BANGKOK RECORDER


BANGKOK RECORDER

Vol. 1 เล่ม ๑ บางกอก เดือน สิบสอง ขึ้น สิบห้า ค่ำ จุลศักราช ๑๒๒๗ Nov. 3rd 1865 กฤษศักราช ๑๘๖๕,ใบ ที่ ๑๗ No. 17

๏ คำ เตือน สติ ท่าน ทั้งหลาย ๚
๏ ข้าพเจ้า ผู้ ได้ อ่าน หนังสือ จดหมายเหตุ บางกอก รีคอเดอ นั้น,
ได้ พบ เรื่อง หนึ่ง แจ้ง ความ ว่า, เคาเวอเมนต์ ยี่ปุ่น เสีย เงิน ให้
บังคับ ใช้ ผู้ หนุ่ม ๆ สิบ เก้า คน ไป เมือง อังกฤษ, ให้ เรียน หนัง
สือ ภาษา วิชา ต่าง ๆ. อย่าง นี้, ข้าพเจ้า จึ่ง มี ความ ยิน ดี นัก,
ด้วย ว่า เปน ผล ประโยชน์ แก่ บ้านเมือง เปน อัน มาก. ก็ ใน สยาม
ประเทษ นี้, ข้าพ เหน ว่า มี โอกาศ ช่อง อยู่ แล้ว, แต่ มิ ได้ มี
ท่าน ผู้ ใด เปน คน รักไคร่ ตั้งใจ ปาถนา เพื่อ จะ แสวง หา เรียน
รู้ หนังสือ ภาษา วิชา การ จริง ๆ, ให้ เปน สง่า ราศี แก่ ถิ่น ฐาน
บ้าน เมือง. เมื่อ เปน อย่าง นี้ เพราะ เหตุ อะไร. เพราะ เหตุ มิ ได้
มี ท่าน ผู้ ใด ออก เงิน ให้ ฤา, ๆ เพราะ เหตุ ผู้ ที่ มา เรียน หนังสือ
มี น้ำใจ สำคัญ ดูถูก เสีย ว่า เรียน ได้ ง่าย ๆ, ไม่ ต้อง เปลือง
เงิน เปลือง ทอง อะไร. วิทยา นั้น จึ่ง ไม่ บริบูรณ ขึ้น ได้. ครั้น
มี ฅวาม ประสงค์ อย่าง ใด อย่าง หนึ่ง ขึ้น, ต้อง วิ่ง ไป หา วาน
ท่าน ผู้ อื่น ช่วย แปล ให้ เหน เปน ที่ ลำบากใจ หนัก, ดู เหมือน
ว่า ใจ คน มัก ถือ ว่า, ของ ที่ หา ได้ ง่าย ๆ ไม่ ต้อง เสีย เงิน แล้ว
ก็ ไม่ สู้ รัก นับ ถือ ว่า เปน ของ ประเสิฐ เลิศ ยิ่ง. ก็ ธรรมเนียม
วิไสย ประเทษ ที่ มิ ได้ เอาใจใส่ อปถัมภ์ บำรุง บ้าน เมือง ให้ รุ่ง
เรือง สุกใส, ด้วย วิทยา ความ รู้ แล การสุจริต ต่าง ๆ, จะ ตั้ง
ยั่ง ยืน เปน เอกราช ยืด ยาว ไป ไม่ได้ เลย, คง ยอม ซน แก่ ผู้ อื่น
เปน แน่. ก็ บัดนี้ มี ผู้ เอา ของ วิเสศ มา แต่ ต่าง ประเทษ, เพราะ
มี ความ หวัง ว่า จะ เกื้อ กูล แก่ ประเทษ นี้, ให้ ได้ ศุข สวัดิ จำเริญ
ขึ้น โดย มาก.

๏ แต่ ว่า ผู้ ที่ ได้ นำมา แล ได้ ให้ สติ นั้น, กลับ หัน ได้
ความผิด ต้อง ตำหนิ ว่า บ่น เก้อ เจ้อ ไป, แล พูด อวด อ้าง เหลือ
เกิน เสีย อีก. แต่ ทว่า ได้ ยิน ว่า เปน ธรรมดา เมือง อยู่ เอง. ถ้า
ผู้ ใด ปรนิบัติ ดี ซื่อ สัตย์ สุจริต แล้ว, มัก เปน คน โง่ เขลา หา ปัญ
ญา มิ ได้. ต้อง ถูก เฆี่ยน แล ได้ ความ เบียด เบียน ต่าง ๆ. แล
บาง ที่ ได้ ยิน ว่า เปน ประเทษ บ้าน เมือง อัน ยาก จน, จะ ปราถนา
ซื้อ หา ได้ ก็ แต่ อย่าง บาลูน เครื่อง เล่น เด็ก ๆ นั้น.

๏ ก็ เมื่อ ได้ กระจ่าง อย่าง นี้, หา สม กับ ที่ ตา เหน ว่า เปน
ประเทษ อัน ยาก จน ไม่. ด้วย ว่า ตั้ง แต่ เวลา ได้ ทำ พระราช ไม
ตรี กับ บันดา ประเทษ เมือง ต่าง ๆ, การ ค้า ขาย ก็ มี กำไร ขึ้น
ทุก ปี ๆ. จน สมบัติ มาก ทวี ขึ้น กว่า แต่ ก่อน. ก็ แต่ เครื่อง เล่น
เปน ของ ลูก เล็ก ๆ, สำรับ จะ พ่อ ให้ เด็ก มี ใจ สบาย, ได้ รู้
ต้อง การ อยู่ เท่า นั้น. ก็ ฝ่าย ท่าน นัก ปราชญ ทั้ง หลาย เหน ว่า หา
ควร ไม่, เปน ของ การ เล่น ให้ บ้าน เมือง ซุด ถอย น้อย ลง.
จะ ได้ ไพรบูรย์ ขึ้น ดัง ประเทษ อื่น ๆ, ที่ มี ความ รู้ แล วิชา การ
หา มิ ได้. ก็ แล เมือง ใด ที่ มี ทรัพย์ สมบัติ มาก, แต่ มิ ได้ จำ
เริญ ด้วย ศิลปสาตร แล ความ สุจริต ธรรม์, จะ ตั้ง มั่น ให้ ถาวร
เหน เปน อัน ยาก ยิ่ง นัก. เพราะ ว่า ดุจ ไม้ ปลาย เรียว เบื้อง ต้น
โต, เอา ปลาย วาง ตั้ง ลง ไว้, ไม่ มี ที่ พึ่ง พิง จะ อาจ ดำรง ทรง
กาย อยู่ ได้ ฤๅ ไฉน.

๏ อนึ่ง นิวซะเปเปอ ที่ เรียก ว่า จด หมายเหตุ นั้น, ควร คน ทั้ง
หลาย จะ ยิน ดี ซื้อ เอา ไว้ ให้ เปน สวดีมงคล แก่ บ้าน เมือง, ด้วย
ว่า มี คุณ แก่ บ้าน เมือง ทั้ง ปวง เปน อัน มาก, เพราะ คน ทั้ง
หลาย ได้ อ่าน ดู จึ่ง มี ความ รู้ สว่าง ขึ้น ได้. ก็ เมื่อ ความ สว่าง
เกิด ขึ้น แล้ว, เปน เหตุ จะ ให้ ความ ร้าย เหือด หาย ไป. ด้วย
ความ ร้าย กลัว ความ สว่าง ใน จด หมายเหตุ นี้. เพราะ อย่าง นั้น
จึ่ง ควร จะ ยิน ดี บำรุง ไว้, ให้ ขับ ไล่ หมู่ เสี้ยน หนาม แผ่น ดิน
เสื่อม สิน ไป เสีย. ต่อ เมื่อ ผู้ ใด ที่ เคย ทำ ความ ชั่ว ข่ม ขี่ เฃา
จึ่ง ได้ มี ใจ เศ้รา เกรง กลัว เกลียด ชัง ใน หนังสือ เหล่า นี้. แล
อยาก จะ ทำ ย่ำ ยี ให้ ยับ เยิน เสีย. ก็ คน ทั้ง หลาย ที่ ทำ กรรม
ร้าย นั้น, ครั้น เรื่อง ราว ของ ตัว แพร่ง พราย กระจาย ออก ไป,
ก็ จะ มี ความ ละอาย ขึ้น บ้าง ละ การ ชั่ว เสีย, กลับ ทำ การ ดี มาก
ทวี ขึ้น ทุก วัน ๆ. ก็ เพราะ ผู้ เจ้า ของ หนังสือ นิวซะเปเปอ นั้น,
ได้ เปน ชาติ์ บัณฑิตย์ นักปราช แท้, จะ ได้ ผูก แก้ แร้ เชื่อน ไป
ฤๅ จะ ได้ เหน แก่ การ หนิด หน่อย อย่าง ไร ไม่ มี. แม้น ถึง ผู้ อื่น
จะ ไม่ ชอบ ใจ เรื่อง ความ ที่ แต่ง ไว้ ใน หนังสือ นั้น, จะ นินทา
ว่า กะไร ๆ บ้าง ก็ นิ่ง เสีย มิ ได้ ว่า ประการ ใด แก่ เขา, เพราะ
ว่า ผู้ เปน นักปราช นั้น จะ ได้ ฟัง ถ้อย คำ เล็ก น้อย ไม่ มี เลย.

๏ ผู้ เขียน หนังสือ นี้ มี ใจ รัก เมือง ไทย จริง, แต่ หา ได้ อยู่
ใน กรุง เทพ ไม่. ก็ ถึง กระนั้น จะ อุษ่า หา เหตุ ความ อะไร ๆ
ที่ จะ ได้ เปน ประโยชน์ แก่ เมือง สยาม.

คอนสติติชัน ต่อ มี ใน น่า ๑๓๙
ส่วน ที่ ๔

๏ ข้อ ที่ ๑. เวลา แล ตำบล แล อย่าง ที่ จะ จัด เลือก คน ตั้ง ไว้
เปน เซ๊นเนตอร์, แล เปน เรปริเซ๊นติติฟ นั้น, สุด แล้ว แต่ พวก
ลีซิสเลเชอ ที่ หัว เมือง นั้น จะ สั่ง. แต่ พวก คอนเคร๊ศ จะ มี อำ
นาจ เปลี่ยน เวลา ที่ จะ เลือก นั้น ได้, เว้น ไว้ แต่ ตำบล ที่ จะ เลือก
พวก เซ๊นเนตอร์นั้น.

๏ ข้อ ที่ ๒. คองเคร็ศ นั้น จะ ต้อง ประชุม กัน โดย ที่ สุด
แล เวลา ที่ ประชุม ที่ สุด โดย น้อย นั้น, ปี ละ หน, จะ เปน ณวัน จันทร์
ที่ แรก ใน เดือน ดีเซ๊มเบอ ปี ละหน, ถ้า เว้น ไว้ แต่ คอนเคร็ศ จะ
เปลี่ยน เวลา ที่ ประชุม ต่อ ภาย หลัง.

๏ สวน ที่ ๕

๏ ข้อ ที่ หนึ่ง. พวก เร็ปรีเซ็นเตติฟ, กับ พวก เซ็นเอ็ด
นั้น, จะ เปน ผู้ พิพากษา การ เลือก ตั้ง คน, เปน พวก ของ ตัว ต่อ
ไป นั้น. ถ้า พวก เรบริเซ๊นเตติฟ, ฤๅ พวก เซ็นเอ็ด นั้น, ถ้า มา
ประชุม กัน ได้ ส่วน พวก มาก กว่า ผู้ ที่ เว้น นั้น, ก็ กระทำ การ ได้.
ถ้า น้อย กว่า เขา ก็ ยัง ทำ ไม่ ได้. ที่ ประชุม กัน ทุก วัน ๆ นั้น,
ต้อง ผัด การ ต่อ ไป อีก กว่า ส่วน ที่ มา ประชุม กัน นั้น, จะ มา มาก
กว่า ส่วน ที่ เว้น, จึง จะ ทำ การ นั้น ได้. แต่ ฝ่าย ที่ มา น้อย นั้น มี
อำนาจ ควร จะ บัง คับ พวก ของ ตัว ที่ เว้น นั้น, ให้ มา ใน ที่ ประ
ชุม กัน จง ได้. แล ให้ ปรับ ไหม คน ที่ เว้น นั้น, ตาม แต่ พวก
แล พวก จะ เหน สม ควร จะ ปรับ ไหม มี โทษ แล.

๏ ข้อ ที่ สอง พวก แล พวก นั้น ต้อง มี อำนาจ ที่ จะ ตั้ง
ธรรม เนียม ใน การ พวก ของ ตัว, แล ลง โทษ แก่ ผู้ ใด หนึ่ง
ใน พวก ของ ตัว ที่ ได้ ประพฤติ์ ผิด. แล ใน พวก ของ ตัว ถ้า เหน
พร้อมใจ สอง ส่วน ยก เสีย ส่วน หนึ่ง แล้ว, ผู้ ใด ทำ ผิด จะ ไล่
เสีย ก็ ได้.

