวก กระบถ ที่ เขา ช่วย นั้น, ได้ ปราไชย์ พ่าย แพ้ ฉิบหาย ไป
แล้ว, แล พวก อังกฤษ ที่ ได้ ขาย เชื่อ เครื่อง สาตราวุธ ต่าง ๆ,
แล ช่วย อุด หนุน ส่ง เสบียง อาหาร, เปน กำลัง แก่ พวก กระ
บถ เปน อัน มาก, แล ให้ พวก กระบถ นั้น ยืม เงิน ไป หลาย สิบ
ล้าน เหรียน, ด้วย หมาย ว่า จะ ได้ กำไร สอง อย่าง, คือ จะ ได้ เงิน
อย่าง หนึ่ง, แล ตัว จะ ได้ มี อิศรภาพ เปน ใหญ่ กว่า เมือง ยูใน
ติศเทษ นั้น อย่าง หนึ่ง. แต่ ความ ที่ หมาย นั้น, ก็ เสีย ยับ เยิน
ไป เสีย แล้ว. คน ผู้ ใหญ่ ใน เมือง อังกฤษ ก็ เสีย ใจ เปน อัน มาก,
เพราะ การ ที่ เขา ช่วย อุด หนุน พวก ขบถ นั้น.

๏ แต่ หา ควร ที่ จะ ว่า, เคาเวอ เม็นต์ อังกฤษ ช่วย ทำ การ
ศึก ครั้ง หลัง แท้ ไม่. เปน แต่ เสรษ ฐี ขุนนาง เจ้า นาย ผู้ ใหญ่
เท่านั้น. ฝ่าย กวีน วิกโตเรีย เจ้า เมือง อังกฤษ นั้น ครั้น ได้ ยิน ว่า,
เมือง อเมริกา ฝ่าย ใต้ เปน กระบถ แล้ว, จึ่ง มี กฎหมาย ประกาษ
ใจ ความ ว่า, ควร ที่ เรา จะ รับ พวก กระบถ ว่า, เปน เมือง ที่ มี
อำนาฏ ภอ ควร จะ ทำ การ ศึก สงคราม ได้ เหมือน เมือง อเมริกา ฝ่าย
เหนือ เหมือน กัน. แต่ หา ควร ที่ เมือง เรา จะ ช่วย อุด หนุน เมือง
อเมริกา ฝ่าย ใด ฝ่าย เหนือ ไม่, จง ให้ เมือง เรา ตั้ง อยู่ ใน ท่ากลาง
เมือง อเมริกา ทั้ง สอง ฝ่าย เถิด. ซึ่ง เมือง อังกฤษ มี กดหมาย ประ
กาศ ว่า, ฝ่าย พวก กระบถ นั้น, เปน เมือง มี อำนาฏ ภอ ควร จะ ยอม
ให้ รับ กัน, หา ควร ที่ เรา จะ ห้าม เขา ไม่ นั้น, เปน ความ อุดหนุน
เกื้อ กูล พวก กระบถ มาก อยู่ เอง. เพราะ เหตุ นั้น พวก กระบถ จึง
ดี ใจ องอาจ ทำ หนังสือ ยอม ให้ พวก ของ ตัว, แต่ง เรือ เปน พวก
สลัด กอง โจร, เที่ยว ปล้น ตี เรือ ค้า ขาย แห่ง เมือง ยูไนติศเทษ
เปน หลาย ร้อย ลำ ด้วย กัน. แล พวก เรือ ค้าขาย ฝ่าย เหนือ นั้น
จึ่ง กลัว, ไม่ อาจ ไป เที่ยว ค้าขาย ได้. เรือ พวก สลัด กอง โจร
นั้น มี หลาย ลำ, เที่ยว ตี เรือ ค้าขาย ที่ มา แต่ ประเทศ ใกล้ แล
ไกล. การ ค้าขาย ที่ เมือง ฝ่าย เหนือ ใน ๔ ปี ที่ ยัง รบ กัน อยู่ นั้น,
จึ่ง ป่วย การ เสีย ยับ เยิน ไป นัก หนา, เหลือ ที่ จะ นับ จะ ประ
มาณ ได้.

๏ เพราะ เมือง อังกฤษ ได้ ยอม ว่า, เมือง อเมริกา ฝ่าย ใต้
เปน เมือง มี อำนาฏ ภอ ควร ที่ จะ รบ ทำ ศึก กัน เอง ได้, จึ่ง มี
พวก อังกฤษ เปน ตัว อย่าง ก่อน, เคาเวอเมนต์ ฝรั่งเศศ จึ่ง ทำ ตาม
อย่าง นั้น. แล มี เมือง อื่น ๆ อีก หลาย เมือง ก็ ทำ ตาม อย่าง นั้น
ด้วย. ฝ่าย พวก กระบถ จึ่ง มี กำลัง กล้า แขง แรง ขึ้น. ถ้า เมือง
อังกฤษ ไม่ ได้ รับ พวก กระบถ ฝ่าย ใต้ เช่น ว่า มา แล้ว นั้น, เมือง
ฝรั่งเศศ แล เมือง อื่น ๆ ก็ คง จะ ไม่ รับ รอง, แล พวก กระบถ ก็
จะ ไม่ อาจ ที่ จะ แต่ง เรือ สลัด กอง โจร ได้, เพราะ กลัว อังกฤษ ฤา
ฝรั่งเศศ จะ จับ ทำลาย เสีย. เหตุ เพราะ อังกฤษ แล ฝรั่งเศศ ได้
รับ ว่า, เปน เมือง มี อำนาฏ ภอ ควร จะ ตั้ง ทำ สงคราม กัน ได้, ก็
เปน เหมือน เมือง อังกฤษ, แล เมือง ฝรั่งเศศ ได้ สัญญา ไว้ กับ
พวก กระบถ ว่า, เรา จะ ไม่ ห้าม การ ที่ แต่ง เรือ สลัด กอง โจร นั้น
ดอก. เพราะ เหตุ ความ นี้ จึ่ง เห็น ควร ที่ จะ ว่า, เมือง อังกฤษ
ได้ ช่วย อุด หนุน ใน การ กระบถ นั้น จริง, แล พวก กระบถ ฝ่าย
ใต้ เมือง อเมริกา กับ เมือง อังกฤษ, ได้ ความ ปราไชย์ พ่าย แพ้
ด้วย กัน ดัง นั้น แล.

คำ กงสุน อเมริกา ทูล ถวาย เจ้า ชีวิตร เนื้อ ณวัน
ศุกร์ เดือน ๑๑ ขึ้น ๒ ค่ำ

ไซเยอ ( คือ พนหัวเจ้าท่าน )

๏ ข้าพเจ้า มี ความ ยศถา ศักดิ์ ขึ้น, เพราะ ความ ที่ ท่าน ได้
โปรฏ ให้ ข้าพเจ้า, มา ถวาย หนังสือ, ที่ เปรสซิเต็นต์ แห่ง เมือง ยูไน
ติศเทษ, ได้ ตั้งให้ ข้าพเจ้า มา เปน ที่ กงสุล ณกรุงเทพ ฯ นั้น,
แล บัดนี้ ข้าพเจ้า ขอ พระองค์ ท่าน ได้ โปรฏ ให้ ข้าพเจ้า มี หนังสือ
เอ็กซี่ควาเตอ, ตาม ธรรมเนียม ที่ มี แก่ กงสุล ทั้งปวง นั้น เถิด.

๏ บัดนี้ ข้าพเจ้า มี ใจ ปราฐนา จะ ถวาย ซึ่ง ความ สรรเสิญ
พระองค์, แล พระ เกรียติยศ ของ พระองค์, แล จะ เอา ความ
ทาง ไมตรี, แห่ง เปรสซิเต็นต์, แล เคาเวอแมนท์ แห่ง เมือง
ยูใน ติศเทษ นั้น, มา ถวาย แก่ พระองค์.

๏ อนึ่ง การ ศึก ที่ เปน กระบถ อัน ใหญ่ ใน เมือง ยูไนติศเทษ
ได้ ครบ ตลอด สี่ปี นั้น, พระองค์ ย่อม ได้ ทรง ทราบ เลอียด แล้ว.
การ ศึก นั้น, ได้ กระทำ ให้ การ ค้า ขาย แห่ง เมือง ยูไนติศเทษ,
ใน ที่ ต่าง ๆ ประเทศ นั้น เสื่อม เสีย ไป เปน อัน มาก. ใช่ แต่
เท่านั้น, การ กระบถ ย่อม ให้ เคาเวอเมนท์ ยูไน ติศเทษ, เอา
ใจ ใส่ ใน การ ศึก นั้น นักหนา, การ ค้า ขาย ใน เมือง ทั้งหลาย,
ที่ เปน เมือง ไม ตรี กัน นั้น, จึ่ง ต้อง จำ เปน ละ ทิ้ง เสีย บ้าง,
แล หา ได้ ดู แล พวก ชาว เมือง ยูไนติศเทษ, ที่ ไป อยู่ ใน เมือง
ต่าง ๆ ประเทศ ตาม ที่ เคย มี อย่าง แต่ ก่อน นั้น ไม่.

๏ แต่ บัดนี้ ข้าพ เจ้า มี ความ ศุข, เพราะ ข้าพเจ้า ยัง กำ
ลัง กล่าว ให้ ท่าน ทราบ ว่า, เมื่อ การ กระบถ นั้น สงบ ลงแล้ว,
เคาเวอเมนต์ แห่ง เมือง ยูในติศเทษ, มี เขตร แดน เมือง กว้าง
ขวาง เหมือน อย่าง แต่ เดิม. ใช่ แต่ เท่านั้น, มี ที่ บังเกิด
ทรัพย์ สมบัติ มาก กว่า แต่ เดิมด้วย, มี กำลัง ยิ่ง กว่า แต่ ก่อน,
ทหารบก ทหาร เรือ ก็ มี มาก. บัดนี้ เรือ รบ ที่ เมือง ยูในติศเทษ
นั้น ก็ มาก. เมือง อื่น ที่ จะ มี กำลัง เรือ รบ มาก กว่า เมือง ยูใน
ติศเทษ นั้น หา มิ ได้. บัด นี้ เรือ รบ นั้น มาก กว่า ที่ จะ ต้อง ใช้ ใน
บ้าน เมือง นัก, เคาเวอเมนต์ ยูในติศเทษ, จึ่ง จะ ใช้ ไป เมือง
อื่น ๆ ต่าง ประเทศ, เรือ รบ เมือง ยูในติศเทษ จะ ไป เมือง
อื่น ๆ มีมาก กว่า แต่ ก่อน นัก. แล เรือ รบ ที่ จะ มา บุรพ ทิศ
ตวัน ออก นั้น, คือ เมือง จีน, เมือง สยาม, เมือง กาละ
ตักตา, คง จะมี มาก ภอ ที่ เสมอ กับ เรือ รบ เมือง อื่น ได
หนึ่ง, ที่ เปน เมือง เอกราช นั้น. แต่ การ ที่ ใช้ เรือ รบ ออก มาก
ไป นั้น, จะ ได้ คิด การ ที่ จะ ทำลาย ขนบ ธรรมเนียม เมือง ยูใน
ติศเทษ, แต่ เดิม มา นั้น หา มิ ได้, คือ ธรรมเนียม ห้าม ไม่
ให้ ไป ตี เมือง ฝ่าย ตวัน ตก นั้น, ให้ เข้า มา อยู่ ใต้ ร่ม ธง เลย.
แต่ จะมี เรือ รบ มา ถึง ประเทษ ตวัน ออก มาก นั้น, เพื่อ ประสงค์
จะ รักษา แต่ เกรียติยศ แห่ง ธง เมือง ยูในติศเทษ, แล การ ค้า
ขาย แล การ ประโยชน์ ทั้งปวง, ที่ ควร จะ ได้ แก่ ชาว เมือง ยู
ไนติศเทษ ทั้งหลาย ที่ เขา ได้ อาไศรย อยู่ นั้น. เคาเวอเมนท์ แห่ง
ยูไนติศเทษ นั้น, ไม่ ปราฐนา ที่ จะ ได้ การ ประโยชน์ อะไร ๆ
มาก กว่า เมือง อื่น ๆ ฤๅ อย่าง ที่ เมือง อื่น ไม่ ได้ นั้น ดอก. ปราฐ
นา จะ ได้ แต่ ประโยชน์ ที่ สมควร แก่ เมือง ใหญ่ เมือง เอก, คือ
ยศ ศักดิ์ แล การ ที่ เปน ประโยชน์, สำรับ เจ้า พนักงาน แล ชาว
เมือง ยูไนติศเทษ, เหมือน ได้ โปรฎ ให้ เจ้า พนักงาน แล ชาว
เมือง อื่น อัน เปน เอกราช นั้น.