๏ ข้อ ที่ ๓. พวก แล พวก นั้น, ต้อง จดหมาย เรื่อง การ
ที่ ได้ ทำ ลง ไว้ ทุก วัน ๆ, แล เอา เรื่อง ความ นั้น ลง พิมพ์ เปน
คราว ๆ, ให้ ปรากฏ แจ้ง แก่ ชน ทั้ง ปวง. ถ้า เว้น ไว้ แต่ ส่วน ที่
ตัว จะ เหน ว่า, สม ควร ที่ จะ ปิด บัง ไว้ ก่อน, แล ผู้ ที่ จะ เหน
ชอบ, แล ผู้ ไม่ เหน ชอบ ด้วย ใน การ ใด ๆ, ก็ ต้อง ลง ชื่อ ของ
ตัว ใน เรื่อง ราว นั้น. ถ้า มี ส่วน หนึ่ง, ยก เสีย สี่ ส่วน, ถ้า
ที่ ปราถนา ให้ ลง นั้น ก็ ลง ชื่อ ได้ ทั้ง หมด.

๏ ข้อ ที่ ๔. พวก เร็ปรีเซ็นเตติฟ ก็ ดี, พวก เซ็นเอ็ต
ก็ ดี, เมื่อ คราว ที่ กอนเค็รศ ประชุม กัน, อย่า ให้ ผัด การ นั้น ไป
กว่า สาม วัน, ถ้า เว้น ไว้ แต่ พวก ที่ เคย คู่ กัน นั้น จะ ยอม. แล
ห้าม ไม่ ให้ เลิก ไป เพื่อ จะ ทำ การ ที่ อื่น, นอก จาก ที่ เคย ได้
ประชุม กัน ทำ นั้น.

๏ ส่วน ที่ ๖

๏ ข้อ ที่ หนึ่ง. คน ที่ ยู่ ใน พวก เซ็นเอ็ต, แล คน ที่
อยู่ ใน พวก เร็ปรีเซ็นเตติฟ, จะ รับ เงิน ค่า ธรรม เนียม เพื่อ การ
ของ เขา, ตาม ที่ กฎหมาย พิกัฎ แล เงิน ค่า ธรรมเนียม นั้น,
ต้อง เบิก ออก จาก คลัง หลวง เมือง ยูในติศเทษ. เขา ทั้ง หลาย
ทุก ที่ ต้อง มี ตรา คุ้ม ห้าม มิ ให้ ผู้ ใด เกาะ เอา ตัว ไป, เมื่อ คราว
ที่ ประชุม กัน ทำ ราชการ นั้น. แล เมื่อ คราว เดิน ทาง จะ ไป ยัง ที่
ประชุม, ฤา เมื่อ กลับ ไป จาก ที่ ประชุม นั้น. ถ้า เว้น ไว้ แต่ การ
กระบถ, แล การ ผิด ใหญ่ อื่น ๆ, แล การ ที่ ให้ บ้าน เมือง เกิด
จลาจล. อนึ่ง ถ้อย คำ วาจา อัน ใด อัน หนึ่ง ที่ ประกาศ ใน ที่ ประ
ชุม ภาชการ นั้น, อย่า ให้ ผู้ ใด นอก จาก ที่ ประชุม นั้น, ได้ ถาม
ซัก ขวาง ถ้อย คำ วาจา นั้น เลย.

๏ ข้อ ที่ ๒. คน แต่ พวก เซ็นเอ็ต ฤา แต่ พวก เร็ปรีเซ็น
เตติฟ, ผู้ ใด ผู้ หนึ่ง ห้าม มิ ให้ รับ การ ใน ตำแหน่ง ใด อื่น ๆ ที่
มี อยู่ แล้ว, ฤา ความ ที่ มี ประโยชน์ ทวี ขึ้น ใน ตำแหน่ง นั้น, ได้
อำนาจ เมือง ยูในติศเทษ, ใน ระหว่าง ปี เดือน ที่ เขา ได้ เลือก ตั้ง
ไว้ นั้น. แล อย่า ให้ ผู้ ใด ๆ ที่ ยัง ตั้ง อยู่ ใน ตำแหน่ง ใต้ ร่ม ธง
แห่ง เมือง ยูในติศเทษ, เข้า เปน พวก เซ็นเอ็ต, ฤา พวก เร็ปรี
เซ็นเตติฟ เมื่อ ยัง ตั้ง อยู่ ใน ที่ ตำแหน่ง นั้น.


ส่วน ที่ ๗

๏ ข้อ ที่ ๑. แต่ บันดา ข้อ กฏ ประกาษ รับสั่ง ที่ สำรับ
ให้ ราช ทรัพย์ ของ หลวง เกิด ทวี ขึ้น นั้น, ต้อง เกิด ขึ้น ใน พวก
เร็ปรีเซ็นเตติฟ ก่อน. แต่ ว่า พวก เซ็นเอต จะ ตัก เตือน ใจ พวก
เร็ปรีเซ็นเตติฟ ใน การ นั้น ก็ ได้ ฤๅ จะ เข้า ด้วย พวก เร็ปรี
เซ็นเตติฟ ใน การ ที่ จะ ดัด แปลง กฏ ประกาษ เรียก ภาษี ให้ ดี ขึ้น
ก็ ได้, เหมือน ที่ เข้า ด้วย กัน ใน การ อื่น ทั้งหลาย.

๏ ข้อ ที่ ๒ ว่า. ใน ข้อ กฏ ประกาษ ทุก ข้อ, ที่ จะ ออก มา
แต่ พวก เร็ปรีเซ็นเตติฟ, แล พวก เซ็นเอต นั้น, จะ ใช้ เปน กฏ
ประกาษ ใน หลวง ก่อน ไม่ ได้, กว่า จะ ได้ ส่ง ให้ เปรสซิเด็นต์
แห่ง เมือง ยูในติศเทศ ดู เสีย ก่อน. ถ้า ท่าน เหน ชอบ แล้ว, ก็
ต้อง ให้ ท่าน เขียน ชื่อ ของ ตัว ลง ไว้ เปน สำคัญ ที่ ใต้ หนังสือ นั้น.
ถ้า ท่าน ไม่ ชอบ ต้อง ส่ง หนังสือ กฏ ประกาษ นั้น, คืน ให้ แก่ พวก
เร็ปรีเซ็นเตติฟ. ฤๅ พวก เซ็นเอต ที่ เปน เจ้า ของ นั้น, เปรสซิ
เด็นต์ ต้อง จดหมาย ลง ว่า, เหตุ อะไร จึ่ง ไม่ ชอบ, แล พวก ผู้ ที่
เปน เจ้า ของ นั้น, ต้อง จดหมาย เหตุ ที่ เปรสซิเด็นต์ ไม่ ชอบ
นั้น. ใน หนังสือ สำรับ จดหมาย ราย งาร ที่ ทำ ทุก วัน นั้น. แล้ว
พวก นั้น ต้อง พิจารณา ดู กฏ ประกาษ นั้น เสีย ใหม่. เมื่อ เขา
พิจารณา ดู ใหม่ แล้ว, ถ้า ใน พวก นั้น, ทำ เปน สาม ส่วน ยก ส่วน
หนึ่ง, เหน ชอบ พร้อม กัน ใน กฏ ประกาษ นั้น แล้ว, ต้อง ฝาก
กฏ ประกาษ นั้น, ส่ง ไป ถึง พวก อื่น ที่ เปน คู่ รับ กัน นั้น. แล้ว
ให้ พวก นั้น พิเคราะห์ ดู กฏ ประกาษ นั้น เสีย ใหม่ เหมือน กัน. ถ้า
ใน สาม ส่วน ยก เสีย ส่วน หนึ่ง, ปฤกษา เหน พร้อม ใจ กัน แล้ว,
กฏ ประกาษ นั้น, ก็ ใช้ เปน กฎหมาย หลวง สำรับ แผ่นดิน ได้.
แต่ บันดา การ เช่น นี้, ต้อง ให้ คน ใน สอง พวก นั้น บอก ว่า เหน
ชอบ ด้วย. ฝ่าย คน ที่ ไม่ ชอบ ก็ ให้ บอก ว่า, เรา ไม่ ชอบ, จึ่ง
จะ ได้ รู้ ว่า, คน ที่ ชอบ นั้น มี กี่ คน, ที่ ไม่ ชอบ นั้น กี่ คน. แล้ว
ต้อง จดหมาย ราย ชื่อ คน ที่ ชอบ, แล ไม่ ชอบ นั้น ลง ไว้ ใน
หนังสือ สำรับ จดหมาย ราย งาน แห่ง พวก นี้ แล พวก นั้น ด้วย. ถ้า
กฏ ประกาษ บท ใด บท หนึ่ง, ไม่ ได้ ส่ง คืน แต่ เปรสซิเด็นต์ ใน
รหว่าง ๑๐ วัน, ยก เสีย แต่ วัน อาทิตย์ นั้น, นับ ตั้ง แต่ เวลา
ที่ ส่ง ให้ แก่ ท่าน นั้น ไป, แล กฏ ประกาศ นั้น จะ ต้อง ใช้ เปน
กฎหมาย หลวง, เหมือน ท่าน ได้ ลง ชื่อ ของ ท่าน ไว้ เหมือน กัน.
ถ้า เว้น ไว้ แต่ กอนเคว็ด ได้ เลิก ไป เสีย แล้ว, จึ่ง ส่ง คืน กฏ
ประกาศ นั้น ให้ เขา ไม่ ได้. ถ้า เปน เหตุ เช่น นั้น แล้ว กฏ ประ
กาศ นั้น, ยัง ใช้ เปน กฏหมาย หลวง ไม่ ได้.

๏ ข้อ ที่ ๓. กฏหมาย ประกาศ ทุก ข้อ, ฤา ข้อ
ที่หมายว่า จะกระทำ, ฤา การใด ๆ ที่ ปลงใจ ลงว่า จะทำ,
ที่ พวก เซ็นเอศ, แล พวก เร็บริเซ๊นเตติฟ, ได้ ตั้งใจว่า จะ
ทำ, ถ้า เว้นไว้ แต่ การ ที่ จะเลิก กลับ ไป บ้านนั้น, การ ทั้งปวง
นอก นั้น, ต้อง ส่ง ให้ เปรศซิเด็น แห่ง เมือง ยู ไน ติศเทษ ดู เสีย
ก่อน, แล กว่า จะตั้ง การ เปน แน่, ต้อง ให้ ท่าน บอกว่า ชอบ
แล้ว. ถ้า แม้น ท่าน ไม่ ชอบ, ก็ พวก เซ๊นเอศ, แล
พวก เร็บรีเซ็นเตติฟ, ตั้ง คิด ใน การ นั้น เสีย ใหม่. แล้ว
ถ้า แม้น พวก เซ๊นเอศ, แล พวก เร็บรีเซ็นเตติฟ จะเหน ชอบใน
การ นั้น สาม ส่วน, ยก เสีย ส่วน หนึ่ง, ก็ จะตั้ง เปน กฏ หมาย
ประกาษ แน่ นอน ได้.


การ ที่ ท่าน แก้ ด้วย สาศนา

๏ ซึ่ง ท่าน ถาม ด้วย การ พุทธสาศนา แล คฤศ สาศนา นั้น,
เปน ความ หลาย ข้อ, ข้าพเจ้า ก็ ได้ ทราบ แล้ว. จะฃอ ตอบ แต่
เปน สังเขป เล็ก น้อย. วิไส สาศนา ต่าง คน ต่าง ถือ, เถียง
กัน ไม่ รู้ จบ, ก็ จะโกรธ กัน เสีย เปล่า ไม่ ต้อง การ เลย. ซึ่ง
พุทธ สาศนา ท่าน ว่า จม อยู่ ใน ความ มืด ไม่ แผ่ ผ่าน กว้าง ขวาง ไป
ได้นั้น, ขอ แก้ ว่า คำ สั่ง สอน พุทธสาศนา ทวน กระแส กิเลศ
และ ตันหา ของ มนุษ ทั้งหลาย. เปรียบ เหมือน บุก คล พาย เรือ
ทวน กระแส น้ำ เชี่ยว, ต่อ บุคคล มี ความ เพียร จริง ๆ จึง
จะ อุส่า พาย เรือ ทวน กระแส น้ำ เซี่ยว ขึ้น ไป ได้. พุทธสาศนา
ภุก ซึ้ง คุก ขุม ละเอียด นัก, ยาก ที่ ผู้ ใด จะ รู้ จะ เข้าใจ ได้.
ด้วย เปน ของ ทวน น้ำ ใจ คน, ไม่ เปน คำ สั่ง สอน เกา ให้ ถูก
คัน ของ คน ทั้งหลาย. เพราะ ฉะนั้น ท่าน ผู้ รู้ หนังสือ ภุก ซึ้ง เข้า
ใจ ใน พุทธสาศนา จึ่ง ต้อง มัทยัด อยู่ เพราะ เหน การ ว่า ถึง
จะ ไป เที่ยว สั่ง สอน ใน ประเทศ ทั้งปวง, ก็ จะ ไม่ มี ผู้ ใด รับ
คำ สั่ง สอน, อย่า ว่า แต่ คน ประเทศ อื่น เลย. แต่ คน ที่
ถือ พุทธสาศนา ด้วย กัน ก็ ยัง ประนิบัติ ไป ไม่ ได้. ต่อ ท่าน ที่ มี
ความ เชื่อ ชัก ถนัก แน่ ใน ใจ แล้ว ท่าน จึง ประนิบัติ ได้ แขง แรง.