๏ อนึ่ง ดิน ใน ประเทศ ไทย, คน ทั้งปวง ก็ ย่อม รู้ ว่า,
ที่ อุดม ยิ่ง นัก, แล รู้ ว่า พระองค์ ท่าน ได้ ครอบ ครอง กรุง สยาม
ด้วย พระ ไทย สว่าง แล โอบ อ้อม อารี, จึ่ง เกิด สิน ค้า มาก ทวี
ขึ้น, แล มี การ ค้า ขาย โดย สดวก. เคาเวอเมนท์ ยูไนติศ
เทษ, จึ่ง เห็น ควร ที่ จะ ตั้ง กงสุล ที่ กรุงเทพ ฯ, แล ได้ ห้าม
ไม่ ให้ ประกอบ การ เลี้ยง ชีวิตร ด้วย การ ค้า ขาย, แต่ ให้ อุษาห์
ทำ การ กงสุล ทุก เวลา โดย เตม กำลัง ของ ตัว. ข้าพเจ้า ได้ เปน
ที่ กงสุล แล้ว, จะ ต้อง เอาใจใส่ นักหนา, ใน ทาง พระราช
ไมตรี, ที่ เมือง สยาม กับ เมือง ยูในติศเทษ, ได้ เปน ทาง
พระราช ไมตรี เปน หลาย ปี มา แล้ว นั้น. ข้าพเจ้า จะ อุษาห์ ประ
พฤษดิ์ การ กงสุล, เพื่อ จะ ให้ กรุง สยาม กับ เมือง ยูในติศเทษ,
เปน ความ ชอบ สนิท กัน ต่อ ๆ ไป เปน นิจ. ข้าพเจ้า มี ความ
ไว้ใจ ใน พระไทย ท่าน ที่ สว่าง แล โอบ อ้อม อารี ที่ ได้ ปรากฏ ออก
มา แล้ว นั้น, แล ได้ กระทำ การ ที่ ท่าน ได้ ครอบ ครอง นั้น ให้
รุ่ง เรือง มาก แล้ว.

เคมีศตริ บท ๓

๏ เดือน ก่อน นี้ เรา ได้ ว่า ด้วย อกซุเชน, ว่า อกซุเชน นั้น
เปน จะ ยัง ไพ ติด, คือ ถ้า ไม่ มี อกซุเชน ใน ลม นั้น ไฟ ก็ ไม่ ติด
เลย. อีก ประการ หนึ่ง, อกซุเชน นั้น เปน ที่ จะ เลี้ยง ชีวิตร สัตว์,
คือ ถ้า ไม่ มี อกซุเชน อยู่ ใน ลม หายใจ เข้า ออก แล้ว สัตว ทั้ง ปวง
ก็ จะ ตาย เรว. ที่ นี้ จะ ว่า ด้วย นิตโรเชน. นิตโรเชน นั้น เปน
ลม หย่าง หนึ่ง, แต่ ไม่ ได้ อยู่ เปน สิ่ง เดียว. ถ้า จะ เอา ลม อา
กาษ แบ่ง เบน ๕ ส่วน ก็ เปน นิตโรเชน ศัก ๔ ส่วน เปน อกซุเชน
ศัก ส่วน ๑. ถ้า ปราถนา จะ กระทำ ให้ นิตโรเชน นั้น ปรากฏ เปน
แต่ สิ่ง เดียว ก็ ให้ กระทำ ดัง นี้, คือ เอา ผง เหลก ส่วน หนึ่ง, ผง
กำมะถัน ส่วน หนึ่ง, มาก น้อย ไม่ ว่า, ปน กัน เข้า, แล้ว เอา น้ำ
ใส่ ภอ ให้ เปียก. แล้ว ใส่ ไว้ ใน ขวด ที่ เติม ด้วย ลม อากาษ บิด
ปาก ขวด ให้ มิด สนิท ดี. อกซุเชน ที่ อยู่ ปน กับ นิตโรเชน ที่ อยู่
ใน ลม อากาษ, อกซุเชน นั้น ก็ จะ ละ เสีย ซึ่ง นิตโรเชน, แล้ว
จะ เข้า ติด กับ เหลก กำมะถัน นั้น, แล้ว นิตโรเชน ก็ จะ ปรากฏ
อยู่ แต่ สิ่ง เดียว. นิตโรเชน นั้น ก็ เปน สว่าง เหมือน ลม อากาษ,
แล ไม่ มี รศ ไม่ มี กลิ่น เลย. อนึ่ง มัน เปน เบา กว่า ลม อากาษ
ศัก นิด หนึ่ง. บาง คน จะ ถาม ว่า, เออ เมื่อ เหน ด้วย ตา ไม่
ได้, แล ไม่ มี รศ ที่ จะ ชิม ดู ได้, แล ไม่ มี กลิ่น ที่ จะ ดม ได้, ถ้า
จับ ต้อง ไม่ ได้ แล้ว, ก็ จะ ทำ อย่าง ไร ให้ ปรากฏ ได้ เล่า. ก็ จะ รู้
ได้ ดัง นี้, คือ เอา เทียน จุด ไฟ แล้ว ใส่ ใน ขวด นิตโรเชน ให้ เทียน
นั้น จม ลง ใน นิตโรเชน ภอ มิด แล้ว, เทียน ก็ จะ ดับ เสีย ใน พริบ
ตา เดียว. ประ การ หนึ่ง, ถ้า จะ เอา สัตว เลก ๆ มี นก หนู เปน
ต้น ใส่ ลง ใน ขวด นั้น, แล้ว สัตว เหล่า นั้น ก็ จะ ตาย เรว. แล
เทียน มัน ดับ ไป นั้น ก็ เพราะ ไม่ มี อกซุเชน, แล สัตว เหล่า นั้น
ตาย ก็ เพราะ ไม่ มี อกซุเชน เหมือน กัน. ประการ หนึ่ง, ถ้า บุคคล
จะ เอา ปาก ขวด นั้น ใส่ เข้า ใน ปาก, แล้ว เอา มือ บีบ จะมุก ให้
แน่น อย่า ให้ ลม อากาษ เข้า ใน จะมุก ได้, แล้ว ก็ หาย ใจ เข้า ออก
ด้วย ปาก ให้ ลม ที่ อยู่ ขวด เข้า ออก ใน กาย ด้วย หาย ใจ ด้วย ปาก
นั้น, ไม่ ช้า ไม่ นาน คน ที่ ทำ เช่น นั้น ก็ จะ ตาย เรว. แต่ จะ ว่า
นิตโรเชน นั้น มี พิษม์ ก็ ว่า ไม่ ได้. เพราะ นิตโรเชน นั้น ไม่ มี
อกซุเชน ปน อยู่ ด้วย, คน นั้น จึ่ง ตาย เรว. เหมือน กับ พวก ทหาร
อังกฤษ ประมาณ ๑๒๓ คน, เมื่อ แพ้ แก่ สงคราม พวก แขก จับ
ได้ เอา ไป ใส่ ไว้ ใน คุก ๑๔๖ คน, คุก นั้น กว้าง ยาว สิบ ศอก
แล มี ช่อง เลก ๆ ช่อง เดียว สำหรับ ให้ ลม แล สว่าง เข้า ไป ปรากฏ.
เมื่อ เขา อยู่ ใน ห้อง น่อย หนึ่ง ก็ ไม่ สบาย หาย ใจ ยาก นัก. ที
หลัง เกิด เปน ไข้ ร้อน นัก, เขา ก็ ร้อง ขอ ลม ขอ น้ำ, แล้ว ก็
ด่า พวก แขก ที่ เฝ้า คุก ด้วย ปราถนา จะ ให้ พวก แขก เข้า มา ฆ่า
ตน เสีย. เมื่อเขาพากัน เข้าอยู่ใน คุก นั้น เปนเพลา กลาง คืน ศัก
สอง ทุ่ม, ครั้น สว่าง แล้ว พวก แขก เข้า ไป ดู ก็ เหน ว่า ตาย
แล้ว ๑๒๓ คน, ยัง ไม่ ตาย ๒๓ คน. ตาย มาก ดังนั้น ก็ เพราะ
อกซุเชน ที่ อยู่ ใน ลม หาย ใจ นั้น สิ้น เรว เหลือ อยู่ แต่ นิตโรเชน.

๏ ที่ นี้ จะ ว่า ด้วย สิ่ง ทำ ด้วย อกซุเชน แล นิตโรเชน สอง สิ่ง
นั้น. ประการ หนึ่ง, ถ้า นิตโรเชน ๔ ส่วน อกซุเชน ส่วน หนึ่ง ปน
กัน เข้า ก็ จะ เปน ลม อากาษ ดัง ว่า มา แล้ว แต่ หลัง นั้น. ลม อา
กาศ นั้น ถ้า มี อกซุเชน มาก กว่า กำหนด แล้ว, ก็ จะ ให้ สัตว มี
ตัว ร้อน แล หาย ใจ หอบ ไป. ถ้า มี น้อย กว่า กำหนด แล้ว, ก็ จะ
กระทำ ให้ สัตว หิว โหย ไม่ มี แรง เลย. ประการ หนึ่ง, ยัง มี อีก
๔ สิ่ง ที่ ทำ ด้วย นิตโรเชน แล อกซุเชน นั้น, คือ ลม อย่าง หนึ่ง
เรียก ว่า นิตรัษ อกซิด. NITROUS OXIDE. คือ ลม อย่าง หนึ่ง เรียก
ว่า นิตริค อกซิด. NITRIC OXIDE. คือ น้ำ กรด อย่าง หนึ่ง ชื่อ ว่า
นิตรัษ อาซิด. NITROUS ACID. คือ น้ำ กรด อย่าง หนึ่ง ชื่อ ว่า นิต
ริค อาซิด. NITRIC ACID. อนึ่ง ลม ชื่อ ว่า นิตรัษ อาซิด นั้น มี นิต
โรเชน ๔ ส่วน อกซุเชน ๒ ส่วน. ถ้า บุคคล จะ หาย ใจ ด้วย ลม
อย่าง ว่า มา นี้ หาย ใจ เข้า ออก ศัก ๘ ทนาน ๑๐ ทนาน, ก็ จะ เมา
ไป เหมือน กับ คน เมา เล่า, ให้ สติ ฟั่น เฟือน ไป. ฝ่าย ลม ที่ เรียก
ว่า นิตริก อกซิด นั้น มี นิตโรเชน ๔ ส่วน อกซุเชน ๔ ส่วน เท่า กัน
เหมือน กัน. ถ้า ผู้ ใด จะ หาย ใจ ด้วย ลม อย่าง นี้ ศัก หนิด หนึ่ง,
มัน ก็ จะ ให้ ไอ นัก แล อัด ใจ หาย ใจ ไม่ ใคร่ ออก. ถ้า จะ เอา
เทียน จุด ไฟ ใส่ ใน ลม นั้น มัน ก็ จะ ดับ เสีย เรว. ประการ หนึ่ง,
น้ำ กรด ที่ เรียก ว่า นิตรัษ อาซิด นั้น มี นิตโรเชน ๔ ส่วน อกซุเชน
๘ ส่วน. น้ำ กรด นี้ เขา ใช้ เปน ยา มาก, เปน ศี เขียว. ประการ
หนึ่ง, น้ำ กรด ที่ ชื่อ ว่า นิตริก อาซิด นั้น มี นิตโรเชน ๔ ส่วน, อก
ซุเชน ๑๐ ส่วน. น้ำ กรด อย่าง นี้ เปน ศี แดง เปน หนัก กว่า น้ำ
ฝน น่อย หนึ่ง, เขา ใช้ ต่าง ๆ, คือ ใช้ ย้อม ผ้า บ้าง, คือ ใช้ สลัก
ทอง แดง, แล ใช้ เปน ยา บ้าง. ของ ห้า สิ่ง เหล่า นี้ มี ลม อากาษ
เปน ต้น, ทำ ด้วย นิตโรเชน แล อกซุเชน, ไม่ มี สิ่ง อื่น ปน เลย.

๏ ตำรา ยา คัด เนื้อ ทอง ออก จาก แร่

๏ ด้วย แต่ กอ่น นั้น, เมื่อ จะ คัด ทองคำ ออก จาก กอ้น แร่,
ก็ ต้อง หัก ยอ่ย กอ้น แร่ นั้น เลอียด กอ่น, แล้ว จึ่ง คอ่ย เก็บ
เอา เนื้อ ทอง นั้น ที่ ละเม็ด ๆ, เปน การ ลำบาก ช้า นัก. แล้ว
ก็ เก็บ ได้ ไม่ หมด ดว้ย. บัด นี้ ผู้ ชื่อ, เซ แอ เยอ เปน ชาว เมือง
แมซจิวเซศ แขวง เมือง อเมริก, เปน คน ชำนาญใน วิชา เคม
มิศตรี ได้ ตำรา อย่างใหม่, คือ คัด เนื้อ ทอง คำ ออก จาก กอ้น แร่.
เขา สรรเสิญ ว่า, ยา นั้น เมื่อ กำลัง รอ้น กล้า, ถ้า ซัดใส่ลง ที่
กอ้น สิสา แล กอ้น แร่ แล้ว กอ้น สิลา แล กอ้น แร่ นั้น, ก็ เปื่อย
ยุ่ย ละลาย ออ่น ไป, เหมือน อย่าง ดินสอ พอง. แล้ว ก็ คัด เก็บ
เอา เนื้อ ทอง คำ, แล เงิน นั้น ได้ สดวก ง่าย นัก ไม่ สู้ ลำบาก เลย.
ยานั้น ก็ ชำระ คัด เนื้อ ทอง แล เงิน นั้น ออก ให้ บริสุทธิ์, ไม่ ใค่ร
มี เนื้อ ทอง ที่ จะ เหลือ ปน กอ้น สิลา, แล กอ้น แร่ อยู่ เลย.

๏ ตำรา อย่าง เก่า ๆ ที่ เคย ใช้ มา นั้น, ก็ ตอ้ง มี เครื่อง มือ
ที่ สำรับ จะ หัก กอ้น สิลา, แล ย่อย กอ้น แร่ เปน เครื่อง จักร แล
เครื่อง ต่าง ๆ ตอ้ง ลง ทุน มาก, แต่ ตำรา อย่าง ใหม่ นั้น, เครื่อง
มือ อย่าง ที่ กล่าว มา นี้, ไม่ สู้ ตอ้ง การ แล เนื้อ เงิน, เนื้อ ทอง ที่
ทำ ได้ ดว้ย ตำรา อย่าง ใหม่ นี้, ได้ เนื้อ มาก กว่า ตำรา กอ่น สอง
เท่า. มี ครู ใหญ่ ใน วิชา เคมมิศตรี หลาย คน, ที่ ควร จะ เชื่อ
ไว้ใจ ได้ นั้น, เขา สรรเสิญ วิชา ตำรา ใหม่ นี้ นัก ว่า, คง จะ เปน
การ ใหญ่ ยิ่ง, ให้ บังเกิด เงิน ทอง ขึ้น ใน บ้าน เมือง มาก กว่า แต่
กอ่น นัก, จึง มี พวก เสรฐี. ที่ เมือง นุยอก เข้า ดว้ย กัน หลาย
คน เปน พวก ใหญ่, สำหรับ ที่ จะ ไล่ เลียง คัด เนื้อ ทอง แล เงิน
ตาม ตำรา อย่าง ใหม่ นี้.

๏ ถ้า วิชา ใหม่ นี้ จะ ดี เหมือน เขา สรรเสิญ แล้ว, ใน รว่าง
ห้า ปี เบื้อง น่า นั้น, การ ที่ คัด เนื้อ ทอง ออก จาก กอ้น แร่, ก็ จะ
ใหญ่ ขึ้น กว่า แต่ กอ่น, ภอ ที่ เงิน ทอง ที่ มาก กว่า แต่ กอ่น นั้น
จะ ใช้ ดอก เบี้ย แห่ง เมือง ยูไนติศเทษ ได้ หมด ทุก ปี ๆ. แล
ดอก เบี้ย นั้น ประมาณ ปี ละ ๑๘๐ ล้าน เหรียญ ทุก ปี ๆ. เมื่อ แรก
เกิด การ กระบถ ใน เมือง ยูไนติศเทษ ได้ ห้า ปี มา แล้ว นั้น, ครั้น
เมื่อ เมือง ยูไนติศเทษ, จะ ตอ้ง การ ทรัพย์ มาก กว่า แต่ กอ่น,
พระเจ้า บันดาน ให้ ภบ ปะ น้ำมัน ดิน มาก, เปน ที่ ให้ บังเกิด เงิน
ขึ้น มาก ปี ละ หลาย รอ้ย ล้าน เหรียญ. จึง ไม่ สู้ ขัดสน ดว้ย เงิน
เมื่อ ยัง กำลัง ทำ ศึก อยู่ นั้น. แล บัด เดี๋ยว นี้, เมื่อ เมือง ยูไนติศ
เทษ จะ ตอ้ง การ เงิน มาก กว่า แต่ กอ่น อีก, พระเจ้า ได้ โปรด ให้
เกิด วิชา ที่ คัด ไล่ เลียง เนื้อ ทอง ออก จาก แร่ นั้น, เพื่อ จะ ให้
เปน ประโยชน์ แก่ บ้าน เมือง. นี่ และ เปน การ ที่ พระเจ้า ได้ ทรง
โปรด เมือง ยูไนติศเทษ แท้. การ ที่ ควร จะ สรรเสิญ พระองค์ แต่
ผู้ เดียว, ดว้ย ความ ดี ทั้งปวง บังเกิด เทราะ พระองค์ ทั้ง สิ้น.


ติ คำ พวก เคย ทำ ภาษี

๏ ข้าพเจ้า ข้าใน กรม มี ความ เจ็บ ร้อน, ด้วย เหน หนัง
สือพิมพ์ ฉบับ หนึ่ง, ออก ษาระบาล ว่า, ความ ตอบ ตัด สิน ชั้น
ซัน. ใน ข้อ ต้น นั้น เหมือน จะ ชัก เอา อำนาจ พระ สติ ปัญญา
พระเจ้า น้อง ยา เธอ กรมหลวง วงษา ธิราช สนิท, ลง เปรียบ กับ
ปัญญา ลูก จ้าง แจว เรือ. ซึ่ง ว่า อย่าง นี้ ไม่ ควร เลย. ด้วย
เรื่อง จีน เล็ก เจ้า ภาษี ฝ้าย, ช่อ ราษฎร เก็บ ภาษี เกิน พิกัด. มี
จีน ทั้งหลาย ถวาย ฎีกา, ทรง พระ มหา กรุณ พระราชทาน ฎีกา
ให้ พระเจ้า น้อง ยา เธอ กรม หลวง วงษา ฯ ชำระ. ครั้น เปน
สัตย ว่า, จีน เล็ก ช่อ จริง, จึ่ง พระเจ้า น้อง ยา เธอ ฯ ทรง ตัด
สิน ให้ คืน เงิน ให้ แก่ ราษฎร. จีน ลูก ค้า ทั้งหลาย มี ความ ยิน
ดี สรรเสิญ ยิ่ง นัก, มี งิ้ว มี หนัง เปน ๓/๔ } วัน สมโภช พระราช
วัง เดิม. ตั้ง เครื่อง สักการ บูชา บ่าย หน้า ต่อ พระบรม มหา ราช
วัง, ถวาย นมัสการ พระเดช พระคุณ พระเจ้า แผ่นดิน. แล้ว
ถวาย พร เปน อัน มาก ตาม ธรรม เนียม จีน. การ อัน นี้ กึก
ก้อง เจริญ พระเกรยติยศ กรุง สยาม มาก. ก็ เพราะ พระเจ้า น้อง
ยา เธอ ฯ เสดจ พระราช ดำเนิน โดย พระกระแส ที่ เปน ยุติธรรม,
ไม่ ทรง ประกอบ ใน โทษ ที่ เปน กิจ ของ คน ไม่ มี อาย ประพฤติ.
การ นี้ เปน ที่ ปฤดา ปราโมช ของ คน เปน อัน มาก. ซึ่ง มา ติ
ว่า, ลูก จ้าง แจว เรือ ก็ ตัด สิน ได้นั้น, ชั่ว นัก ไม่ ถูก เลย.
ลูก จ้าง แจว เรือ จะ คืน เงิน ที่ เจ้า ภาษี ช่อ, ให้ แก่ ราษฎร ได้
ฤา. สังเกต ดู สำนวล คำ พูด นั้น, ส่อ ว่า ผู้ พูด นั้น ไพร่ นัก.
แล้ว ส่อ ให้ รู้ ถึง ใจ แล อัชฌาไศย ว่า เปน ไพร่ ด้วย.

๏ ใน คำ ว่า เปน พวก เคย ทำ ภาษี อากร นั้น, เปน แต่
เคย แจว เรือ ให้ เขา ไป เก็บ ภาษี ดอก กระมัง. ด้วย สันดาน
เคย อย่าง นั้น, จึ่ง อ้าง ท่าน ผู้ ใหญ่ มา เปรียบ ได้. ฤา จะ
เปน หลวง ภาษี ฯ ออก ตอบ, ด้วย จีน เล็ก เจ้า ภาษี ฝ้าย เปน
น้อง อำแดง สุ่น ภรรยา หลวง ภาษี ฯ. ใน เรื่อง ความ นั้น, ก็
เปน เรื่อง หลวง ภาษี ฯ ช่อ เหล็ก ด้วย. หลวง ภาษี ฯ จึ่ง มี
ความ เจ็บ ใจ. แล้ว ใน คำ ตอบ นั้น อ้อม แอ้ม ๆ, แก้ ตัว ไม่
ใคร่ หลุด. โจท หา ว่า หลวง ภาษี ฯ รับ เงิน หลวง ไป มาก,
ซื้อ เหล็ก ส่ง น้อย, ตั้ง บาญชี มาก, ช่อ เงิน ถึง สี่ พัน ชั่ง เสศ.