๏ ข้อ ที่ ท่าน ว่า ด้วย ความ สว่าง และ ความ มืด นั้น, บุก
คล ได้ ถือ คฤศ สาศนา มี ความ จำเริญ, บ้านเมือง ก็ รุ่ง เรือง
งด งาม แขง แรง มี วิชาการ ความ รู้ ต่าง ๆ เพราะ อำนาจ สาศ
นา ให้ คุณ. ความ ข้อ นี้ ข้าพเจ้า ยัง ไม่ เหน ด้วย. ได้ ทราบ
ว่า บุกล ที่ อยู่ ใน แผ่น ดิน ยูรบ, ที่ เขา ไม่ ถือ กฤศ สาศนา
พระกฤษ ก็ เปน อัน มาก, เขา ก็ มี วิชา การ ความ รู้ รุ่ง เรือง
เหมือน กัน กับ พวก ที่ ถือ กฤศ สาศนา. ก็ นี่ ความ สว่าง อะไร
เล่า ไป ส่อง ให้ เขา มี ความ จำเริญ ด้วย. ประการ หนึ่ง พวก
ไทย พวก จีน พวก มอญ พวก ยวน, ที่ เข้า รีศ กฤษตาง อยู่ ใน
เมือง ไทย นี้, ก็ นับ ถือ ประนิบัติ ใน ทาง สาศนา แขง แรง เคร่ง
ครัด ยิ่ง กว่า ชาว ยูรบ เสีย อีก. ก็ ไม่ เหน มี ความ จำ เริญ สิ่ง
ไร, มี แต่ เปน หนี้ เปน ข้า เขา โดย มาก. ทำ ไม ความ สว่าง
นั้น ไม่ มา ส่อง ให้ ต้อง คน เหล่า นี้ ให้ ดี กว่า คน ที่ เขา ไม่ นับ ถือ
กฤษ ตาง. ถ้า พวก เข้า รีศ เหล่า นี้ มี ความ จำ เริญ ยิ่ง กว่า บุกล
จำพวก อื่น. คือ ว่า มี ทรัพย์ มาก มี อายุ มาก มี ความ ศุข มัก, ไม่
แก่ ไม่ ตาย ไม่ ยาก ไม่ จน. ถ้า ดัง นั้น แล้ว ข้าพเจ้า ก็ จะ เหน
ด้วย ว่า กฤศ สาศนา มี คุณ จริง ๆ. นี่ ยัง ไม่ เหน ความ วิเสฎ
สิ่ง หนึ่ง สิ่ง ใด เลย. จะ ให้ นับ ถือ อย่าง ไร ได้.

๏ ข้อ ที่ ท่าน ว่า รับ สั่ง ให้ หา ไป ใน พระ อุโบสถ วัด หงษาราม
นั้น, เหน พระ พุทธ รูป ท่าน ว่า ไม่ ควร จะ ไหว้ จะ กราบ รูป คำรบ
นั้น. ขอ แก้ ว่า พระ พุทธ รูป นี้, เขา สร้าง ไว้ เพื่อ ประโยชน์ จะ
เตือน ใจ คน ทั้ง หลาย ให้ เปน ที่ ละฤก ถึง องค์ พระ เจ้า เท่า นั้น.
เขา ไม่ ได้ ถือ ว่า รูป นั้น เปน องค์ พระ เจ้า ที เดียว. เปน ของ
เตือน ใจ ผู้ ใด ที่ ถือ พุทธ สาศนา ได้ เหน แล้ว, ก็ จะ ได้ คิด ถึง
พระ เจ้า ว่า เปน บรม ครู อัน ประเสริฐ. ด้วย พะ องค์ ท่าน มี ตัว
ตน จริง ๆ. ก็ ที่ บุกล ถือ รูป ตเวต ใน สาน เจ้า นั้น เหน ว่า ไม่
ถูก, ด้วย ของ ไม่ มี ตัว และ ไม่ เหน ตัว, เทพารักษ์ จะ มี จริง ๆ
ไม่ มี ก็ ไม่ รู้. ไป หลง ไหว้ รูป คำรบ และ หลง นับ ถือ ของ ที่ ไม่
เหน ตัว อยู่ ก็ ไม่ เหน เปน ประโยชน์ อไร. ข้อ ที่ ท่าน ออก ตัว ว่า
เข้า ไป ใน พระ อุโบสถ, คน ทั้ง หลาย จะ เข้า ใจ ว่า ท่าน เลื่อม ไส
ใน พุทธ สาศนา สัก ครึ่ง หนึ่ง ดอก กระมัง, ความ ข้อ นี้ ก็ เหน
ว่า จะ จริง. ถ้า บุกล ที่ ถือ เคร่ง ครัด แล้ว เขา ก็ ไม่ เข้า ไป
เลย. ข้าพเจ้า ว่า ทั้ง นี้ ผิด ชอบ ประการ ใด ขอ โทษ ท่าน เสีย
เถิด.

๏ ยัง มี นิ ทาน อีก เรื่อง หนึ่ง, คล้าย ๆ กับ นิ ทาน ไก่ ของ
ท่าน. มี บุรุศ ผู้ หนึ่ง แบก ฟาง เดิน มา, ก็ มี บุรุศ คน หนึ่ง
เหน ดัง นั้น มี ความ กรุณา, จึ่ง ว่า เพชูร นิล จินดา ของ ดี ๆ
ของ เรา มี, เรา จะ ขอ ให้ แก่ ท่าน เอา ไป, ซื้อ จ่าย เลี้ยง ชีวิตร.
แต่ ฟาง นั้น เป็น ของ ไม่ มี ราคา ให้ ท่าน ทิ้ง เสีย เถิด, เปา
แบก ไป เลย, บุรุศ ที่ แบก ฟาง นั้น ตอบ ว่า ฟาง ของ เรา แบก
มา นมนาน นักหนา แล้ว, จะ ให้ เรา ทิ้ง เสีย ไม่ บังควร. เรา
จะ ขอ แบก ร่ำไป. ถึง ของ ใคร จะ ดี อย่างไร เรา ก็ ไม่ เอา. ไก่
มัน เป็น แต่ สัตวเดียระฉาน, มัน ก็ ไม่ รู้จัก ว่า เพชร ว่า ของ
ดี มี ราคา. มัน ก็ ปราถนา แต่ อาหาร สิ่ง เดียว. แต่ มนุษ มี สติ
ปัญญา รู้จัก ว่า ของ ดี และ ของ ชั่ว, ก็ ยัง ไม่ รับ เอา เพชร
นิลจินดา ของ ที่ มี ราคา มาก.
๏ คง มี คำ แก้ ความ ใน ข้อ นี้ ต่อ ภาย หลัง.


๏ ว่า ด้วย ชาว เมือง พมา มี เท่าไร ๚ะ

๏ ขุนนาง ผู้ใหญ่ ฝ่าย อังกฤษ เรียก ว่า, กัมมิศชันเนอ มี
บาญชี สมโน ครัว ออก มา เมื่อ คฤษ ศักราช ๑๘๖๓ ว่า ด้วย หัว
เมือง ใน แขวง เมือง พม่า ๑๗ หัว เมือง, ว่า แต่ เมือง ที่ มี คน
กว่า ๕ พัน คือ เมือง ยางกุ้ง มี คน ๖ หมื่น พัน ๑ กับ ๑๓๘ คน.
เมือง พี่คิ่ว มี คน ๙ พัน ๕๗๐ คน. เมือง ยันตุน ๗ พัน ๙๐๙ คน.
เมือง โพรม ๒ หมื่น ๘๘๘ คน. เมือง ธาเยศไมโอ ๖ พัน ๙๕๔
คน. เมือง เตาง์เบาง์ ๗ พัน ๔๖๓ คน. เมือง บัดไซน์ ๒ หมื่น
๖ พัน ๕๑๑ คน. เมือง ลำยี่ตอ ๕ พัน ๙๓๔ คน. เมือง พันต
นอ ๖ พัน ๗๓๙ คน. เมือง ไมอะเอาง์ ๗ พัน ๑๒๙ คน. เมือง
เฮนชาดา ๙ พัน ๑๗๗ คน. เมือง เซาง์อู ๙ พัน ๘๙๐ คน. เมือง
มลแม่ง ๖ หมื่น ๘๘๙ คน. เมือง ทวาย หมื่น ๓ พัน ๑๘๓ คน.
เมือง มะคิ่ว ๙ พัน ๘๙๔ คน. เมือง มัตบัน ๗ พัน ๗๑๔ คน.
เมือง อักยับ หมื่น ๔ พัน ๙๙๖ คน. ศิรี ด้วย กัน เป็น ๒ แสน ๘
หมื่น ๕ พัน ๘ ร้อย ๗๘ คน. แต่ นอก นี้ มี เมือง เล็ก ที่ มี คน
น้อย เมือง หนึ่ง ไม่ ถึง ๕ พัน คน ก็ มี อยู่ มาก.

คน ที่ อยู่ ใต้ ร่มธง อังกฤษ ใน เมือง พม่า มี เท่าไร

๏ ใน คฤศศักราช ๑๘๖๓ กัมมิศชันเนอ คน นั้น มี บาญชี
สมโนครัว บอก ว่า, คน ชาติ ยุหรบ กับ ลูก หลาน นับ ๕ พัน
๒ ร้อย ๕๑ คน. ชาติ พม่า นับ ชาว เมือง อารกัน เข้า ด้วย, เป็น
ล้าน ๕ แสน ๗ พัน ๗ ร้อย ๒๔ คน. ชาติ เกรี่ยง ๓ แสน ๖
หมื่น ๔ พัน ๗ ร้อย ๕๖ คน. ชาติ แซอน และ ชาติ เซาง์ธู่ นับ
เข้า ด้วย กัน ๕ หมื่น ๔ พัน ๗ ร้อย ๙๗ คน. ชาติ จีน ๔ พัน ๕
ร้อย ๙ คน. ชาติ กะเยน ๔ หมื่น ๙ ร้อย ๗๖ คน. ชาติ อิน
เตียน ๖ หมื่น ๔ พัน ๒ ร้อย ๗๑ คน. ชาติ แขก มะหะเมด ๒
หมื่น ๗ พัน ๑๕๘ คน. ชาติ กิมี ๒ พัน ๘๐๑ คน, แล บัน ดา
ชาติ อื่น ต่าง ๆ นับ ด้วย กัน เปน หมื่น ๙ พัน ๗๖๖ คน. ศิริ
ด้วย กัน เปน ๒ ล้าน ๙ แสน ๓ พัน ๔๑ คน.


๏ ที่ ประเทศ อินเดีย, คือ เมือง ลังกา, เมือง มัง กะ ลา,
เมือง บำไบ นั้น, มี คน อยู่ ประมาณ ๒๐๐ ล้าน คน. แบ่ง ออก
กว่า ๓๐ ชาติ, พูด ภาษา กว่า ๕๐ อย่าง. ใน เร็ว ๆ นี้ มี การ ที่
ขุนนาง อังกฤษ, เชิญ ให้ เจ้านาย ชาติ เหล่า นี้ ประชุม กัน ๖๐๐ องค์.


๏ อนึ่ง ชาติ จีน ที่ เมือง แกเละฟอเนีย, แขวง เมือง อยู่ ใน
ทิศ เทศ นั้น, ทุก วัน นี้ นับ ประมาณ ได้ ๗๐๐๐๐ คน. เขา
ก็ แลน ไป จาก เมือง จีน ฝ่าย ตวัน ตก, ไป ถึง เมือง แกเละฟอ
เนีย, แขวง เมือง อยู่ ใน ทิศ เทศ, ฝ่าย ตวัน ตก ไป ถึง เมือง
แกเละ ฟอ เนีย, แล้ว ก็ ต่าง คน ต่าง แยก กัน ไป, ใน เมือง
โอริคอน บ้าง, เมือง นิวาคะ บ้าง, เที่ยว หา เงิน ทอง. เขา ยัง
กำลัง ถือ พระพุทธ สาสนา มั่น คง อยู่. แต่ ผู้ อื่น หา เข้า ด้วย ไม่.

สาสนา ที่ เมือง ยิปุ่น

๏ อนึ่ง แต่ บุราณ พวก ชาว ยี่ปุ่น ก็ เคย นับถือ สาสนา ที่ เรียก
ว่า ซินโตอิชม์, คือ สาสนา ที่ ให้ ไหว้ ดวง อาทิตย์. ใน วัด ของ
เขา ไม่ มี รูป, มี แต่ กระจก ใหญ่ แขวน อยู่ บน แท่น เปน ของ
สำคัญ ให้ เข้าใจ ว่า บริสุทธิ. พุทธ สาสนา เข้า ไป ใน เมือง นั้น
ที่ หลัง ประมาณ ได้ ๑๓๐๐ ปี พ้น มา แล้ว. ทุก วัน นี้ มี สาสนา
สอง อย่าง, คือ สาสนา ซินโตอิชม์, แล พุทธ สาสนา, ยัง จำเริญ
อยู่ ทั้ง สอง ฝ่าย. วัด ของ พวก ที่ ถือ พุทธ สาสนา ใน เมือง ยี่ปุ่น
นั้น, ข้าง ใน ดู คล้าย วัด บาทหลวง, เขา สวด ตาม ภาษา ที่ คน ทั้ง
หลาย ทั้ง ปวง ไม่ รู้ จัก, แล มี ธูบ เทียน จุด อยู่ ที่ บน โตะ นั้น,
เขา มี กะดิ่ง ใน ที่ ๆ สวด ด้วย. พวก ที่ เปน ประธาน ใน พุทธ
สาสนา นั้น ไม่ ได้ มี เมีย, แล ได้ โกน ศีร์ษะ เหมือน พวก ที่ เปน ประ
ทาน ใน บาทหลวง. แต่ พวก ที่ เปน ประธาน ใน สาสนา ซินโต
อิชม์ นั้น มี เมีย ได้.

พวก พระสงฆ เมือง ลังกา

๏ อนึ่ง ที่ เมือง ลังกา ใน เรว ๆ นี้, มี มิศชันเอเร ชาติ อัง
กฤษ หก คน เปน ประธาน. แล พวก ที่ นับถือ พุทธ สาสนา เปน
ประทาน ห้าสิบ คน, เขา นัด กัน ว่า, จะ ประชุม กัน กล่าว สรรเสิญ
ศาสนา ทั้ง สอง ฝ่าย. วัน ที่ แรก ประชุม กัน นั้น, พวก ที่ นับ
ถือ พุทธ ศาสนา สอง พัน คน มา ประชุม กัน. ข่าว ว่า เขา ร้อน รน
ใจ นัก ด้วย จะ สู้ กัน. เขา สู้ กัน ด้วย เขียน หนังสือ ยื่น ขึ้น อ่าน
ให้ คน ทั้ง สอง ฝ่าย ฟัง. การ นั้น ก็ ยัง ไม่ ยอม แพ้ กัน, คง
จะ ประชุม กัน อีก.

คลองใหญ่ ที่ เมือง อายฆุบโต

๏ อนึ่ง คลอง ที่ เมือง ซูเอ็ซ แขวง เมือง,อายคุบโต, ที่ ระ
หว่าง เทล แดง กับ เทล เม็ดติเรเนียน ต่อ กัน นั้น, เมืองฝรั่งเศศ
ได้ ทำ หก ปี จึง ได้ แล้ว. ยาว ได้ ๙๐ ไมล์, กว้าง ๔๐ ฟุต, ฦก
สี่ฟุต. ฝรั่ง เศศ ก็ หมาย จะ ทำให้ กว้าง ออก ไป ถึง ๓๓๐ ฟุก.
ให้ ฦก ยี่สิบ ฟุต, จึง จะ แล่น กำปั่น ได้ ไป ถึง ประเทศ ยูรบ
โดย เรว.

คน ชรา ใน เมือง ยูในติศเทศ ไม่ มี ผู้ ชรา ยิ่ง กว่า

๏ คือ มิศเตอ แมกอมิก, อยู่ ที่ หัว เมือง นอซแกโรลายนา
แขวง เมือง อยูในติศเทศ. เกิด เมื่อ คฤษ ศักราช ๑๗๕๑, คือ
๑๑๔ ปี แล้ว, ยัง อยู่ มี่ กำลัง ปรกติ ดี อยู่, เสียง พูด ก็ ยัง ดัง,
หู ฟัง ดี, แต่ ตา มัว มืด ไป. ผม งอก ไม่ มาก นัก. เมื่อ อายุ
ได้ สี่สิบห้า ปี ก็ ได้ เมีย, แล้ว เกิด บุตร ตาม ลำดับ กัน ๑๔ คน.
เขา ไม่ ได้ เสพย์ สุรา, ไม่ อยาก ได้ เหมือน คน อื่น. เมื่อ รับ ประ
ทาน อาหาร เคย ใส่ เกลือ มาก, คน อื่น กิน ไม่ ได้ เพราะ เค็ม นัก.
ถึง กระนั้น ก็ ไม่ ระหาย น้ำ นัก. เมื่อ อายุ ได้ ๖๕ ปี จับ สูบ บุ
หรี่ บ้าง, แต่ ก่อน มา ก็ ไม่ ได้ สูบ เลย. น้ำ ชา แล น้ำ เข้า แฟ่
เขา ก็ ไม่ ได้ กิน เลย. น้ำ นม นั้น เขา ก็ เกลียด ไม่ ได้ รับ ประ
ทาน. เขา เคย ทำ การ หนัก ๆ เสมอ ทุก วัน ๆ, เมื่อ เขา นอน
เปน เวลา หัว ค่ำ, แต่ ตื่น เช้า มืด. ใน คฤษ ศักราช ๑๗๙๘,
เขา ก็ เข้า กับ พวก ขบถ ถูก อาวุธ ที่ ขา ข้าง ซ้าย. เมื่อ คน ไป
ถาม เขา ว่า, เหตุ ผล ประการ ใด ท่าน จึง มี อายุ ยืน, เขา ตอบ
ว่า, เพราะ ข้าพเจ้า ไม่ ได้ รับ ประทาน น้ำ สุรา, ได้ อุตส่าห์ ทำการ อยู่
ทุก วัน, ได้ รับ ประทาน อาหาร ฃอง ที่ อย่าง กลาง, ไม่ หวาน นัก
แล ไม่ ระคน ด้วย น้ำมัน มาก. แล้ว รับ ประทาน อาหาร ไม่ ให้
ผิด เวลา ด้วย. มี เวลา เข้า นอน ตื่น นอน ไม่ ผิด เวลา อยู่ เสมอ.
ผู้ ใด ได้ พิเคราะห์ ดู คน นั้น, แล้ว สำคัญ ว่า เขา มี อายุ ได้ ๗๐ ปี


แต่ เท่า นั้น. ทุก วัน นี้ อาการ นอน ก็ ปรกติ, การ ทั้งปวง ที่
ทำ ก็ เปน ปรกติ, ดู เหมือน จะ ยั่งยืน อีก สัก สิบ ปี ได้.

เครื่อง สูบ น้ำ ล้าง ทอง

๏ ข้าพเจ้า ผู้ เจ้า ของ หนังสือ นี้, มี เครื่อง สูบ น้ำ สำ
รับ ล้าง ท้อง ๑๒ สำรับ, ได้ ซื้อ มา แต่ เมือง อเมริกา, มา
ถึง ได้ ๔ วัน ๕ วัน แล้ว. สูบ นั้น เปน ของ อย่าง ดี, ไม่
รู้ เสีย เลย. ใส่ ไว้ ใน หีบ ไม้, ชื่อ เมฮอโคนี่ งาม ดี นัก. จะ
ขาย ราคา สำรับ ละ ๘ เหรียน. ถ้า ผู้ ใด จะ ต้อง การ, เชิญ
ท่าน มา ซื้อ โดย เร็ว, ของ นั้น มี น้อย เก, คง จะ หมด
เร็ว แล้ว.

งู เหลือม ใหญ่ ที่ เมือง บังกถา

จะ ว่า ด้วย งู เหลือม ใหญ่ ตัว หนึ่ง. ว่า มี หนังสือ ข่าว มา
แต่ เมือง เมตรัส ว่า มี นาย ทหาร อังกฤษ คน หนึ่ง เปน คน กล้า,
เลย ไป เที่ยว ยิง สัตว ต่าง ๆ ใน ป่า. อยู่ มา วัน หนึ่ง มี ชาว เมือง
ฮินดูสถาน คน หนึ่ง มา บอก แก่ นาย ทหาร นั้น ว่า, ข้าพเจ้า ไป
เที่ยว ตาม วัว ของ ข้าพเจ้า ใน ป่า, ข้าพเจ้า ได้ พบ เนื้อ อย่าง หนึ่ง
ภาษา นั้น เรียก ว่า ซีตูล เปน เนื้อ ลาย. เขา ไป บอก นาย ทหาร
อย่าง นั้น, ด้วย เหน ว่า นาย ทหาร นั้น เปน คน ชอบ เที่ยว ป่า ยิง
สัตว. นาย ทหาร กับ คน ที่ บอก นั้น ก็ พา กัน ไป ป่า จะ ยิง เนื้อ
ตัว นั้น, แล้ว ก็ เอา สุนักข์ ไป ด้วย ตัว หนึ่ง. เมื่อ เข้า ไป ใน ป่า
ไกล ศัก ๒๐ เส้น, ใกล้ จะ ถึง ที่ เนื้อ นั้น อยู่, นาย ทหาร ก็ เหลียว
หน้า มา ดู ข้าง หลัง ก็ เหน สุนักข์ ที่ ตัว เอา ไป นั้น, มัน หาย ไป.
ศักครู่ หนึ่ง, ก็ ได้ ยิน เสียง ดัง ปรากฏ ใน สุมทุม ไม้ ใกล้ กับ ตัว
ศัก ๕ วา. ก็ พิจารณา ดู ใน สุมทุม ไม้ นั้น ก็ เหน สัตว อย่าง หนึ่ง
สำคัญ ว่า เปน เสื้อ ใหญ่, ด้วย มี สี ต่าง ๆ เหมือน กับ เสื้อ ลาย
นั้น. ต่อ เมื่อ พิเคราะห์ ไป จึง รู้ ว่า เปน งู เหลือม ใช่ เสื้อ. งู เหลือม
นั้น มัน รัด สุนักข์ ไว้, รัด จน กะดูก สุนักข์ นั้น หัก มี เสียง ได้ ยิน
ปรากฏ. คน ที่ ไป กับ นาย ทหาร นั้น ครั้น เหน งู แล้ว ก็ กลัว วิ่ง
หนี ไป โดย เร็ว. งู เหลือม นั้น มัน ก็ ยก ศีศะ ขึ้น แล ดู นาย
ทหาร, ๆ ก็ ยิง ปืน ถูก ศีศะ งู นั้น สอง ลูก, แต่ งู นั้น ไม่ ตาย มัน
ก็ คลาย สุนักข์ ออก, เลื้อย มา ตรง นาย ทหาร ด้วย จะ กัด นาย ทหาร
นั้น. นาย ทหาร ก็ วิ่ง หนี ไป, แต่ ป่า นั้น มัน รก ชัด นัก จะ วิ่ง หนี
ไป เรว ไม่ ได้. เมื่อ นาย ทหาร เหน ว่า งู เลื้อย เข้า มา ใกล้ แล้ว,


นาย ทหาร ก็ หนี ขึ้น ต้น ไม้ แล้ว ก็ ยัด ปืน คอย จะ ยิง งู นั้น. พอ
ยัด ปืน แล้ว งู ก็ เลื้อย มา ถึง ต้น ไม้ ที่ นาย ทหาร อยู่. มัน ก็
เลื้อย ขึ้น ต้น ไม้ จะ กัด นาย ทหาร. นาย ทหาร ก็ ยิง งู นั้น ถูก
ตา ทั้ง สอง, ตา งู ทั้ง สอง ก็ บอด ไป มิ ได้ แล เหน, แต่ มัน ไม่
ตาย, มัน ก็ เลื้อย ต่อ ขึ้น ไป อิก. นาย ทหาร ก็ ยิง ปืน อิก, ยิง
จน สิ้น ลูก สิ้น ดิน, แล้ว งู ก็ หยุด อยู่ มิ ได้ เลื้อย ต่อ ขึ้น ไป อิก.
แต่ นาย ทหาร นั้น จะ ลง มา ก็ ลง มา ไม่ ได้, ด้วย มัน ยัง ไม่
ตาย ยัง เปน อยู่. นาย ทหาร จึ่ง ร้อง เรียก ซึ่ง ชาว บ้าน ให้ มา ช่วย
ด้วย เสียง อัน ดัง. ภาย หลัง ก็ มี คน ชาว บ้าน หลาย คน, เขา
ก็ ออก มา ช่วย มา ฆ่า งู นั้น ให้ ตาย. นาย ทหาร นั้น จึ่ง ลง มา ได้.
งู ตัว นั้น วัด โดย ยาว ได้ ๓๐ ศอก, แต่ ลำ ตัว นั้น เขา ว่า โต กว่า
ต้น ขา ของ คน ที่ โต ใหญ่ นั้น อิก.