๏ ใน ใบ ตอบ ว่า, การ ช่อ หลวง เปน สาม อย่าง, แต่
อย่าง ที่ สอง ว่า, ผู้ ใด รับ เงิน หลวง ไป, ซื้อ จ่าย ต่าง ๆ น้อย,
ตั้ง บาญชี มาก, ผู้ ทำ ดัง นี้ ก็ เปน ช่อ หลวง. ตอบ อย่าง นี้
เหมือน เคลิ้ม สะติ มืด หน้า พุก, ด้วย คำ นั้น เปน ฆ่า ศึก กับ ตัว
ก็ หา รู้ ไม่. ใน ข้อ ที่ แก้ บ ทอื่น ๆ ก็ ไม่ ตรง. เหมือน เขา
หา ว่า ลัก ม้า, ให้ การ ว่า ข้าพเจ้า ไม่ ได้ ลัก กระบือ. หฤๅ เขา
ถาม ว่า ไป ไหน มา, บอก ว่า สาม วา สอง สอก. แก้ ตรง เข้า
ข้อ หนึ่ง ก็ เข้า ตัว. แล้ว เอา พระนาม พระเจ้า น้อง ยา เธอ ฯ
ไป เปรียบ เทียบ ที่ ไม่ งาม ด้วย. เมื่อ หลวง ภาษี ฯ ลืม พระ คุณ
ท่าน ไม่ นับถือ ท่าน แล้ว, เจ้า นาย ของ เรา ๆ ยัง นับถือ ท่าน อยู่.

๏ ข่าว มา แต่ เมือง จีน

๏ แต่ เมือง จีน ฝ่าย เนื้อ นั้น, มี ข่ ว ฦๅ กัน ว่า, เมือง จีน
ฝ่าย เหนือ ทิศ ตวัน ตก, มี แขก ผู้ หนึ่ง ยา ทัพ มา ชิง เอา แดน
เมือง จีน นั้น, แล ได้ ไว้ ใน อำนาถ ของ ตน เสีย หมด แล้ว.
แขก นั้น เปน บุตร ของ ซังคายเฌอ, ผู้ ที่ เอ๊มเบีรอ เมือง จีน ซื้อ ทา
เอา ควัง, ได้ ตัด เอา ศศะ เมื่อ ครั้ง กอ่น นั้น. ดู เหมือน การ ขะ
บถ ข้าง ฝ่าย เหนือ นั้น จะ เปน สอง พวก. พวก หนึ่ง เรียก ว่า ใน
เอน ไฟ เปน พวก ปล้น, พวก หนึ่ง เปน แขก มฮัมเมดัน เปน ทะ
หาร, เขา ปราถนา จะ เอา เมือง จีน ให้ อยู่ ใน อำนาถ. แล เอมปี
รอ ที่ เมือง จีน ได้ ยก ออก ไป, หมาย จะ ต่อ สู้ กับ พวก ใน เอน
ไฟ, ดู เหมือน จะ เขา ใจ ว่า พวก ใน เอน ไฟ, กับ ทับ มฮัมเมดัน
จะ เปน ทัพ เดียว กัน แล้ว.

๏ อนึ่ง มี ข่าว ฦๅ ว่า เมือง จีน ทิศ ตวัน ตก ฝ่าย ใต้, จีน สอง
จำพวก ทำ ศึก กัน, พื้น ติศ พวก หนึ่ง, แล ฮักคา ซี่ พวก
หนึ่ง, เมื่อ ครั้ง ก่อน นาน ประมาณ สิบ สอง ปี ได้ รบ กัน ที่ หัว
เมือง กวางตุ้ง. ตั้ง แต่ นั้น มา ศึก ก็ สงบ จึ่ง ได้ สุข. มา แต่
บัด นี้ ก็ เกิด แขง แรง ร้าย กว่า แต่ ก่อน นัก. แล มันดารื่น
ขุนนาง จีน นั้น, ดู เหมือน จะ ไม่ ยาก ที่ จะ ให้ ศึก นั้น เปน ปรกติ
ดัง เก่า ได้. ฤๅ นึก ว่า หา มี กำลัง ที่ จะ สู้ ได้ ไม่.

๏ อนึ่ง มี ข่าว มา แต่ เมือง นันคีน เปน แขวง เมือง จีน ว่า,
ขุนนาง ใหญ่ ชื่อ ลิฮุงซัง, มี หมาย ประกาศ มา เปน ใจ ความ ว่า,
ฝูง ราษฎร ใน แขวง เมือง นันคีน, มี ความ ทุกข์ ลำ บาก ยาก
เอย็น นัก เพราะ น้ำ ท่วม, เข้า แล ฝ้าย แล สิ่ง ของ ต่าง ๆ ก็
เสีย มาก. แล หนังสือ ประกาศ นั้น ได้ เขียน เพื่อ ประสงค์ จะ
ให้ ผู้ ที่ มี สรรพ สิ่ง ของ ที่ เหลือ ใช้, ให้ มี ใจ เมตา ไป แจก
จ่าย แก่ คน ที่ ตก ยาก นั้น ด้วย.

๏ อนึ่ง เรือ บาก สยาง ที่ ชื่อ มาเรีย นั้น, ได้ นำ ข่าว ไป บอก
ที่ เมือง ฮ่องกง ว่า, กำปั่น ชื่อ นูเบีย, เปน เรือ แห่ง เมือง
โอล์เด็นเบิก, พวก สลัด ที่ ชาย ทเล ไฮนำ, ได้ จับ เอา ไป
เสีย แล้ว. แต่ กบีตัน นาย เรือ แล ลูก เรือ รอด ได้ หมด. ได้
อาไศรย เรือ เมือง ฮัมเบิก, ๆ ชื่อ อัตเอลันตา, โดย สาร ไป ถึง
เมือง ไซ่ง่อน แล้ว.

๏ ข่าว มา แต่ เมือง ญี่ปุ่น ๚ะ

๏ ว่า เซอ ฮารี่ ปาศ, จะ ได้ ตั้ง บ้าน อาไศรย อยู่ ที่ เมือง ยิดโด
แล้ว, แต่ เสนาบดี ไม่ ชอบ ใจ ให้ อยู่ ที่ นั้น, ด้วย เขา ปราฐนา
จะ ให้ ไป ตั้ง อยู่ ที่ ริม ชาย ทเล. แต่ เซอ ฮารี่ ปาศ หา ยอม ไม่,
ถ้า ได้ ยอม แล้ว เมื่อ ใด, กลัว ว่า เกียรติยศ แห่ง เมือง อังกฤษ
นั้น, จะ เสื่อม ถอย ลง. อยู่ มา วัน หนึ่ง พวก เสนาบดี เข้า มา
หา เซอ ฮารี่ปาศ, ๆ บอก ว่า เรา จะ ไป ตั้ง อยู่ ใน เมือง ยิดโด แล้ว.
ฝ่าย เสนาบดี จึง ห้าม ว่า, ท่าน อย่า คิด ดั่ง นั้น เลย, ข้าพเจ้า
ไม่ ยอม. เซอ ฮารี่ ปาศ จึง ตอบ ว่า ตัว เรา มิ ได้ ถาม ท่าน ดอก
ว่า จะ ยอม ฤา ไม่ ยอม, แต่ เรา บอก ว่า คง จะ ไป อยู่ ใน ที่ นั้น.
หา ควร ที่ เรา จะ ตั้ง อยู่ ใน ที่ โยโกฮามา ไม่.

๏ ฝ่าย เสนาบดี ทั้ง ปวง จึง ตอบ ว่า, ถ้า ท่าน จะ ไป อยู่
ที่ เมือง ยิดโด นั้น, น่า กลัว เกลือก จะ เปน อันตราย แก่ ตัว ท่าน
ต่าง ๆ, เพราะ เคาเวอเมนต์ จะ ป้อง กัน ไว้ มิ ได้. แต่ เซอ ฮารี่
ปาศ ก็ หา ฟัง ไม่. ดู เหมือน ที่ ท่าน นึก ใน ใจ ว่า, ถ้า ชาว เมือง
มา ทำ อันตราย แก่ ตัว เรา เมื่อ ใด, เคาเวอเมนต์ ญี่ปุ่น ก็ ต้อง ใช้
เมือง แทน เปน แท้.

๏ อนึ่ง ที่ เมือง นาคาซาคี แขวง เมือง ยิปุ่น นั้น, มี คน ผู้
หนึ่ง เขียน หนังสือ ฝาก มา แต่ ณเดือน ๙ แรม ๓ ค่ำ ว่า, เข้า
ที่ เมือง นั้น กำลัง ขึ้น ราคา มิ ได้ ยด. ใน ราว เดือน ครึ่ง ก็ ขึ้น
ไป อีก เท่า หนึ่ง, เหตุ เพราะ น้ำ ท่วม ต้น เข้า ใน นา จึง ได้ เสีย
มาก. แล มี กำปั่น ทอด อยู่ ที่ หลัง เต่า น่า เมือง นั้น หลาย ลำ นัก,
จะ หา ที่ ซื้อ สินค้า ก็ มิ ได้.

๏ อนึ่ง ที่ เมือง นาคาซาคี นั้น, มี ชาว อังกฤษ ผู้ หนึ่ง ชื่อ
โรเบิด เฮยัดซิ, คน ผู้ นั้น เปน เอเย็นต์ ฝ่าย กระบถ เมือง อเมริกา
เมื่อ กำลัง รพ อยู่ นั้น. เขา ได้ ช่วย พวก ฝ่าย กระบถ จัด แจง
แต่ง เรือ สลัด. ครั้น ภาย หลัง มา ทรัพย์ สมบัติ ของ ตัว ก็ เกิด
อันตราย เสีย ไป หมด. เขา จึง ได้ เที่ยว มา ถึง นาคาซากี่ ได้
หน่อย หนึ่ง, แล้ว จึ่ง โจน ลง น้ำ จม ตาย เพราะ ความ เสีย ใจ นัก.

๏ เมือง บำไบ

๏ มี เสรฐี คน หนึ่ง, ชื่อ มิศเตอ เคาวัสซี ยี่ ฮางเคว ที่
เมือง บำไบ, ดู เหน ว่า ชาย แขก พวก ของ ตัว เปน คน นุ่ม, ได้
เข้า เรียน วิชา ใน สำนักนี้ ใหญ่ ชื่อ ยูนิเวรซิติ, เปน คน ชำณณ ใน
กฎหมาย แล ใน ตำรา ยา. ท่าน จึ่ง มี ความ ปราถนา จะ ให้ มี สำ
นักนี้, สำรับ ที่ จะ สั่ง สอน คน นุ่ม ใน ภาษา ท่าน ให้ เปน คน ชำ
นาน ใน การ วัด ที่ ทำ แผ่น ที่ ทั่ว ทุก แห่ง. ท่าน จึ่ง ออก เงิน ห้า
หมื่น รูเปีย, เพื่อ จะ ได้ สร้าง สำนัก นี้ สั่ง สอน ตาม ความ ปราถนา
นั้น. ครั้น ณ เดือน ๙ ขึ้น ๑๓ ค่ำ, จึ่ง จับ การ ก่อ ตึก นั้น. มี
คน หลาย ชาติ มา ประชุม พร้อม กัน ใน ที่ นั้น. ใน เวลา วัน นั้น
เขา จึ่ง เอา หิน ฝัง ลง ที่ มุม ตึก เปน สำคัญ.