เสียง ฟ้า ร้อง เรว เท่า ได

๏ ที่ นี้ จะ ว่า ด้วย ตำรา ไฟ ฟ้า ข้อ หนึ่ง, ว่า จะ กำหนด สำ
เกต ให้ รู้ ว่า ฟ้า ร้อง นั้น จะ ร้อง ใก้ล หฦา ร้อง ไก้ล, จะ สังเกต แล
กำหนด อย่าง ไร ได้. คือ ว่า ให้ กำหนด อย่าง นี้. คือ ถ้า เหน ฟ้า
แลบ กับ เสียง ฟ้า ร้อง พร้อม กัน ก็ เข้าใจ ว่า ฟ้า ร้อง อยู่ ใกล้ นัก.
ถ้า เหน ฟ้า แลบ แล้ว ภาย หลัง จึ่ง ได้ ยิน เสียง ฟ้า ร้อง ๆ ต่อ ภาย
หลัง, ก็ เข้าใจ ว่า ฟ้า ร้อง อยู่ ไกล. ถ้า จะ กำหนด ให้ รู แน่, ก็
พึ่ง กำหนด ด้วย เทพจร ที่ ข้อ มือ เปน ปรกติ นั้น, คือ ว่า ถ้า เหน
ฟ้า แลบ ขณะ ใด ก็ ให้ เอา มือ กด เทพจร ลง ใน ขณะ นั้น, ให้ สัง
เกต ดู, ว่า ถ้า ฟ้า แลบ แล้ว เทพจร เต้น หน หนึ่ง จึ่ง ได้ ยิน เสียง
ฟ้า ร้อง, ถ้า เปน ดัง นั้น ก็ ว่า ฟ้า ร้อง ไกล ไป จาก ตัว เรา เจ็ด เส้น.
ถ้า ฟ้า แลบ แล้ว เทพจร เต้น ๒ หน ๓ หน จึ่ง ได้ ยิน เสียง ฟ้า ร้อง,
ก็ กำหนด ว่า ฟ้า ร้อง นั้น ร้อง ไกล จาก ตัว เรา ๑๔ เส้น ๒๑ เส้น
เพราะ เหตุ ว่า เทพจร นั้น, ถ้า เต้น ที หนึ่ง แล้ว ก็ เปน ที่ กำหนด
เสียง ไกล ได้ เจ็ด เส้น ๆ. ๚ะ

๏ การ มิ รับ วิ ตา ดี ที่ เกิด ใหม่

๏ ประมาณ ได้ ๓๐ ปี, มี เสรฐี คน หนึ่ง อยู่ ที่ เมือง นิว
เจอซี, แขวง เมือง ยูไนติศเตษ. เขา มี รถ เทียม ด้วย ม้า หลาย
เล่ม, ฯ ละ สอง คู่ สาม คู่ บ้าง. คอย รับ จ้าง คน ที่ จะ ไป เที่ยว
เล่น, แล รับ จ้าง เข้า เมือง ยูในติศเทศ, ถือ หนังสือ ฝาก ต่าง
ต่าง, ไป แจก ทั่ว ทุก แห่ง ที่ ควร จะ ไป นั้น. แล การ นั้น ก็ เปน


การใหญ่, ผู้นั้น จึ่ง ได้ สะสม ทรัพย์ สมบัติ มาก ขึ้น ได้เปน เสรฐี
แล้ว. ครั้น อยู่ มา จึ่ง เกิด วิชา รถ ไฟ ขึ้น ใน ที่ ตำบล นั้น. รถ
ไฟ ก็ ไป เร็ว กว่า รถ ที่ เทียม ด้วย ม้า นั้น มาก นัก. คน ทั้งปวง
ที่ ประสงค์ จะ เที่ยว เล่น ก็ ชอบ ไป ด้วย รถไฟ. ฝ่าย เจ้า ของ รถ
ม้านั้น ก็ โกรธ, จึ่ง ตั้ง ใจ แขง แรง ว่า จะ ไม่ ยอม ให้ รถ ไฟ มา
ทำลาย การ ของ เรา เลย. ควร เรา จะ ทำ รถ ม้า ให้ ดี ขึ้น มาก
กว่า แต่ ก่อน, ให้ มี แรง ม้า มาก ขึ้น เพื่อ จะ แข่ง เอา ไชย ชะนะ
รถไฟ ให้ จง ได้. จึ่ง ลง ทุน สร้าง รถ ซื้อ ม้า ให้ บริบูรณ พร้อม,
แล เที่ยว ไป เที่ยว มา เร็ว หมาย ว่า จะ สู้ รถ ไฟ ได้, แล คิด ว่า
คน ก็ จะ ชอบ ขี่ รถ ม้า เหมือน ครั้ง ก่อน.

๏ แต่ เขา ทำ มา ฉนี้ ประมาณ สอง ปี สาม ปี, ก็ พึง เหน
ว่า จะ สู้ รถ ไฟ ไม่ ไหว, แล คน ที่ ชอบ ใจ ขี่ รถ ม้า นั้น ก็ มี แต่
คน ที่ แก่ ๆ, เขา มิ ชอบ ใจ จะ เปลี่ยน ธรรมเนียม โบราณ. แต่ คน
หนุ่ม ที่ มี กำลัง นั้น ก็ ทิ้ง รถ ม้า เสีย หมด. แล เจ้า เมือง ยูไนติศ
เทษ ก็ ไม่ จ้าง ให้ ถือ หนังสือ ฝาก ไป แจก เหมือน ครั้ง ก่อน เลย,
เพราะ รถ ไฟ เร็ว แล ดี กว่า รถ ม้า เปน อัน มาก. เหตุ ดังนี้ การ
รถ ม้า นั้น ก็ เปน การ หัก ล้ม ลง, ประมาณ มา ได้ สาม ปี, ก็ เสีย
ยับ เยิน ไป สิ้น. ส่วน เจ้า ของ นั้น เล่า ก็ กลับ เปน คน อยาก จน
เขนใจ. เปน ไป ดัง นั้น เพราะ เขา ขัด ขวาง วิชา ที่ เกิด ขึ้น ใหม่
นั้น. ถ้า เขา ได้ คิด เข้า ส่วน ใน การ รถไฟ, ก็ คง จะ ได้ ดี ขึ้น
หา เสื่อม เสีย ไม่.

๏ ทุก วัน นี้ บังเกิด วิชา อย่าง ใหม่, ใน เมือง ไทย ดี ขึ้น
กว่า แต่ ก่อน นัก, ก็ หา ควร ผู้ ใด จะ ขัด ขวาง ไม่. เหมือน อย่าง
กำปั่น ใบ ถ้า จะ ใช้ ก็ ดี กว่า สำเภา จีน มาก มิ ใช่ ฤๅ. แล กำปั่น
กลไฟ เปน วิชา ดี หลาย อย่าง, คือ ไป มา ก็ เร็ว จะ กำหนด เวลา ที่
ไป มา ก็ แม่น ยำ. แล วิชา การ สี เข้า แล เลื่อย ไม้ ด้วย จัก กลไฟ
นั้น, ก็ พึง เข้า มา ใน ประเทศ ไทย. แล การ นี้ คง จะ ใหญ่ ขึ้น,
เพราะ เปน วิชา ดี แท้, ได้ ทด ลอง ดู ที่ เมือง นอก หลาย ปี มา
แล้ว. หา ควร ผู้ ใด จะ ดูหมิ่น ใน การ นี้ ไม่, เหมือน ท่าน ผู้ ใหญ่
ผู้ หนึ่ง ได้ กล่าว ไว้ ว่า, ดู แต่ พวก สี เข้า พวก เลื่อย ไม้ เอะ อะ ๆ,
มา ทำ ก็ ไม่ เหน ว่า ได้ กำไร้ อไร เท่า ไร. แล การ ที่ จะ ให้ มี เต
ละแครฟ แล รถไฟ, ที่ จะ ให้ มี ใน สยาม ประเทศ ไม่ ช้า ไม่ นาน
คง จะ สำเรฐ, เพราะ เปน การ ดี แท้. ถึง ชาว สยาม ที่ แก่ ๆ ชรา
จะ ไม่ เหน ด้วย, คน หนุ่ม ๆ ที่ จะ เกิด ใน เมือง ไทย ต่อ ไป เบื้อง


น่า ก็ คง จะ รับ ใช้. ที่ ท่าน ผู้ ใหญ่ ว่า, บ่น เภ้อ ไป นั้น เหนื่อย
เปล่า ไม่ มี ใคร จะ คิด ทำ ตาม นั้น, ข้าพเข้า ไม่ เหน ดว้ย เลย.
ควร ที่ จะ อุษาห์ บ่น เภ้อ ต่อ ไป ไม่ อยุด. เพราะ การ ที่ บ่น ฉนี้ มี
อำนาจ มาก, จะ ไม่ เหนื่อย เปล่า เลย. ดุจ การ ที่ บ่น เภ้อ ดว้ย
ทำเนียม ใช้ ทาษ, ใน เมือง ยูในติศเทษ ประมาณ ๓๐ ปี เสศ แล้ว.
ครั้ง นั้น มี จำ พวก หนึ่ง เรียก ว่า พวก แอนติซะเลวีรี่, คือ พวก ที่
ไม่ ชอบ การ ใช้ ทาษ เลย. เขา อุษาห์ บ่น เภ้อ ไป ทุก วัน, เปน
ใจ ความ ว่า, ควร ที่ จะ อยุด การ ใช้ ทาษ ที เดียว, เปน การ ขาด
จาก ความ เมตา แท้. ถ้า ไม่ อยุด, นาน ไป เบื้อง น่า จะ เกิด วุ่น
วาย ขึ้น ใน เมือง นัก. คน ทั้งปวง นอก นั้น ก็ ย่อม ว่า เปน การ
บ่น เภ้อ ไป เหนื่อย เสีย เปล่า, จะ ไม่ สู้ มี ใคร คิด ทำ ตาม.
ถึง กระ นั้น พวก แอนติซะเลวีรี่ นั้น ไม่ อยุด ความ กล่าว โทษ การ ใช้
ทาษ แล สรรเสิญ การ ที่ มิ ได้ ใช้ ทาษ. พวก นั้น ก็ เกิด ทวี มาก
ขึ้น นัก, จน มี กำลัง จะ ตั้ง มิศเตอ ลินกัน เปน เปรศซีเด็นต์ แห่ง
เมือง ยูไนติศเทษ. แล้ว มิศเตอ ลินกัน จึง ตั้ง กฎหมาย ห้าม มิ
ให้ ใช้ ทาษ ใน เมือง ยูไนติศเทษ ต่อ ไป. เหตุ นั้น การ ที่ ใช้ ทาษ
ใน เมือง ยูไนติศเทษ, ก็ สูญ หาย ไป เสีย แล้ว. นี้ แล เปน ผล
แห่ง คำ บ่น เภ้อ ไป นาน, มี ผล ดี นัก ฤๅ.

๏ แล การ ที่ ท่าน ว่า ไทย จะ ไม่ ยอม เอา เงิน ลง ทุน เรี่ยราย
ออก ทำ ตึก ใหญ่ สำรับ สั่ง สอน ซึ่ง วิชา ต่าง ๆ นั้น, ก็ เหมือน
คน ชาว รถ ม้า นั้น. ฯ เปน ความ คิด แห่ง ชาว สยาม แก่ ๆ ไม่ ใช่
ชาว สยาม ใหม่ ๆ. ขอ เชิญ ท่าน ทั้งหลาย ผู้ เปน คน แก่ ๆ ใน
ประเทศ สยาม นี้ เร่ง เขา ใน การ ที่ ไป ดว้ย กล ไฟ ต่าง ๆ, แล
วิชา อย่าง ประเทศ ยูรบ อื่น อัน ดี ดว้ย เถิด, จึง จะ ไม่ ตอ้ง ละ ทิ้ง
ไว้ อยู่ เบื้อง หลัง สยาม ใหม่ ภุก นัก.

ประกาศ ให้ เรียก ตาม พระ ราช บัญญัติ

๏ คลอง แต่ วัด แก้ว ฟ้า, ไป ถึง วัด เทวราชกุญชร, ที่
ราษฎร เรียก ว่า คลอง ขุด ใหม่ นั้น, ทรง พระ กรุณา โปรดเกล้า ฯ
ให้ เรียก ว่า คลอง ผดุง กรุง กระเษม. คลอง ที่ แยก ไป จาก
คลอง ผดุง กรุง กระเษม, ตรง ลง ไป ออก ที่ บางอ้อ ใต้ ปาก
คลอง พระโขนง นั้น, โปรดเกล้า ฯ ให้ เรียก ว่า คลอง ถนนตรง.
ทาง ที่ ริม คลอง นั้น, ก็ ให้ เรียก ว่า ทาง ถนนตรง.

๏ ทาง ที่ ทำ ใหม่ ตรง วัด พระเชตุพน, ตรง ออก ไป นอก
กำแพง, ข้าม คลอง ไป ริม บ้าน แขก เมือง เขมร, เลี้ยว ไป


ริ้ว ป้อม ปิดจนึก, แล้ว ข้าม คลอง ผดุง กรุง กระเษม, ตรง
ลง ไป ถึง บาง คอแหลม นั้น, โปรด เกล้า ฯ ให้ เรียก ว่า ถนน
จำเริญกรุง. ห้าม อย่า ให้ เรียก อย่าง อื่น ต่อ ไป. จด หมาย ประ
กาศ ให้ ราษฎร รู้ จง ทั่ว. ๚ะ

ข่าวต่างๆ

๏ มี ข่าว มา ว่า, ที่ เมือง มันเดเล เมือง หลวง พม่า นั้น
เกิด ไฟ ไหม้ ใหญ่ แทบ จะ หมด บ้าน ใน เมือง นั้น, เว้น ไว้ แต่
พระราชวัง. ใน หลวง ก็ ทรง พระ วิตก นัก, แล้ว ยก เอา พระ
พุทธรูป องค์ หนึ่ง ใหญ่, ไป ไว้ บน เขา แห่ง หนึ่ง, แล้ว ทำ
เปน พลับพลา เสด็จ ประทับ อยู่ ที่ นั้น พลาง. พระพุทธรูป นั้น
เมื่อ กำลัง นั่ง อยู่ ก็ สูง ได้ ๕๔ ฟุต. ทำ ด้วย หินสา ที่ เกิด
ใกล้ เมือง มันเดเล นั้น, ไกล ออก ไป ประมาณ ได้ ๔๘ ไมลย์.

๏ มี ข่าว มา เร็ว ๆ นี้, บอก ว่า บริก ชื่อ เรลเว เปน ของ
ของ เมือง สยาม, ถูก ลม พยุะ ที่ ทเล จีน เสา ทั้ง สอง นั้น ก็
หัก ไป. มี เรือ กล ไฟ อังกฤษ มา ช่วย ไป, ลม ก็ ยัง กล้า
ช่วย ไม่ ไหว, ต้อง ปล่อย เสีย ให้ ลอย ไป ตาม ลม. ตั้ง แต่ นั้น
ไม่ ได้ ข่าว ว่า ไป ข้าง ไหน.

๏ อนึ่ง มี ข่าว มา ใหม่ ว่า, คน สอง คน ที่ เปน ฝา แฝด
ที่ เกิด ใน เมือง สยาม นี้, ที่ ไป อยู่ เมือง อเมริกา นั้น. แต่
ก่อน เขา ก็ ได้ ทรัพย์ สมบัติ มาก, เพราะ เที่ยว สำแดง ตัว ให้ คน
ทั้ง ปวง เหน, เขา ก็ ได้ เมีย ทั้ง สอง คน เกิด ลูก ทั้ง สอง ฝ่าย.
ลง ไป อยู่ เมือง อเมริกา ฝ่าย ใต้, ทำ บ้าน ทำ สวน สบาย อยู่.
แต่ เมื่อ เกิด ศึก สงคราม นั้น, ทรัพย์ สมบัติ ของ เขา ก็ หาย ไป
หมด. เขา หมาย ใจ ว่า จะ เที่ยว ไป สำแดง ตัว เหมือน อย่าง
ก่อน, แต่ จะ เอา ลูก เมีย ไป ด้วย เพื่อ จะ หา ทรัพย์ อีก.

๏ มี ข่าว มา แต่ เมือง มังกลา ฝ่าย เหนือ ว่า, อหิวาตกะ,
โรค เกิด มาก ที่ เมือง เนงชิงโปร, แล เมือง ซีโนอี นั้น, คน
ตาย มาก, บาง แห่ง ก็ ไม่ ใคร่ จะ มี คน เหลือ อยู่ เลย.

๏ ข่าว มา แต่ เมือง อังกฤษ ว่า, เกิด โรค โค กระบือ ใน
แขวง เมือง อังกฤษ มาก นัก. โค กระบือ ที่ อยู่ ด้วย กัน นั้น โรค
ก็ ติด กัน. ชาว เมือง อังกฤษ ก็ รักษา แล้ว ไม่ ให้ อยู่ ด้วย กัน,
เพื่อ จะ ไม่ ให้ โรค นั้น เกิด ทวี ขึ้น. เขา ก็ เสีย ทรัพย์ เพราะ โรค
นั้น ราคา เปน หลาย หมื่น เหรียน. บาง จำ พวก ก็ ว่า โรค เกิด ใน


เมือง นั้น เอง, บาง จำ พวก ก็ ว่า โรค นั้น เกิด มา แต่ นอก เมือง
ไม่ ตก ลง กัน.

๏ ข่าว มา แต่ เมือง อเมริกา ว่า ด้วย การ ที่ เข๊น เรือ ที่ ต่อ
ใหม่ ใหญ่ นัก ที่ เมือง นิวยอก, เข๊น ลง เมื่อ ณวัน สาร์ แรม
๑๔ ค่ำ เดือน ๙ ปี ฉลู สัปต ศก. เขา ให้ ชื่อ เรือ นั้น ว่า, ดอน
เดอ เบิก แปล เปน ภาษา ไทย ว่า, ภู เขา ฟ้า ร้อง. เรือ นั้น เขา หุ้ม
ด้วย เหล็ก หนา, จุ ของ มี น้ำ หนัก ๕ พัน ตอน. เปน เรือ กลไฟ ๕
พัน แรง ม้า, มี ปืน ใหญ่ ๔ บอก อย่าง ที่ เรียก ว่า, รัดมัน ปาก
บอก กว้าง ๑๐ นิ้ว. มี ปืน อีก อย่าง หนึ่ง เรียก ว่า, ดัลเครน ๑๔
บอก, ปาก บอก นั้น กว้าง ๙ นิ้ว. เรือ นั้น ยาว ๓๘๐ ฟุต, กว้าง
๗๓ ฟต. เครื่อง อาวุธ ที่ บันทุก นั้น น้ำ หนัก ๑๐๐๐ ตอน. ผู้ ที่
ต่อ เรือ นั้น สัญญา ไว้ ว่า, จะ ให้ แล่น ไป โมง ละ ๑๕ ไมล์ ได้.

คำ ปริศนา

๏ ใน กาล ก่อน มี ละมั่ง ใหญ่ ตัว หนึ่ง, มี อายุ มาก, มัก
เบียด เบียน ใน หมู่ สัตว พวก เดียว กัน. ครั้น มา วัน หนึ่ง, ละ
มั่ง ตัว นั้น ออก มา กะทืบ ดิน ด้วย ท้าว ของ ตัว, ด้วย กำลัง ถือ
ตัว ว่า, เปน ใหญ่ ไม่ กลัว ใคร, แล้ว สบัด ศีศะ ทำ อาการ เหมือน
จะ มี คำ บังคับ พวก ของ ตัว. แล้ว บืบ ร้อง ด้วย เสียง อัน ดัง,
ดู น่า กลัว, พวก บริวาร ของ ตัว ก็ กลัว จน ตัว สั่น. ใน ขณะ นั้น
ลูก ละมั่ง ตัว เล็ก ๆ ก็ เข้า มา หา, แล้ว กล่าว แก่ ละมั่ง ใหญ่ นั้น
ว่า, เหตุ ไร ท่าน ที่ มี ตัว ใหญ่ กำลัง มาก ไม่ มี ใคร จะ สู้ ได้ ใน
กาล ทุก เมื่อ. ถ้า เว้น ไว้ แต่ เวลา ที่ หมา ไล่ เนื้อ วิ่ง ไล่ มา.
เมื่อ ท่าน เหน ดัง นั้น, ก็ ครั่น คร้าม นัก แทบ จะ โดด ออก จาก
หนัง ของ ตัว. ฝ่าย ละมั่ง ใหญ่ จึ่ง ตอบ ว่า, คำ ที่ เจ้า กล่าว นั้น ก็
จริง อยู่. เหตุ อะไร ที่ เรา เปน ดั่ง นั้น ก็ ไม่ รู้ เลย, เรา ก็ มี กำ
ลัง ใหญ่ ก็ จริง อยู่, แล เรา อาจ จะ ยืน รักษา พวก เรา ไว้ ให้ ดี
ไม่ กลัว ใคร, แล เรา ก็ ตั้ง ใจ แขง แรง เนื่อง ๆ ว่า จะ ไม่ กลัว
เหตุ ใด ๆ ต่อ ไป ใน เบื้อง หน้า, แต่ ทว่า ใจ ของ เรา จะ ทำ ตาม
ที่ เรา บังคับ นั้น ก็ ไม่ ได้, เมื่อ เรา ได้ ยิน แต่ เสียง หมา ไล่ เนื้อ
แต่ บันดา กำลัง ใน ใจ นั้น, ก็ เสื่อม สูญ ไป, แล เรา จะ ห้าม ตัว
ไม่ ให้ หนี ไป ตาม เต็ม กำลัง ท้าว เรา ก็ มิ ได้,


๏ หนึ่ง คำ ที่ อังกฤษ เรียก ว่า ไลเปร รี่ นั้น, แปล ว่า เปน
หนังสือ หลาย เล่ม ด้วย กัน. ไลเปรรี่ ใหญ่ กว่า ไลเปรรี่ ทั้ง ปวง


ใน โลกย์. อยู่ ที่ เมือง ปาริศ ฝรั่งเสศ ประเทศ, มี แปด แสน
เล่ม ด้วย กัน.

๏ อนึ่ง คำ อังกฤษ หมด ด้วย กัน เปน แสน หนึ่ง. มี แต่ ๒๖
ตัว อักษร.

๏ อนึ่ง อา สึกสกันเดอร์, เจ้า เมือง เฮเลน , ได้ ชนะ เมือง
ทั้งปวง ใน ๑๓ ปี. แล้ว น้ำ องุ่น ๔ ขวด ก็ มา ฆ่า ตัว เสีย ใน
วัน เดียว.

๏ อนึ่ง เอมปีรอ เนโปเลียน โบนิปาติ, ที่ เปน แม่ ทัพ ใหญ่
ยิ่ง ฝ่าย ฝรั่งเสศ นั้น, เวลลิงตัน แม่ ทัพ อังกฤษ ก็ อาจ จับ ตัว
ได้. แล เคาเวอเมนต์ อังกฤษ ก็ เอา ตัว เนโปเลียน โบนิปาติ ไป จอง
จำ ทำ โทษ ที่ เกาะ เสนต์ เฮลลินา เปน ๕ ปี เศษ แล้ว จึ่ง ตาย.


บางกอก ดอกกำปนี คือ เจ้า ของ อู่ ใหม่

๏ อู่ แห่ง นี้ พึ่ง ทำ แล้ว, พร้อม ใจ จะ รับ เรือ ใหญ่ น้อย ทุก
อย่าง. เชิญ ให้ ท่าน เจ้า ของ เรือ, แล นาย เรือ ทั้งหลาย, จง พิ
จารณ ดู อู่ ใหม่ นี้. คง จะ เหน ว่า เปน อู่ ดี กว่า อู่ ทั้ง ปวง ใน บุระ
ประเทศ นี้. จะ ได้ แก้ เรือ ซ่อม แปลง เสีย ใหม่ โดย สดวก ดี. ที่
อู่ นั้น ยาว ได้ ๓๐๐ ฟุต, แล คง จะ ให้ ยาว กว่า นั้น อีก. โดย กว้าง
ได้ ๑๐๐ ฟุต, ฤก ๑๕ ฟุต. ที่ ปาก อู่ มี ปะตู เรียก ว่า ไกชัน, ถ้า
จะ ปิด มิด ได้ โดย เรว. ที่ นอก ปาก อู่ ใน ออก ไป นั้น, จด ถึง
ลำ แม่น้ำ โดย ยาว ๑๒๐ ฟุต. มี เขื่อน สอง ฟาก กว้าง ขวาง แขง
แรง นัก, กำปั่น เล็ก กำปั่น ใหญ่ จะ จอด อาไศรย อยู่ ปาก อู่ ได้ ใน
ทุก เวลา ไม่ เปน อันตราย เลย. แล มี เครื่อง จัก สำหรับ ยก เสา
กะโดง, แล หม้อ น้ำ สำรับ กล ไฟ แขง แรง นัก. อนึ่ง พร้อม
ด้วย เครื่อง สูบ ไป ด้วย กำลัง กลไฟ. มี แรง มาก เพื่อ จะ ให้ สูบ
น้ำ ให้ ออก ได้ โดย เร็ว ได้, ไม่ ว่า น้ำ ขึ้น น้ำ ลง. พร้อม ด้วย
เครื่อง ใช้ ใน การ ทำ เรือ ใบ แล เรือ กล. แล การ นั้น มี นาย ที่
เปน ชาติ ยูรบ, ได้ เคย ทำ การ เช่น นั้น หลาย ปี, จึ่ง ชำนาญ
ใน การ เหล่า นี้ ทุก อย่าง.

๏ แล ลูก จ้าง สำรับ อู่ นั้น เปน คน เลือก มา แต่ ฮ่องกง แล
วัมภู ทั้ง นั้น, เปน คน ชำนาญ ใน การ นั้น. ๏ พวก กำปะนี แห่ง อู่
นั้น, ปราถนา ที่ จะ ให้ คน ทั้งหลาย พิเคราะห์ ดู ว่า, อู่ นี้ ตั้ง อยู่ ที่ มี
ไม้ สัก บริบูรณ แล ถูก ด้วย. ๏ อนึ่ง อู่ นี้ มี จักร เลื่อย ไม้, เพื่อ จะ
ได้ การ เร็ว. หมอน ที่ รอง เรือ สูง ๔ ฟุต, แล จะ ชัก ออก เมื่อ ไก
ก็ ชัก ได้ โดย สดวก, ไม่ ต้อง เสีย อะไร ใน การ เปลี่ยน หมอน นั้น.