๏ แล พวก แขก เสรฐี ที่ เมือง บำไบ นั้น, ก็ อุสาห์ เอา ใจ ใส่
ใน ความ รู้ วิชา ต่าง ๆ นัก, จึ่ง ชวน กัน ออก เงิน ทำนุ บำรุง ใน
การ สั่ง สอน นั้น. ข้าพเจ้า ผู้ เข้า ของ หนังสือ นี้, ปราถนา จะ ให้
คน ที่ มั่ง มี ใน เมือง ไทย, เกิด มี ใจ เหมือน เช่น นั้น. จึ่ง จะ เปน
ประโยชน์ แก่ กรุงเทพ มหานคร, มาก กว่า ที่ จะ ลง ทุน ทำ วัด
วา อาราม ตาม ทำเนียม นั้น นักหนา.

เมอืง กาลกัตตา

๏ อนึ่ง มี ข่าว มา แต่ เมือง กาละกัตตา ว่า, เคาเวอเมนต์
อังกฤษ มี หนังสือ ประกาศ มา ว่า, ฝิ่น ที่ เคาเวอเมนต์ อังกฤษ จะ
มี ใน เมื่อ กฤษ ศักราช ๑๘๖๖ นั้น ก็ จะ ถึง ๔๗๙๓๗ หีบ.

๏ เรา ผู้ เจ้า ของ หนังสือ นี้, เหน ว่า ฝิ่น เปน ของ ชั่ว หา
ควร ที่ จะ ทำ ขาย มาก เช่น นั้น ไม่. คน ที่ จะ เสีย ที เสีย ชีวิตร
เพราะ ฝิ่น สี่ หมื่น เจ็ด พัน หีบ นั้น, คง จะ มาก แล คง มี โทษ อื่น ๆ
เหลือ ที่ จะ คิด ได้. แล จะ หา คุณ ประโยชน์ นั้น ยาก นัก. ข้าพเจ้า
เหน ว่า เคาเวอเมนต์ ใด ๆ, ที่ จะ หา เงิน โดย การ ชั่ว เช่น นั้น ไม่
ช้า นาน คง จะ กลับ เปน โทษ ใหญ่. แล ที่ เมือง กาละกัตตา ก็
เกิด โทษ ต่าง ๆ มา มาก แล้ว, แต่ จะ เปน เพราะ ฝิ่น ฤๅ ไร มิ
ได้ แจ้ง. น่า กลัว ว่า จะ เปน ความ ทุกข์ ที่ พระเจ้า บันดาน ให้ บัง
เกิด ขึ้น เพราะ ฝิ่น. เมื่อ ปี กลาย ก็ บังเกิด ลม พยุห์ ใหญ่ ไซ
โกลน ทำลาย บ้าน เมือง คน แล สัตว, สรรพ์ สิ่ง ของ ต่าง ๆ เปน
อัน มาก. เมื่อ ครั้ง ก่อน ที่ เมือง กาละกัตตา ประมาณ มา ได้ ๘ ปี
แล้ว, ก็ บังเกิด พวก แขก คิด ขบถ ใหญ่ ยิ่ง ใน เมือง บังกลาะ
นั้น. ดู เหมือน จะ เปน โทษ ที่ พระ เจ้า ได้ ลง แก่ เมือง เพภา การ
ขาย ฝิ่น.

หมอ รักษา สุนักข์ บ้า กัด

๏ ข้าพเจ้าได้ยินเล่า ฦๅ ว่า สุนักข์ บ้า กัด นาย รอง ซัน เมื่อ
ณวัน จันทร์ เดือน แปด ขึ้น ค่ำ หนึ่ง ปี ชวด ฉศก, พระ ศรีสิทธิ
การ รักษา. ตำรา ที่ รักษา สุนักข์ บ้า, พระ ศรีสิทธิการ บอก ให้
แก่ นายรองซัน ทุก ประการ. นายรองซัน ก็ได้ รักษา คน ที่ สุนักข์
บ้า กัด ๔ คน หาย ทั้ง ๔ คน. ๆ ที่ นาย รองซัน รักษา ทุก วัน นี้ ก็
อยู่ เปน ปรกติ ดี ทั้ง ๔ คน. อุปเท ที่ รักษา, ถ้า และ สุนักข์ บ้า
กัด เรว วัน, ประกอบ ยา พอก ที่ แผล พิศ นั้น ก็ ถอน จาก แผล
เรว วัน. ถ้า กัด ได้ สอง เดือน, สาม เดือน, พิศ กว่า จะ ถอน จาก
แผล นาน วัน ไป. เมื่อ พอก ยา ไว้ ให้ รับ ประทาน ยา ราก ไม้ น้ำ
กะสาย แสก สุรา. เพลา หนึ่ง รับ ประทาน สอง ครั้ง เช้า เย็น.
คน ที่ สุนักข์ กัด มี ความ สงไสย, ว่า สุนักข์ ที่ กัด จะ เปน บ้า ฤๅ
ไม่ เปน. บาง ที สุนักข์ ไป เสพ ของ ๆ เปน เบื่อ เมา. บาง ที
สุนักข์ ไม่ ใคร่ จะ มี ของ จะ เสพ เปน อาหาร เที่ยว เดิน โซเซ ตาม
ถนน. ทั้ง สอง อย่าง กิริยา ผิด กว่า สุนักข์ ที่ ปรกติ. ถ้า ไป กัด
คน ๆ ก็ มี ความ สงไสย ว่า สุนักข์ จะ เปน บ้า, ฤๅ ไม่ เปน บ้า ก็
ไม่ แน่ แก่ ใจ. ธรรมดา คน ย่อม เปน ที่ เสนหา แก่ ชีวิตร มากนัก,
ไป เที่ยว หา หมอ รักษา ว่า สุนักข์ บ้า กัด. หมอ ที่ รับ รักษา ผู้ นั้น
ก็ ไม่ ทราบ ว่า สุนักข์ จะ เปน บ้า ฤๅ ไม่ เปน. อุปเท ของ พระ ศรี
สิทธิการ, ถ้า ได้ พอก ยา ไว้ จน เพลา ปลด ยา จาก แผล ทราบ ว่า
สุนักข์ ที่ กัด เปน บ้า ไม่ เปน บ้า. ถ้า แผล ไม่ บอก ว่า เปน บ้า,
ไม่ ตอ้ง การ เลย จะ พอก ยา ให้ เนื้อ เปน รอย, ป่วย การ เปลือง
ยา เสีย เปล่า. ถ้า สุนักข์ บ้า กัด คน ๆ หนึ่ง ไม่ หา หมอ รักษา
จน คน ทำ กิริยา เช่น สุนักข์, ถ้า เปน เช่น นั้น รักษา ไม่ ได้. ถ้า
จับ คลั่ง ใน เพลา หนึ่ง, มียา อีก อย่าง ภอ จะ แก้ ไข ไว้ ได้ บ้าง.
ถ้า คลั่ง จน สอง เพลา สาม เพลา รักษา ไม่ ได้. ถ้า ท่าน ผู้ หนึ่ง
ผู้ใด ที่ มี วาสนา และ น้อย วาสนา, ถ้า สุนักข์ บ้า กัด ไป บอก แก่
นาย รองซัน, ๆ ก็ คง จะ ไป รักษา ให้ ทุก คน, จะ ว่า ไป ปลา ดุก
ทะเล ยัก รักษา ยาก กว่า สุนักข์ บ้า กัด. ที่ ข้าพเจ้า ลง ใน จด
หมาย เปน เรื่อง รักษา สุนักข์ บ้า, ขอ รับ ประทาน อาไภยโทษ แก่
ท่าน ที่ ได้ อ่าน ได้ ฟัง เสี่ยเทิอญ.

ตลาด สำเพง

๏ ข้าพเจ้าเที่ยว ดู ตาม ท้อง ตลาด สำเพง, ได้ เหน ถนน
นั้น ดี สอาด เรียบร้อย ยิ่ง กว่า แต่ ก่อน นัก. จึ่ง ได้ นึก ว่า เกิด
เพราะ พระ บารมี แห่ง สมเดจ พระ จอม เกล้า เจ้า อยู่ หัว, มี พระ
ไทย ไสย สวาง โอบ อ้อม อารี มาก กว่า พระ มหา กระสัตริย์ ก่อน ๆ
นั้น. จึ่ง ได้ จัด แจง ให้ ผล ประโยชน์ เกิด ขึ้น ใน กรุง เทพ มาก
ต่าง ๆ. เมื้อ วัน ซืน นี้ ข้าพเจ้า เที่ยว ไป ได้ เหน ถนน นั้น ชำรุด
ชุด โทรม เปน น่า ลำบาก บ้าง, เหน ที จะ ไม่ ทราบ ถึง ใน
หลวง ดอก กระมัง. ข้าพเจ้า ปราถนา จะ ให้ มี รับ สั่ง ใช้ เจ้า พนัก
งาน ไป ส้อม แปลง ที่ ชำรุด นั้น ให้ ดี เปน ปรกติ ตาม เดิม.

๏ อนึ่ง เมื่อ ข้าพเจ้า เที่ยว ไป ตลอด ตลาด นั้น, ก็ ได้ เหน
ลูก กอง ตเวน ตั้ง อยู่ ตาม ตำแหน่ง แห่ง ตน เปน ปรกติ, สะภาย
กระบี่ อยู่ ทุก คน, เปน สำคัญ ว่า, ใน หลวง ได้ โปรด ให้ ดู แล รักษา
ใน ท้อง ตลาด, มิ ให้ เกิด โจร แล ผู้ ร้าย ย่ำ ยี บี ฑา ราษฎร ได้.
ข้าพเจ้า เหน คน ทั้ง ปวง กลัว อำนาท หลวง ที่ มี ใน กระบี่ แห่ง ลูก
ตเวน เหล่า นั้น, จึ่ง ไม่ ต้อง กลัว สิ่ง หนึ่ง สิ่ง ใด เลย. ข้าพเจ้า
นี้ คิด ถึง พระ เดช พระ คุณ ใน หลวง, แล สรรเสิญ ว่า, กรุง เทพ
นี้ ดี ขึ้น กว่า แต่ ก่อน มาก, เพราะ พระ บารมี พระ มหา กระษัตริย์
จึ่ง เปน ศุก. ขอ ให้ ชนมายุ ยืน นาน ให้ ทรง พระ ปัญญา ประเสริฐ
จะ ได้ บำรุง กรุง เทพ ดี ขึ้น กว่า เก่า ทุก ๆ ปี.

๏ ราคา สินค้า ที่ เมือง จีน

ณวัน เดือน สิบ แรม หก ค่ำ ปี ฉลู สัปตศก.

๏ เข้า สาน ที่ เมือง ฮองกง. เข้า มังกลา หาบ ละ ๒ เหรียน
๑๖ เซ็น แล ๓ เหรียน ๑๐ เซ็น. ๏ เข้า เมือง สยาม, เข้า กล้อง
หาบ ละ ๒ เหรียน ๒๐ เซ็น. แล ๓ เหรียน ๒๕ เซ็น, เข้า อย่าง
กลาง สยาม หาบ ละ ๒ เหรียน, ๔๐ เซ็น, แล ๒ เหรียน ๖๐
เซ็น. เข้า ขาว หาบ ละ ๒ เหรียน ๗๐ เซ็น, แล ๒ เหรียน ๘๕
เซ็น. ๏ เข้า ไซง่อน, หาบ ละ ๒ เหรียน ๕๕ เซ็น, แล ๒
เหรียน ๖๐ เซ็น. ๏ เข้า มะลิลา, หาบ ละ ๒ เหรียน ๗๕ เซ็น,
แล ๓ เหรียน ๑๕ เซ็น. ๏ เข้า ขาว เมือง ย่างกุ้ง, หาบ ละ ๒
เหรียน ๕๕ เซ็น, แล ๒ เหรียน ๘๐ เซ็น. ๏ น้ำ ตาน ทราย ที่
เมือง ฮองกง, ขาว อย่าง ที่ หนึ่ง, หาบ ละ ๘ เหรียน ๓๐ เซ็น,
แล ๘ เหรียน ๕๐ เซ็น. ๏ ขาว ที่ สอง, ๗ เหรียน ๘๐ เซ็น.

แล ๘ เหรียญ ๑๐ เซ็น ๏ ที่ สาม, ๗ เหรียญ ๖๐ เซ็น, แล ๗
เหรียญ ๗๐ เซ็น. ๏ น้ำตาน ทราย แดง ที่เมือง กวางตุ้ง, หาบ
ละ ๕ เหรียญ ๔๐ เซ็น, แล ๕ เหรียญ ๖๐ เซ็น. ๏ น้ำตาน
ทราย ที่ เมือง นิงโป, ขาว ที่ หนึ่ง ๑๐ เหรียญ ๔๐ เซ็น, ที่ สอง ๘
เหรียญ ท่วน. น้ำตาน กรวด ๑๐ เหรียญ ท่วน. ๏ ฝิ่น ที่ เมือง
ฮองกง, อย่าง ที่ เรียก ว่า ปัดนา ใหม่ นั้น, หีบ ละ ๖๖๐ เหรียญ.
๏ อย่าง ที่ เรียก ว่า, บินาร ใหม่ นั้น หีบ ละ ๖๒๕ เหรียญ.
๏ อย่าง ที่ เรียก ว่า, มาละวา นั้น หีบ ละ ๘๕๐ เหรียญ.
๏ ฝ้าย บด ที่ เมือง ฮองกง, ในระหว่าง ๑๕ วัน นั้น, พวก
นายห้าง ที่ ฮองกง รับ ซื้อ ขาย ฝ้าย บด ก็ ตกใจ, เพราะ เหน
กำปั่น กลไฟ สาม ลัม บันทุก ฝ้าย บด มา แต่ เมือง กาละกัตตา, มี
กำปั่น ชิป สอง ลัม กำลัง บันทุก ฝ้าย บด ที่ เมือง กาละกัตตา เพื่อ
จะ มา ขาย ที่ ฮองกง. ฝ่าย นาย ห้าง ที่ ฮองกง จึง อุส่าห์ ขาย ฝ้าย
บด ที่ ยัง เหลือ อยู่ นั้น,เปน ราคา หาบ ละ ๒๒ เหรียญ ๕๐ เซ็นต์.
ใน เดือน ๑๐ แรม ๖ ค่ำ นั้น กำลัง ขาย ฝ้าย บด, หาบ ละ ๒๓
เหรียญ ๒๕ เซ็นต์. แต่ ฝ้าย บด อย่าง เซี่ยง ไฮ้ หาบ ละ ๒๗
เหรียญ ๒๕ เซ็นต์.

๏ ดิน ประสิว ที่ เมือง ฮองกง, ขาย หาบ ละ ๗ เหรียญ ๕๐
เซ็นต์, แล ๗ เหรียญ ๗๐ เซ็นต์.

๏ หวาย มา แต่ เมือง มะลายู, ขาย หาบ ละ ๒ เหรียญ ๕๐
เซ็นต์, แล ๔ เหรียญ ๓๐ เซ็นต์.

๏ พริก ล่อน, หาบ ละ ๑๑ เหรียญ ๕๐ เซ็นต์, พริก ดำ หาบ
ละ ๖ เหรียญ ๗๐ เซ็นต์, แล ๗ เหรียญ ท่วน.

๏ หมาก แห้ง, หาบ ละ ๔ เหรียญ ๘๐ เซ็นต์.

๏ ฝาง อย่าง ใน กรุงเทพ, หาบ ละ ๒ เหรียญ ๒๐ เซ็นต์, แล
๒ เหรียญ ๔๐ เซ็นต์.

๏ เปลือก โป ลง หาบ ละ ๘๐ เซ็นต์.

๏ ไม้ ชิงชัน ขาย หาบ ละ เหรียญ ๑ แล ๓ เหรียญ.

๏ ไม้ ดำ ดง หาบ ละ เรียญ ๑ กับ ๖๐ เซ็นต์, แล ๔ เหรียญ
บ้าง.

๏ ตถั่ว เกรียน หาบ ละ ๒๖ เหรียญ ครึ่ง.

คาด ใบ หนึ่ง

๏ หนังสือ คาด แห่ง มิศ เต. เอ. แชกเลอ, เปน ผู้ ช่าง ชัก รูป
มา ถึง ท่าน ทั้งหลาย, ด้วย ข้าพเจ้า เข้า มา อยู่ ใน กรุง เทพย์, มี
เครื่อง สำรับ ชัก รูป ที่ โฮเตล แห่ง มิศเตอ ฟอลค์, ที่ ถนน ใหม่ ชื่อ
เจริญ กรุง นั้น. จะ ชัก รูป เล็ก ใหญ่ เพียง สิบ ห้า นิ้ว อังกฤษ ก็
ได้. แล ข้าพเจ้า พร้อม ใจ จะ ไป ที่ บ้าน ผู้ ใด ผู้ หนึ่ง, เพื่อ จะ
ชัก รูป ตึก แล เรือน แล ของ อื่น ต่าง ๆ, ตาม ที่ ท่าน ทั้งหลาย
จะ ต้อง ประสง. เขียน เมื่อ ณวัน ศุกร์ เดือน สิบ แรม สิบ ค่ำ.

๏ ผู้ ที่ จะ มา ชัก รูป

๏ อนึ่ง เมื่อ เรือ กล ไฟ เจ้าพยา จะ กลับ มา ถึง อีก, จะ มี
ชาว ประเทศ ยูโรบ คน หนึ่ง, ที่ เปน ช่าง ชัก รูป, ชื่อ มิศเตอ
ตอมซัน, หมาย ว่า จะ มา ด้วย ครั้ง นั้น, เพื่อ ประสงค์ จะ ได้ ชัก
รูป ต่าง ๆ ใน กรุงเทพ ฯ. ด้วย จะ เอา ไป สำแดง ที่ ประเทศ ยู
โรบ. เขา จะ อยู่ ใน กรุง ฯ สัก สาม ขวบ อาทิตย์ แล้ว, จะ กลับ
ไป. เขา จะ อาไศย อยู่ ที่ กับปิตัน เอม นาย กอง เตวน.

๏ บางกอก ดอกกำปะนี คือ เจ้า ของ อู่ ใหม่

๏ อู่ แห่ง นี้ พึ่ง ทำ แล้ว, พร้อม ใจ จะ รับ เรือ ใหญ่ น้อย ทุก
อย่าง. เชิญ ให้ ท่าน เจ้า ของ เรือ, แล นาย เรือ ทั้งหลาย, จงพิ
จารณา ดู อู่ ใหม่ นี้. คง จะ เห็น ว่า เปน อู่ ดี กว่า อู่ ทั้งปวง ใน บุระ
ประเทศ นี้. จะ ได้ แก้ เรือ ซ่อม แปลง เสีย ใหม่ โดย สดวก ดี. ที่
อู่ นั้น ยาว ได้ ๓๐๐ ฟุต, แล คง จะ ให้ ยาว กว่า นั้น อีก. โดย กว้าง
ได้ ๑๐๐ ฟุต, ฦก ๑๕ ฟุต. ที่ ปาก อู่ มี ปตู เรียก ว่า ไกซัน, ถ้า
จะ ปิด มิด ได้ โดย เร็ว. ที่ นอก ปาก อู่ ใน ออก ไป นั้น, จด ถึง
ลำ แม่น้ำ โดย ยาว ๑๒๐ ฟุต. มี เขื่อน สอง ฟาก กว้าง ขวาง แขง
แรง นัก, กำปั่น เล็ก กำปั่น ใหญ่ จะ จอด อาไศร อยู่ ปาก อู่ ได้ ใน
ทุก เวลา ไม่ เปน อันตราย เลย. แล มี เครื่อง จัก สำหรับ ยก เสา
กะโดง, แล ม่อ น้ำ สำหรับ กล ไฟ แขง แรง นัก. อู่ นั้น พร้อม
ด้วย เครื่อง สูบ ไป ด้วย กำลัง กล ไฟ. มี แรง มาก เพื่อ จะ ได้ สูบ
น้ำ ให้ ออก ได้ โดย เร็ว ได้, ไม่ ว่า น้ำ ขึ้น น้ำ ลง. พร้อม ด้วย
เครื่อง ใช้ ใน การ ทำ เรือ ใบ แล เรือ กล. แล การ นั้น มี นาย ที่
เปน ชาติ ยูรบ, ได้ เคย ทำ การ เช่น นั้น หลาย ปี, จึ่ง ชำ นาณ
ใน การ เหล่า นี้ ทุก อย่าง.

๏ แล ลูก จ้าง สำหรับ อู่ นั้น เปน คน เลือก มา แต่ ฮ่องกง แล
วั้มภู ทั้งนั้น, เปน คน ชำนาญ ใน การ นั้น. ๏ พวก กำปะนี แห่ง อู่
นั้น, ปราถนา ที่ จะ ให้ คน ทั้งหลาย พิเคราห์ ดู ว่า, อู่ นี้ ตั้ง อยู่ ที่ มี
ไม้ สัก บริบูรณ แล ถูก ด้วย. ๏ อนึ่ง อู่ นี้ มี จักร เลื่อย ไม้, เพื่อ จะ
ได้ การ เร็ว. หมอน ที่ รอง เรือ สูง สี่ ฟุต, แล จะ ชัก ออก เมื่อใด
ก็ ชัก ได้ โดย สดวก, ไม่ ต้อง เสีย อะไรใน การ เปลี่ยน หมอน นั้น.

๏ อนึ่ง พวก กำปะนี แห่ง อู่ นั้น, จะรับ ธุระ คิด ใน การ ที่
จะ ต้อง ลง ทุน ซ่อม แปลง เรือ, แล จะ รับ เหมา เอา การ นั้น,
เรือ ไม้ ก็ ดี เรือ เหล็ก ก็ ดี, แล จะ รับ ต่อ เรือ ใบ เรือ กลไฟ ฤๅ
การ ใด ๆ ที่ ใน การ ช่าง ต่อ เรือ ซ่อม แปลง เรือ. ๏ ไม้ แล
เหล็ก แล ของ อื่น ๆ ที่ จะ ต้อง ซื้อ นั้น, เรา จะ ขาย ให้ ตาม ราคา
ตลาด กรุงเทพ นี้. ๏ อนึ่ง เรือ ทั้งหลาย ที่ จะ เข้า อู่ นั้น, จะ มา
จอด ที่ ทุ่น แห่ง กำปะนี ฤๅ ที่ เขื่อน นอก อู่ นั้น, ไม่ ต้อง เสีย เงิน
กว่า ผู้ ที่ เปน นาย การ จะ สั่ง ให้ เลื่อน ออก จาก ที่ นั้น เมื่อใด.