๏ อนึ่ง พวก กำปะนี แห่ง อู่นั้น, จะรับ ธุระ คิด ใน การ ที่
จะ ต้อง ลง ทุน ซ่อม แปลง เรือ, แล จะ รับ เหมา เอา การ นั้น,
เรือ ไม้ ก็ ดี เรือ เหล็ก ก็ดี, แล้ จะ รับ ต่อ เรือ ใบ เรือ กล ไฟ ฤา
การ ใด ๆ ที่ ใน การ ช่าง ต่อ เรือ ซ่อม แปลง เรือ. ๏ ไม้ แล
เหล็ก แล ของ อื่น ๆ ที่ จะ ต้อง ซื้อ นั้น, เรา จะ ขาย ให้ ตาม ราคา
ตลาด กรุงเทพ นี้. ๏ อนึ่ง เรือ ทั้งหลาย ที่ จะ เข้า อู่ นั้น, จะ มา
จอด ที่ ทุ่น แห่ง กำปะนี ฤา ที่ เขื่อน นอก อู่ นั้น, ไม่ ต้อง เสีย เงิน
กว่า ผู้ ที่ เปน นาย การ จะ สั่ง ให้ เลื่อน ออก จาก ที่ นั้น เมื่อใด.

๏ อนึ่ง กัปตัน แห่ง เรือ ทั้งหลาย, เมื่อ จะ ออก จาก อู่ นั้น,
ต้อง เขียน ชื่อ ตัว ลง ที่ บาญชี แห่ง นาย อู่ นั้น เสีย ก่อน จึ่ง ออก
ได้. ๏ อนึ่ง แต่ บันดา หนังสือ, ที่ จะ ฝาก มา ถึง อู่ นั้น, ต้อง
ฝาก ไป ถึง มิศเตอ เฮาวาด กว่า จะ ได้ เปลี่ยน อย่าง นั้น, บัดนี้
มิศเตอ เฮาวาด เปน นาย กอง นั้น, เปน เจ้า กระทรวง ใน การ ที่ จะ
ใช้ เงิน เกบ เงิน แต่ ผู้ เดียว.

นายช่าง ต่าง ๆ

๏ ผู้ ที่ จด ชื่อ ที่ สุด ท้าย หนังสือ นี้, เคย ทำ การ ช่าง ใน
ประเทษ ยูรบ มาหลาย ปี, คือ เปน ช่าง จักร, ช่าง เอนชิเนีย, แล
เคย ชำนาญ ใน การ ทำ แผนที่, แล การ คิด ภาค เครื่อง จักร
ต่าง ๆ, แล ได้ รับ การ ตั้ง แล ซ่อม แปลง หม้อ น้ำ กล ไฟ, แล
จักร หีบ อ้อย, แล เครื่อง ไฮโดร เอกซ์แตรกตอ สำรับ ให้ น้ำตาล
แห้ง เร็ว. แล เครื่อง จักร สี เข้า, แล เครื่อง จักร เลื่อย ไม้, แล
เครื่อง หีบ น้ำมัน มพร้าว. แล เครื่อง จักร สำรับ กวาด ตกั่ว, แล
เงิน แล ทอง แดง, แล เครื่อง อัฏ ชื่อ ไฮดรอลิกเปรสซ์, แล ตะ
ภาน เหล็ก, เครื่อง เหล็ก สำรับ ยก ของ ที่ ตะภาน กำปั่น, แล จักร
น้ำ, แล เครื่อง สำรับ จักร ต่าง ๆ, แล การ ใส่ ฟัน จักร ใหญ่, แล
จักร สำรับ สูบ น้ำ ขึ้น บน พืน นา, แล การ ช่าง อื่น ต่าง ๆ.

๏ ข้าพเจ้า ขอ แจ้ง มา ถึง เจ้าของ เรือ กลไฟ, แล จักร สี
เข้า, แล จักร หีบ อ้อย, แล ผู้อื่น ๆ ทั้งปวง ว่า, ข้าพเจ้า พร้อม
ใจ จะ รับ เอา การ ที่ ว่า มา แล้ว ใน หนังสือ นี้. ถ้า ผู้ ใด ๆ ปราถนา
มา หา ข้าพเจ้า โดย การ นี้, ขอ เชิญ ท่าน มา หา ข้าพเจ้า ที่ อู่ ใหม่
ตำบล บ้าน คอก ควาย ใน แขวง กรุงเทพ นี้, ให้ มา ใน รหว่าง
เวลา สี่ โมง เช้า, แล สี่ โมง บ่าย.


๏ วัน ศุกร์ เดือน สิบ สอง ขึ้น ค่ำ หนึ่ง. ภรรยา ของ หลวง
วิสูธ สุร สาคร, ก็ กลับ มา ถึง กรุงเทพ, ฯ ได้ เที่ยว ไป อยู่ ใน


เมือง อังกฤษ นั้น ถึง ๒ ปี ครึ่ง, ภา ลูก มา ๔ คน, ลูก ผู้ หญิง ๓
คน, ลูก ผู้ ชาย เล๊ก คน หนึ่ง, น้อง หญิง ของ ตัว มา ด้วย.


๏ ข้าพเจ้า ผู้ เจ้า ของ จตหมาย เหตุ นี้ ได้ ยิน ข่าว ว่า, คน ที่
ซื้อ บางกอก รีคอเดอ สงไส ว่า, เหตุ ไร ได้ เอา ความ ลง ซ้ำ นัก.
เหมือน อย่าง ที่ ว่า ด้วย อู่ ใหม่ นั้น ได้ ลง ๒ หน ๓ หน แล้ว. ข้อ
อื่น ก็ มี หลาย ข้อ ที่ ลง ซ้ำ หลาย ครั้ง. เหตุผล ประการ ใด จึ่ง
เปน อย่าง นี้. หา ความ ใหม่ ๆ ไม่ ได้ ฤๅ. เขา สงไส บ่น เพ้อ ไป
อย่าง นี้, เพราะ เขา ไม่ รู้ ธรรมเนียม จตหมาย เหตุ. ข้อ ที่ ลง
ซ้ำ อย่าง นั้น เปน ความ อย่าง หนึ่ง, ที่ เจ้า ของ เนื้อ ความ นั้น
ปราถนา จะ ให้ คน ทั้งปวง ดู ทุก ที่ ทุก ครั้ง ไม่ ลืม. เหมือน เรื่อง
อู่ ใหม่ นั้น เขา ก็ จ้าง ให้ ลง พิมพ์ ทุก ๆ ครั้ง, ด้วย ให้ ค่า จ้าง รา
คา ครั้ง ละ ๒ เหรียน. ข้อ ความ ที่ ลง ซ้ำ ๆ อย่าง นี้, อังกฤษ
เรียก ว่า แอดเวอไตศเมนต์. ใคร ๆ ปราถนา จะ ให้ ลง ซ้ำ ก็ จำ
เปน ให้ ลง ตาม ธรรมเนียม, ที่ จะ ปัด เสีย ไม่ เอา ก็ ไม่ ได้. ลาง
ที ข้อ ความ ที่ ลง ซ้ำ ๆ เช่น นี้, ใน จตหมาย เหตุ ฉบับ หนึ่ง มี
ถึง ๓ น่า ๔ น่า ก็ มี, เนื้อ ความ ใหม่ ๆ มี แต่ ๒ น่า. แต่ แรก
ข้าพเจ้า หมาย ว่า จะ ทำ เนื้อ ความ ใหม่ ๆ ลง ใน จตหมาย เหตุ ให้
ได้ ๔ ใบ ทุก ที่ ๆ. เหน คน ชอบ ใจ ได้ มาก จึ่ง ได้ จัด แจง ให้ มี
๖ ใบ. แต่ ใน ใบ ที่ ๕ ที่ ๖ นั้น, ก็ คง จะ มี เนื้อ ความ ซ้ำ ต่อ
ไป บ้าง เล๊ก น้อย. อย่า ให้ ผู้ ซื้อ ว่า กะไร เลย, ด้วย ให้ เกิน ไป
มาก กว่า ๔ ใบ ที่ ได้ สัญญา ไว้ แล้ว.


ราคา สินค้า กรุงเทพ

๏ คน ทั้งหลาย ทั้งปวง เข้าใจ ว่า, เข้า ที่ จะ เกิด ใหม่ ปี
นี้ ก็ จะ มี บริบูรณ. ราคา เข้า เก่า ก็ ตก ลง มาก แล้ว, นา เมือง
เกวียรละ ๕๒ บาท, นาสวน เกวียรละ ๖๓ บาท.

๏ น้ำตาล ทราย ขาว ที่ ๑, หาบ ละ ๑๔ บาท สอง สลึง เฟือง.
ที่ ๒ หาบ ละ ๑๔ บาท. ที่ ๓ หาบ ละ ๑๓ บาท สลึง.

๏ น้ำ ตาน ทราย แดง, หาบ ละ ๖ บาท สอง สลึง. น้ำ ตาน
ทั้ง ๒ อย่าง นี้ ก็ มี น้อย.

๏ พริก ไทย ดำ, หาบ ละ ๑๐ บาท มี น้อย ดอก.

๏ ไม้ ฝาง อย่าง ที่ ๔ ดุ้น ๕ ดุ้น เปน หาบ นั้น, ราคา หาบ
ละ ๒ บาท สลึง. อย่าง ที่ ๕ ดุ้น ๖ ดุ้น เปน หาบ นั้น, ราก


หายละ ๒ บาท ๓ สลึง. ไม้สัก ยกละ ๑๐ บาท สองสลึง,
แต่มี น้อย.

๏ ไม้ชิงชัน, ๑๐๐ หาบ เปน ราคา ๒๖๐ เหรียน และ ๒๔๐
เหรียน, ตามใหญ่ ตาม เล็ก.

๏ หนัง ควาย, หาบละ ๑๐ บาท สลึง. หนัง วัว หาบละ ๑๓
บาท สองสลึง.

๏ เขาฅวาย, หาบละ ๑๐ บาท สาม สลึง.

๏ กำยาน อย่าง ดี หาบละ ๒๑๐ บาท, อย่าง กลาง ๑๕๐ บาท.

๏ รง, หาบละ ๔๙ บาท.

๏ งาเมด, หาบละ ๗๙ บาท สองสลึง.

๏ ครั่ง อย่าง ที่ ๑, หาบละ ๑๓ บาท, อย่าง ที่ ๒
หาบละ ๑๑ บาท.

๏ งาช้าง, หาบ ละ ๓๓๐ บาท และ ๒๓๕ บาท ตาม ใหญ่
ตาม เล็ก.

๏ กระวาล, หาบละ ๑๖๑ บาท.

๏ เร่ว, หาบละ ๒๑ บาท สามสลึง เฟื้อง.

๏ น้ำมันมพร้าว, น้ำ หนัก ม่อละ ๒๐ ชั่ง, ราคา ม่อละ ๕
บาท สองสลึง.

๏ กระสอบ, พัน ใบ ราคา ๘๓ บาท. ๏ ไหม เมือง ลาว,
หาบละ ๒๕๖ บาท. ๏ ไหม เมืองญวน หาบ ละ ๗๐๐ บาท.

๏ ทองคำเปลว ที่ ๑ หนัก บาท หนึ่ง, เปน เงิน ๑๙ บาท สาม
สลึง.

๏ การ แลก เงิน เหรียน ที่ สิงคโปร, ได้กำไร ๑๐๐
ละ ๕ เหรียน.


เรื่อง ขุด คลอง

๏ ข้าพเจ้า ๆ ของ หนังสือ บางกอก วิคอเดอ, ได้ ยีน ว่า,
พระเจ้าแผ่น ดิน กรุง สยาม ทรง พระ กรุณา, จะให้ ขุด คลอง
ตั้ง แต่ วัดเจ้าพระนางเชิง, ตัด ท้อง ทุ่ง ดอน เมือง, ตรง ตลอด
มา โดย ลำดับ มา ออก ตรง วัดโสมนัศวิหาร. ข้าพเจ้า มี ความ
ยินดี ด้วย นักหนา. ข้าพเจ้า พิจารณา เหน ว่า, ถ้า ขุด คลอง
ตลอด ไป ได้ แล้ว, ก็ จัก เปน คุณ เปน ประโยชน์ แก่ บ้าน เมือง
เปน อัน มาก. เพราะ พวก ราษฎร จะ ได้ อาไศรย์ ทำ นา. ครั้น
เนื้อ นา เกิด ทวี มาก ขึ้น แล้ว, ก็ จะ เปน ประโยชน์ สอง ฝ่าย.


คือ ผล เม็ดเข้า จะ มี มาก ขึ้นใน พื้น บ้าน เมือง ประการ หนึ่ง. ภาษี
แล ค่า นา ก็ จัก เจริญ มาก ขึ้น, ใน ท้อง พระคลัง ประการ หนึ่ง.
แล้ว พวก อาณา ประชา ราษฎร, ก็ จะ ได้ อาไศรย์ น้ำ ใน คลอง นั้น
แล้ว. ก็ จะ ชวน กัน ตั้ง บ้าน เรือน อยู่ เปน สุข สบาย เพราะ พระ
บารมี โพทธิสมภาร, ของ สมเด็จ พระเจ้า แผ่นดิน กรุง สยาม นี้ แล.