๏ อนึ่ง กปิตัน แห่ง เรือ ทั้งหลาย, เมื่อ จะ ออก จาก อู่ นั้น,
ต้อง เขียน ชื่อ ตัว ลง ที่ บาญชี แห่ง นาย อู่ นั้น เสีย ก่อน จึ่ง ออก
ได้. ๏ อนึ่ง แต่ บันดา หนังสือ, ที่ จะ ฝาก มา ถึง อู่ นั้น, ต้อง
ฝาก ไป ถึง กะปิตัน ยอน บุช กว่า จะ ได้ เปลี่ยน อย่าง นั้น, บัดนี้
กะ ปิตัน บุช เปน นาย กอง นั้น, เปน เจ้า กระทรวง ใน การ ที่ จะ
ใช้ เงิน เก็บ เงิน แต่ ผู้ เดียว.

นายช่าง ต่าง ๆ

๏ ผู้ ที่ จด ชื่อ ที่ สุด ท้าย หนังสือ นี้, เคย ทำ การ ช่าง ใน
ประเทษ ยูรบ มาหลาย ปี, คือ เปน ช่าง จักร, ช่าง เอนชิเนีย, แล
เคย ชำนาญ ใน การ ทำ แผนที่, แล การ คิด ราคา เครื่อง จักร
ต่าง ๆ, แล ได้ รับ การ ตั้ง แล ซ่อม แปลง ม่อ น้ำ กล ไฟ, แล
จักร หีบ อ้อย, แล เครื่อง ไฮโดร เอกซ์แตรกตอ สำรับ ให้ น้ำ ตาล
แห้ง เร็ว. แล เครื่อง จักร สี เข้า, แล เครื่อง จักร เลื่อย ไม้, แล
เครื่อง หีบ น้ำ มัน มพร้าว. แล เครื่อง จักร สำรับ กวาด ตกั่ว, แล
เงิน แล ทอง แดง, แล เครื่อง อัฏ ชื่อ ไฮดรอลิกเปรศซ์, แล ตะ
ภานเหล็ก, เครื่องเหล็ก สำรับ ยก ของ ที่ ตะภาน กำปั่น, แล จักร
น้ำ, แล เครื่อง สำรับ จักร ต่าง ๆ, แล การ ใส่ ฟัน จักร ใหญ่, แล
จักร สำรับ สูบ น้ำ ขึ้น บน พื้น นา, แล การ ช่าง อื่น ต่าง ๆ.

๏ ข้าพเจ้า ฃอ แจ้ง มา ถึง เจ้าฃอง เรือ กลไฟ, แล จักร ษี
เข้า, แล จักร หีบ อ้อย, แล ผู้ อื่น ๆ ทั้งปวง ว่า, ข้าพเจ้า พร้อม
ใจ จะ รับ เอา การ ที่ ว่า มา แล้ว ใน หนังสือ นี้. ถ้า ผู้ ใด ๆ ปราถนา
มา หา ข้าพเจ้า โดย การ นี้, ฃอ เชิญ ท่าน มา หา ข้าพเจ้า ที่ อู่ใหม่
ตำบล บ้าน คอก ควาย ใน แขวง กรุง เทพ นี้, ให้มา ใน รหว่าง
เวลา สี่ โมง เช้า, แล สี่ โมง บ่าย.

๏ แล ตัว ข้าพเจ้า มี ชื่อ ชาเลโฮวาดซิ, ได้ ถือ หนังสือ สำ
คัญ มา แต่ เคาเวอเมนต์ อังกฤษ ว่า, ข้าพเจ้า เปน เยนชิเนีย,
แล ช่าง จักร ต่าง ๆ แท้. เขียน มา ณวัน จันทร์ เดือน สิบ แรม
สิบสาม ค่ำ ปี ฉลู สัปตศก.

การ เล หลัง

๏ [จ] มี การ เลหลัง, เมื่อ ณวัน อังคาร เดือน สิบ เอต
แรม ห้า ค่ำ หก ค่ำ เจ็ด ค่ำ, ที่ ห้าง มิศเตอ อี๋ล มาเลอบ์ แอน
กำเปนี, ฃอง มี ราคา ประเสิฐ ต่าง ๆ, คือ เพชร์, พลอย,
แหวน เพชร์, แล ของ ต่าง ๆ, ที่ ประดับ ด้วย เพชร์ แล พลอย
หลาย อย่าง, ทั้ง เขม ขัด แล สาย สรัอย ตุ้ม หู, แล เขม ขัด
รัด เสื้อ ที่ ฅอ, แล ลูก กะดุม ที่ ทำ ด้วย เงิน ด้วย ทอง ประ
ดับ เพชร์, นาฬิกา ภก แล สาย สร้อย ทอง คำ ลูก กุนแจ สำ
รับ นาฬิกา, แล เครื่อง ประดับ นาฬิกา ต่าง ๆ เครื่อง ใส่ ดอก
ไม้ ทำ ดว้ย เงิน, แล ถาต กะไหล่ ดว้ย เงิน, แล เครื่อง อื่น ๆ
เปน อัน มาก. บาญชีย์ ชื่อ ของ ทั้งหลาย ที่ จะ ขาย นั้น,
คง จะ ลง เปน หนังสือ พิมภ์, ถ้า ผู้ ใด ปราถนา จะ ดู ก็ ดู
ได้, แต่ ใน ว่าง เดือน ๑๑ แรม ๒ ค่ำ, แล แรม ๕ ค่ำ นั้น.

๏ อนึ่ง ข้าพเจ้า จะ จับ การ เลหลัง, ตั้ง แต่ ณวัน แรม
ห้า ค่ำ นั้น เพลา ๕ โมง เช้า เปน แน่. กับตัน อาชุน จะ เปน
ผู้ ขาย.

สินค้า ที่ เมือง บีแนง

ณวัน เดือน ๑๐ ขึ้น ค่ำ หนึ่ง

๏ หมาก แห้ง, บฮาล์ ๗ เหรียน ครึ่ง, แล ๗ เหรียน
กับ ๗๕ เซนต์.
๏ ขี่พึ่ง, หาบ ละ ๔๐ เหรี่ยน แล ๔๖ เหรี่ยน.
๏ การะบูน. หาบ ละ ๒๒ เหรี่ยน แล ๒๓ เหรี่ยน.
๏ น้ำมัน มพร้าว, หาบ ละ ๙ เหรียญ ครึ่ง, แล ๑๐ เหรียญ.
๏ กอฟี, หาบ ละ ๑๔ เหรี่ยน แล ๑๕ เหรี่ยน.
๏ สี่เสียด, หาบ ละ ๓ เหรียน ครึ่ง แล ๓ เหรียน ๕๐ เซนต์.
๏ งา ช้าง อย่าง ใหญ่, หาบ ละ ๑๘๐ เหรี่ยน แล ๒๐๐
เหรี่ยน. อย่างเล็ก, หาบละ ๑๓๐ เหรี่ยน แล ๑๖๐ เหรี่ยน.

๏ กำยาน. ที่ ๑, หาบละ ๔๘ เหรี่ยน แล ๕๐ เหรี่ยน.
ที่ ๒, ๑๕ เหรี่ยน. ที่ ๓, ๑๒ เหรี่ยน แล ๑๘ เหรี่ยน.

๏ หนังควาย, หาบละ ๗ เหรี่ยน ครึ่งแล ๗ เหรี่ยน, ๗๕
เซนต์,

๏ หนังวัว, หาบละ ๑๐ เหรี่ยน แล ๑๐ เหรี่ยน ครึ่ง.

๏ เขาควาย, หาบละ ๖เหรี่ยน. ๑๕ เซนต์แล ๗ เหรี่ยน.

๏ ฝิ่น, อย่างเมือง บินาเรศ, หีบละ ๔๕๐ เหรี่ยน แล ๔๖๐
เหรี่ยน. อย่างเมือง เตอกี่, หาบละ ๔๓๐ เหรี่ยน แล ๔๔๐
เหรี่ยน.

๏ พริกไทดำ, หาบละ ๔ เหรี่ยน. ๙๐ เซนต์, แล ๕
เหรี่ยน, ๒๐ เซนต์. พริกล่อน, หาบละ ๑๐ เหรี่ยน แล ๑๑
เหรี่ยน.

๏ เข้าขาว, เมือง ยั่งกุ้ง, เกวียนละ ๑๐๘ เหรี่ยน แล ๑๑๒
เหรี่ยน. เข้าอย่าง กลาง, เกวียนละ ๘๖ เหรี่ยน, แล ๘๘.
เข้ากล้อง, เกวียนละ ๘๐ เหรี่ยน แล ๘๒ เหรี่ยน. เข้าปลือก,
เกวียนล ๔๒ เหรี่ยน แล ๔๔ เหรี่ยน.

๏ เกลือ, เกวียนละ ๑๙ เหรี่ยน แล ๒๐ เหรี่ยน.
น้ำตานซาย ที่ ๑, หาบละ ๖ เหรี่ยน ๗๕ เซนต์ แล ๖
เหรี่ยน. ที่ ๒, หาบล ๔ เหรี่ยน ๗๕ เซนต์แล ๕ เหรี่ยน
ครึ่ง. น้ำตานแดง, หาบลา ๓ เหรี่ยน ๑๕ เซนต์แล ๓ เหรี่ยน

๏ ตกั่ว เกรียบ, หาบละ ๒๑ เหรี่ยน ๘๐ เซนต์แล ๒๒
เหรี่ยน.