กระษัตริย์ เมือง ยิปุ่น แทบ ถึง แก่ กรรม

๏ ว่า ด้วย มี ข่าว มา แต่ เมือง ยี่ปุ่น ว่า, ท่าน กระษัตริย์ เมือง
ยิปุ่น ที่ เขา เรียก ว่า, ไต้ กุน แทบ จะ เปน อันตราย ถึง แก่ ชีวิตร
เพราะ คน จำพวก หนึ่ง คิด ร้าย, ขุด หลุม ใต้ ที่ จะ มา ประ ทับ บัน
ทม ของ กระษัตริย์ นั้น. แล้ว เอา ดิน ปืน ใส่ ใน หลุม นั้น ด้วย. มี
คน หนึ่ง รู้ ความ ที่ คิด ร้าย นั้น ก่อน. แต่ กระษัตริย์ ยัง ไม่ เสด็จ มา
ถึง ที่ นั้น. จึง เข้า ไป เฝ้า อ้อน วอน เพื่อ มิ ให้ กระษัตริย์ เสด็จ ไป
ประทับ บันทม ภัก ใน ที่ นั้น, เมื่อ กระษัตริย์ ยัง สง ไสย อยู่, คน
นั้น จึง ทูล ว่า, ข้าพเจ้า ก็ เปน ข้า ของ ธนดาซามา ที่ เปน เจ้า ผู้


ใหญ่ ใน พวก ที่ คิด ร้าย นั้น. ฮนดาซามา ก็ ให้ ข้าพเจ้า เอา เปน
ธุระ จัด แจง ใน ที่ นั้น, ข้าพเจ้า จึ่ง รู้ ใน การ นั้น ว่า, เตรียม ไว้
เสร็จ แล้ว เปน แน่. ฃอ พระองค์ อย่า เสด็จ ไป เลย. เพราะ เหตุ
คน มา บอก ดั่ง นี้. กระษัตริย์ นั้น จึ่ง พ้น อันตราย, แต่ ข่าว
กระษัตริย์ นั้น ก็ ไม่ สบาย, เศร้า หมอง พระไทย นัก.


ความ เตือน อัน อ่อน

๏ ครั้ง ก่อน มี ขุนนาง ผู้ใหญ่, ได้ นั่ง กิน โตะ ด้วย กัน
กับ คน อื่น มาก นั่ง แน่น กัน นัก. มี คน หนึ่ง ที่ พูด มาก ๆ นั่ง
ใกล้ กัน กับ คน นั้น. คน ที่ พูด มาก นั้น, ครั้น พูด แล้ว ก็ ยก
มือ ไป มา ตาม คำ ที่ เขา พูด ด้วย. ขุนนาง นั้น จึ่ง บอก กับ เขา
นั้น ว่า, มือ ของ ท่าน เปน เครื่อง รำคาญ ใจ ข้าพเจ้า นัก. คน
นั้น จึ่ง ตอบ ว่า, ฃอ รับ กระผม คน แน่น นัก, เกล้า ผม ไม่ รู้ ที่
จะ เอา ไว้ ที่ ไหน ได้, ขุนนาง นั้น จึ่ง ตอบ ว่า, ถ้า อย่าง นั้น
ก็ เอา มือ ยัด ไว้ ใน ปาก เสีย เถิด.


๏ ประนิทิน บอกโมงแล ทุ่มใน ข้าง แรม เดือน นี้. ๚ะ


คำ อังกฤษ

คำ ไทย

คำ จีน

อาทิตย์ ขึ้น กี่โมง

อาทิตย์ ตก กี่โมง

อาทิตย์ เที่ยง กี่โมง

จันทร์ ขึ้น กี่ ทุ่ม

วัน ศุกร 

ค่ำ

ขึ้น

๑๕ ค่ำ

๑๕ ค่ำ

๑๑ ทุ่ม

๕๙ นาที

โมง ๒๙ นาที

๑๒ โมง ๑๖ นาที

โมง

นาที

วัน เสาร์ 

ค่ำ

แรม

ค่ำ

๑๖ ค่ำ

๑๑ ทุ่ม

๕๙ นาที

โมง ๒๘ นาที

๑๒ โมง ๑๖ นาที

โมง

๕๒ นาที

วัน อาทิตย์ 

ค่ำ

"

  ค่ำ

๑๗ ค่ำ

ย่ำรุ่ง


โมง ๒๘ นาที

๑๒ โมง ๑๖ นาที

ทุ่ม กับ

๕๑ นาที

วัน จันทร 

ค่ำ

"

  ค่ำ

๑๘ ค่ำ

"


โมง ๒๘ นาที

๑๒ โมง ๑๖ นาที

ทุ่ม

๔๘ นาที

วัน อังคาร

ค่ำ

"

  ค่ำ

๑๙ ค่ำ

"


โมง ๒๗ นาที

๑๒ โมง ๑๖ นาที

ทุ่ม

๔๕ นาที

วัน พุทธ 

ค่ำ

"

  ค่ำ

๒๐ ค่ำ

ย่ำรุ่ง แล้ว

นาที

โมง ๒๗ นาที

๑๒ โมง ๑๖ นาที

ทุ่ม

๔๑ นาที

วัน พฤหัสบดี 

ค่ำ

"

  ค่ำ

๒๑ ค่ำ

"

นาที

โมง ๒๗ นาที

๑๒ โมง ๑๖ นาที

ทุ่ม

๓๑ นาที

วัน ศุกร 

๑๐ ค่ำ

"

  ค่ำ

๒๒ ค่ำ

"

นาที

โมง ๒๗ นาที

๑๒ โมง ๑๖ นาที

เวลาช้า

วัน เสาร์ 

๑๑ ค่ำ

"

  ค่ำ

๒๓ ค่ำ

"

นาที

โมง ๒๗ นาที

๑๒ โมง ๑๖ นาที

ทุ่ม

๒๒ นาที

วัน อาทิตย์ 

๑๒ ค่ำ

"

  ค่ำ

๒๔ ค่ำ

"

นาที

โมง ๒๗ นาที

๑๒ โมง ๑๖ นาที

ทุ่ม

๑๐ นาที

วัน จันทร 

๑๓ ค่ำ

"

๑๐  ค่ำ

๒๕ ค่ำ

"

นาที

โมง ๒๗ นาที

๑๒ โมง ๑๖ นาที

ทุ่ม

๕๖ นาที

วัน อังคาร 

๑๔ ค่ำ

"

๑๑ ค่ำ

๒๖ ค่ำ

"

นาที

โมง ๒๖ นาที

๑๒ โมง ๑๕ นาที

ทุ่ม

๔๓ นาที

วัน พุทธ

๑๕ ค่ำ

"

๑๒ ค่ำ

๒๗ ค่ำ

"

นาที

โมง ๒๖ นาที

๑๒ โมง ๑๕ นาที

ทุ่ม

๒๙ นาที

วัน พฤหัสบดี 

๑๖ ค่ำ

"

๑๓ ค่ำ

๒๘ ค่ำ

"

นาที

โมง ๒๖ นาที

๑๒ โมง ๑๕ นาที

๑๐ ทุ่ม

๑๗ นาที

วัน ศุกร 

๑๗ ค่ำ

"

๑๔ ค่ำ

๒๙ ค่ำ

"

นาที

โมง ๒๖ นาที

๑๒ โมง ๑๕ นาที

๑๑ ทุ่ม

นาที

วัน เสาร์ 

๑๘ ค่ำ

"

๑๕ ค่ำ

ชื้น ค่ำ

"

นาที

โมง ๒๖ นาที

๑๒ โมง ๑๕ นาที

จันทร์ ตก



๏ บอก ให้ คน ทั้งปวง รู้ ๚ะ

๏ ผู้ ที่ ลง ชื่อ ใต้ ข้อความ นี้ ได้ ที่ ตั้ง เปน พนักงาน สำ
รับ จัด แจง ชำระ ทรัพย์ สมบัด ที่ ได้ เปน ของ มิศเตอ โรเบิต
ฮันแตร ที่ ได้ ตาย ณ วันพุท เดือน ห้า แรม เก้า ค่ำ ปีฉลู สัปต
ศก นั้น. ข้าพเจ้า จะ ฃอ ท่าน ทั้งหลาย ที่ เปน ลูก หนี้ แก่ สม
บัด แห่ง มิศเตอ โรเบิต ฮันแตร นั้น ให้ มา ใช้ หนี้ นั้น ให้ เรว
แล ท่าน ทั้งหลาย ผู้ ที่ มี เงิน ติด อยู่ ใน สมบัด นั้น. ฃอ ส่ง
บัญชี เงิน นั้น เรว อย่า ช้า อยู่ เลย ๚ะ

๏ เขียน ณวัน เดือน สิบ สอง ขึ้น สิบ สอง ค่ำ ๚ะ

อาร์. เอศ. ซกอค.

๏ ใน กาล กอ่น นั้น มี ตัว อูฐ เข้า มา เฝ้า, ยูปีเตอ คือ ดาว
ดวง หนึ่ง, ที่ เขา ถือ ว่า เปน เจ้า. อูฐ นั้น ตุก เข้า ลง ร้อง ทุกข์
แก่ ยูปีเตอ ว่า, ข้าพเจ้า เปน สัตว ทน ความ ลำบาก นัก, เพราะ
ความ ที่ ไม่ มี เขาศีศะ, ฤา เครื่อง อาวุธ อื่น ๆ ที่ จะ รักษา ตัว, เหมือน
งัว ผู้ แล สัตว อื่น ต่าง ๆ. ขอ ท่าน ได้ โปรด ให้ ข้าพเจ้า มี เขา,
ฤา เครื่อง อื่น ๆ ที่ จะ ให้ เรา ต่อ สู้ พวก สัตรู ของ เรา ได้, ตาม
ที่ ท่าน จะ เห็น ควร. ฝ่าย ยูปีเตอ ได้ ยิน คำ ร้อง ทุกข์ เปน ความ
ที่ ไม่ ควร ปราถนา ดัง นั้น, ก็ อด หัวเราะ ไม่ ได้. แล้ว จึง บอก
อูฐ ว่า, เรา จะ ไม่ ทำ ตาม เจ้า ใน ข้อ นั้น เลย. แต่ เรา จะ ลง
โทษ แก่ เจ้า, เพราะ เจ้า บังอาจ มา ขอ, ที่ ไม่ สม ควร จะ ขอ นั้น
ตั้ง แต่ นี้ ไป จะ ให้ เจ้า มี หู สั้น ไป, เพื่อ จะ ได้ เปน ที่ ประกาศ
ซึ่ง ความ ผิด ของ เจ้า ต่อ ๆ ไป เปน นิจ แล.


กำปั่น เข้า กรุงเทพ

เข้ามา เมื่อไร

กำปั่น ชื่อ ไร

กับตัน ชื่อ ไร

ที่ ทอน

เรือ อไร

มา แต่ ไหน

เดือน ๑๒ ขึ้น ค่ำ

กะตินา

คัมมิง

๒๕๘

บริต อังกฤษ

สิงคโปร์

ค่ำ

คัลโรรี่

เคร

๓๗๕

บาก อังกฤษ

ฮอง กง

ค่ำ

เอมเปรสโยน

ไบรบี้

๖๓๔

บาก ฮอลันดา

ฮอง กง

ค่ำ

เซนต์แมเร

ครอก

๔๑๑

บาก สยาม

ฮอง กง

ค่ำ

เอคเตอน

ไชเวด

๒๕๐

บาก อเมริกัน

ฮอง กง

ค่ำ

เมตลดาท

คิตอน

๒๒๘

บาก อังกฤษ

ฮอง กง

ค่ำ

โปรซีนาเทีย

ชาวิต

๓๖๘

บาก อังกฤษ

ฮอง กง

๑๐ ค่ำ

แอนเตอไปรซ์

ซอมเฟลต์

๔๘๘

บาก สยาม

ฮอง กง

๑๒ ค่ำ

เบกชี

โอนส์

๒๘๓

บริก อังกฤษ

ฮอง กง

๑๓ ค่ำ

เฟลพัล

ฟิลบค

๒๘๔

บาก อังกฤษ

สิงคโปร์

ออก เมื่อไร

กำปั่น ออก จาก กรุงเทพ

จะ ไป ไหน

เดือน ๑๑ แรม ๑๔ ค่ำ

ซัมปาฮอนกอก

ครอฟอก

๒๗๗

บาก อังกฤษ

ลอนดอน

๑๒ ขึ้น ค่ำ

ปรอเปอโรติ

แอนดริว

๖๐๔

ชิบ สยาม

สิงคโปร์

ค่ำ

เอ.เปกโรแมน

วรเนทก

๗๗๓

บาก ฮอลันดา

ซูราบายา

ค่ำ

เจ้าพระยา

ออร์ตัน

๓๕๓

กลไฟ สยาม

สิงคโปร์

ค่ำ

เอลาคิค

ปอ

๔๑๓

ชิบ แฮมเบิก

ซูราบายา

ค่ำ

เอแปลไลย์

ไบรบี้

๕๓๔

บาก ฮอลันดา

ปตาเวีย