ของ กัน ปลวก

๏ ข้าพเจ้าผู้เจ้าของ หนังสือนี้,ได้คิดอ่าน หา การ ที่ จะ กัน
ปลวก มา หลาย ปี๊แล้ว, เหน ว่า ควร จะ เอาใจ ใส่ ตรึก ตรอง ดู
ให้เลอียด. ใน รหว่าง ๑๒ เดือน เร็ว ๆ นี้, ข้าพเจ้าได้ ลอง ดู
ด้วย น้ำมัน ดิน ดำ หลาย ครั้ง แล้ว. พึ่ง เข้าใจ ว่า เปน ของ กัน
ปลวก ได้. ข้าพเจ้า ปราถณ จะ ให้คน ทั้งปวง ลอง ดู ด้วย น้ำ มัน
ดิน ดำ จึ่ง จะ รู้ แน่. เวลา วัน หนึ่ง นั้น, ข้าพเจ้า ได้ เอา น้ำ มัน ดิน
ดำ ทา ที่ ก้น หีบ ไม้ ฉำ ฉา, ลาง ใบ ก็ ทา, ลาง ใบ ก็ มิ ได้ ทา. แล
ภา เอา ไป วาง ไว้ ที่ รัง ปลวก ทั้ง คู่, แล ปลวก นั้น จะ ได้ ทำ อัน
ตราย แก่ หีบ ที่ ทา น้ำมัน ดิน นั้น หา มิ ได้, ทำ ร้าย แต่ หีบ ใบ ที่
มิ ได้ ทา เท่า นั้น. แล้ว ข้าพเจ้า จึ่ง เอา หีบ ที่ มิ ได้ ทา ที่ ปลวก
กัด เสีย นั้น, มา ทา น้ำมัน ดิน เข้า ดู แต่ ทา หา ทั่ว ไม่, สัตว นั้น
ก็ เลือก กัด แต่ ที่ มิ ได้ ถูก น้ำมัน ดิน เท่านั้น, จะ ได้ ทำ อันตราย
ใน ที่ ทา น้ำมัน นั้น หา มิ ได้. แต่ ข้าพเจ้า ได้ ลอง ดู หลาย อย่าง
ต่าง ๆ กัน, จึง เข้าใจ ว่า น้ำมัน ดิน ดำ ดี แท้ แก้ ปลวก ได้. แล
ข้าพเจ้า คิด ใน ใจ ว่า, จะ เอา น้ำมัน ดิน ที่ มิ ได้ ดำ เปน น้ำ มัน
ดิน อย่าง ใส นั้น, มา ลอง ดู เหน จะ ใช้ ได้ บ้าง ดอกกระมัง, แต่
ขัดสน อยู่ ยัง หา มี ไม่. อัน น้ำมัน ดิน ดำ นี้ มี ใน ลำ กำปั่น แทบ
จะ ทุก ลำ เปน ของ หา ง่าย นัก. ฃอ ให้ ท่าน ทั้งหลาย อุส่าห์ ลอง
ดู ดว้ย, ถ้า น้ำมัน ดิน กัน ปลวก ได้ ดี มั่นคง, ก็ จะ เปน คุณ
เปน ประโยชน์ แก่ เมือง ไท มาก นักหนา.

๏ หนังสือ สวด มนต์

๏ มี คน มา ถาม ข้าพเจ้า ผู้ เจ้า ของ หนังสือ นี้ เนือง ๆ ว่า
หนังสือ สวด มนต์ เช่น ที่ เขา ได้ เอา ไป ยัง มี อยู่ ฤๅ. ข้าพเจ้า จึง
ตอบ ว่า หา มี ไม่, เรา ไม่ ได้ ทำ เลย. เขา จึง ถาม ว่า ท่าน มิ ได้
ตี หนังสือ เช่น เจ้า พระยา พระคลัง, ที่ ได้ แจก พระสงฆ์ นั้น บ้าง
ดอก ฤๅ. ข้าพเจ้า จึง ตอบ ว่า ไม่ ได้ ตี. แต่ ผู้ ที่ ตี นั้น คือ ผู้ อื่น
ต่าง หาก อยู่ บ้าน คอก ควาย, ได้ รับ เปน การ เหมา. แต่ แรก นั้น
พระ ศรีธรรมสาร, ได้ มา ให้ ข้าพเจ้า รับ ลง พิมภ์ สวด มนต์ เปน
การ เหมา. ข้าพเจ้า ไม่ ยอม รับ. แล ข้าพเจ้า จึง ว่า กับ พระ ศรี
ธรรมสาร ว่า, ถ้า จะ ให้ เงิน เปน ค่า จ้าง หลาย ร้อย หาบ ก็ รับ มิ ได้
เพราะ เปน การ ที่ มิ ควร จะ ทำ. ดุจ เหมือน คน ที่ เมือง อเมริกา
ฝ่าย เหนือ นั้น, จะ เข้า ช่วย ใน กอง กระบถ ฝ่าย ใต้, แล หา
เสบียง อาหาร เครื่อง อาวุธ ไป ส่ง ให้. ถ้า ผู้ ใด ปลง ใจ เข้า ช่วย
เช่น นั้น จัด ได้ ชื่อ ว่า เข้า กับ พวก กระบถ. แล พุทธ ศาสนา
กับ คฤษ ศาสนา ก็ ย่อม เปน ฆ่า ศึก กัน. ข้าพเจ้า มี ใจ รักษ ใน
คฤษ ศาสนา แท้ แล้ว, จะ ปลง ใจ ช่วย ใน พุทธ ศาสนา เช่น นั้น
เปน การ ไม่ สม ควร เลย. อัน หนังสือ สวด มนต์ นั้น สำรับ จะ
ให้ นอน ใจ อิ่ม ใจ ใน พุทธศาสนา. เปน หนังสือ ที่ มิ ได้ มี หนังสือ
อื่น ปะปน กัน เลย, มี แต่ จำเภาะ ที่ จะ สรรเสิญ แต่ พุทธศาส
นา เท่านั้น. จึง เหน ว่า ไม่ ควร ที่ ผู้ รักษ ใน คฤษ ศาสนา จะ เอา
เปน ธุระ ตี แจก ฤๅ ขาย เลย. มี หนังสือ อื่น ต่าง ๆ ที่ มิ ได้ เปน
สำคัญ ใน พุทธศาสนา, แต่ มี คำ สรรเสิญ พระ พุทธ ปน กัน บ้าง
เล็ก นอ้ย เหมือน อย่าง สามก๊ก. แต่ หนังสือ เช่น นั้น, ถ้า จะ รับ
ลง พิมภ์ จะ กล่าว โทษ ว่า เปน การ ชว่ย ใน พุทธศาสนา มิ ได้, เพราะ
มิ ใช่ หนังสือ สํารับ พุทโธ สาศนา, ไม่ ใช่ คํา สวด มนต์, ไม่ ใช่ พระ
ธรรม์.

๏ แอค ลัน ติก เตลลี แครฟ

๏ มี ข่าว มา แต่ เมือง อังกฤษ ว่า, แอคลันติก เตลลิแครฟ
คือ สาย ไฟ ฟ้า, ที่ จะ วาง ข้าม มหา สมุท นั้น, เขา ก็ วาง ลง
ได้ สอง สว่น, แล้ว ยัง จะ อีก ส่วน หนึ่ง. แต่ สาย นั้น เขา เห็น
ว่า มี พิรุธ อยู่, จึง ยก ขึ้น เพื่อ จะ แก้ บน เรือ. แต่ เมื่อ กำลัง
ยก ขึ้น นั้น ก็ ขาด ออก ไป. แล เขา ได้ เอา ฃอ เหล๊ก เกี่ยว ขึ้น
มา ก็ มิ ได้. จน เครื่อง ที่ จะ ใช้ บน เรือ นั้น ก็ หมด ไป, ตอ้ง งด
ไว้, ต่อ ภาย หลัง จึง จะ ได้ คิด การ ต่อ ไป ใหม่. ฝ่าย เจ้า ของ
นั้น ยัง มี ใจ หมาย ว่า ภ่าย หลัง คง จะ สำเร๊จ ใน การ นั้น. เขา
จึง ผอ่น ไป ต่อ ปี น่า ว่า จะ ให้ แล้ว.

เรือ สยาม ค้าง อยู่ เมือง จีน

๏ ค้าง อยู่ ที่ ท่า เชฟู, เมื่อ ณวัน เดือน ๙ แรม ๑๔ ค่ำ, เรือ
ซื่อ เอมอย ๑ เอมดูกแลศซ์ ๑ กอนเตศ ๑ กองเกอเกอ ๑ เจน
มาก ๑ ไพลอิงพีศซ์ ๑ มีริดติอัน ๑ นอซิเมนต์ ๑ ปรินสิศซีแร
พี่ ๑ ควินออฟอิงแลนต์ ๑ ซีแมนซ์บราเดิ์ ๑ เซนเนตอ ๑ ไตวัด ๑
ไวเกาต์นีง ๑ ยูนชิงฮง ๑ ยนฟัตฮิม ๑ เปน ๑๖ ลำ ดว้ย กัน.

๏ เรือ ค้าง อยู่ ที่ เมือง ซวอเตา, ณเดือน ๑๐ ขึ้น ๙ ค่ำ,
คือ แกนทอน ๑ เรศโซลูก ๑ ไทงอน. ๑ เปน ๓ ลำ ดว้ย กัน.

๏ ต้าง อยู่ ที่ เมือง เอมอย ณเดือน ๑๐ ขึ้น ๕ ค่ำ, คือ อีไล
ซาเซน ๑ โอเซียนกวีน ๑. เปน ๒ ลำ ด้วย กัน.

๏ ค้าง อยู่ เมือง ฮองกง, ณเดือน ๑๐ แรม ๕ ค่ำ, คือ กาศ
เตล ๑ กิมฮองไทย ๑ เมริรอกซิ ๑ มุลไลต์ ๑ โอเรศตี ๑ เรเลว ๑
ฃีฟลอก ๑ ซูติงซ์ตา ๑ ซีวิอัศซ์ ๑ เซนต์เมรี ๑ วอล์เตอ ๑. เปน
๑๑ ลำ ดว้ย กัน.

๏ ค้าง อยู่ ที่ เมือง เซียงไฮ, ณเดือน ๑๐ ขึ้น ๑๑ ค่ำ, คือ
ฮันซิง ๑ ปาเรคอน ๑ ราปีด ๑ ไตโลง ๑. เปน ๔ ลำ ดว้ย กัน.


กำปั่น เข้า กรุง เทพ

เข้ามาเมื่อไร

กำปั่น ชื่อไร

กับ บีตัน ชื่อไร

กี่ ตอน

เรือ อะไร

มา แต่ ไหน

เดือน ๑๑ ขึ้น ค่ำ

ฮ่องไทควร

เปน จิ่น

๒๐๐

บาก ฮอลันด์

สิงคโปร์

ขึ้น ค่ำ

เจ้าพระยา

ออร์ตัน

๓๕๓

กลไฟสยาม

สิงคโปร์

ขึ้น ค่ำ

นอฟอล์

ยัง

๑๗๓

บาก สยาม

สิงโครา

ขึ้น ค่ำ

ฮีรา

บั๊กโฮลต์

๕๗๓

สกุณเนอ สยาม

ไซงอน

ขึ้น ค่ำ

ซัมตันโคเอิก

ครอเฟิด

๒๗๖

บาก อังกฤษ

เชี่ยงไฮ

ขึ้น ๑๐ ค่ำ

กิมลี่ซิง

เปน เจิ่น

๒๓๗

สกุณเนอ สยาม

สิงคโปร์

ขึ้น ๑๓ ค่ำ

เอลาดัศซ์

กับ

๘๑๓

ชิบ ฮำเบิก

ปัตตาเวีย

ขึ้น ๑๔ ค่ำ

แอนโตเนี่ย

วุเร็นไดย์

๗๑๑

บาก ฮอลันด์

สูรบายา

ออก เมื่อไร

กำปั่น ออก จาก กรุง เทพ

จะ ไป ไหน

เดือน ๑๑ ขึ้น ค่ำ

กิมฮองควน

เปน จิ่น

๑๘๐

บาก สยาม

ฮ่องกง

ขึ้น ค่ำ

ทวีสนิเคิ้น

ปรูซัค

๕๘๖

บาก ฮอลันด์

สูรบายา

ขึ้น ค่ำ

ยุแปลส์

แลงซิ

๖๐๐

บาก ปรอเชีย

จันทบุรี

ขึ้น ๑๑ ค่ำ

มาเรีย

อินเคอมาน

๖๐๐

บาก ฮอลัน

สูรบายา

ขึ้น ๑๒ ค่ำ

เจ้าพระยา

ออร์ตัน

๓๕๓

กลไฟ สยาม

สิงคโปร์